12 เม.ย. 2021 เวลา 02:20 • หุ้น & เศรษฐกิจ
หุ้น Blue Chip คืออะไร
สำหรับนักลงทุนหน้าใหม่ อาจจะยังไม่ค่อยคุ้นหูมักนักเกี่ยวกับหุ้นกลุ่ม หุ้นบลูชิพ ( Blue Chip ) เพราะไม่มีอะไรบ่งบอกถึงความเป็น Blue Chip และจะรู้ได้อย่างไรว่า ตัวไหนคือหุ้นทำเงินในหุ้นกลุ่ม Blue Chip
สำหรับนิยามของหุ้น Blue Chip ถือเป็นศัพท์แสลงในวงการหุ้น โดยรากฐานคำที่ใช้เรียกหุ้นในกลุ่มนี้มาจากแวดวงการพนัน โดยมีพื้นฐานมาจากชิพสีต่าง ๆ ที่ใช้ในการเล่นการพนัน โดยที่ชิพสีน้ำเงินจะมีมูลค่าสูงที่สุด
ดังนั้น เมื่อมีการนำคำว่า หุ้น Blue Chip มาใช้อธิบายลักษณะของหุ้น จึงมีความหมายว่า หุ้นตัวนั้นมีความแข็งแกร่งประดุจดังเพชร มีทุนในการประกอบกิจการสูงมาก อีกทั้งยังมีผลกำไรเติบโตอย่างต่อเนื่อง สร้างผลตอบแทนที่ดีทั้งในภาคธุรกิจและผู้ถือหุ้นทั้งหลาย
ถ้าจะมองในมุมของสาย VI คงต้องบอกว่า หุ้น Blue Chip เป็นเหมือนเพชรประดับยอดมงกุฎของกลุ่มหุ้น VI เพราะพื้นฐานของหุ้น VI คือ หุ้นที่มีการจ่ายปันผลดี ถือเก็บกินปันผลระยะยาวได้ แล้วยิ่งถ้าเป็น VI ที่เป็น หุ้น Blue Chip แล้ว มันจะยิ่งแข็งแกร่งมันคงขนาดไหน
💥 โดยสรุปความหมายของหุ้น Blue Chip ก็คือ หุ้นที่มีพื้นฐานธุรกิจที่ดี มีความมั่นคง ผลการดำเนินงานเติบโตต่อเนื่อง มีสภาพคล่อง ในการซื้อขายค่อนข้างสูง Market Cap. ขนาดใหญ่ และอยู่ในดัชนี SET50 Index
1
หุ้น Blue Chip จึงจัดได้ว่าเป็นหุ้นชั้นดี มีความเสี่ยงที่ค่อนข้างต่ำ จึงส่งผลให้หุ้น Blue Chip มีราคาค่อนข้างสูง โดยคุณสมบัติคร่าว ๆ ของการคัดเลือกหุ้น Blue Chip มีดังต่อไปนี้
📌 มีมูลค่าหลักทรัพย์ หรือ Market Cap ขนาดใหญ่ สำหรับตลาดหุ้นไทย กำหนดไว้ว่า มูลค่าหลักทรัพย์ทางการตลาดของหุ้น Blue Chip ต้องมีมูลค่าที่สูงกว่า 100,000 แสนล้านบาทขึ้นไป
📌 มีผลกำไรต่อเหนือติดต่อกันยาวนาน 5 ปีขึ้นไป สถานะทางการเงินมั่นคง มีผลกำไรอย่างต่อเนื่อง ผู้บริหารมีชื่อเสียงในด้านความสามารถ
📌 บริษัทเป็นที่รู้จักในวงกว้าง สินค้าและบริการมีคุณภาพ แม้อาจไม่ได้เป็นผู้นำหลัก แต่ถือเป็นผู้มีส่วนสำคัญในการกำหนดทิศทางของตลาดได้
📌 เป็นบริษัทผู้นำตลาด มีความสามารถในการแข่งขันสูง
ตัวอย่าง : หุ้นบลูชิพในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เช่น
ADVANC (บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)
CPALL (บริษัท บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน)
CPF (บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน)
DELTA (บริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
PTT (บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
SCC (บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน)
BBL (ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
TISCO (บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
เป็นต้น
ตัวอย่าง: หุ้นบลูชิพของต่างประเทศ เช่น
FB (Facebook)
BABA (Alibaba Group Holding)
JNJ (Johnson & Johnson)
ABBV (AbbVie)
IBM (International Business Machines Corp.)
XOM (Exxon Mobil Corp.)
KO (Coca-Cola Co.)
JPM (JPMorgan Chase & Co.)
เป็นต้น
💦.....เหล่านี้คือข้อมูลที่ใช้ในการประกอบการตัดสินใจว่าหุ้นตัวไหนคือ หุ้น Blue Chip ที่นักลงทุนทั้งหลายต่างมองหา และรอเข้าซื้อเพื่อการลงทุน เราสามารถฝึกฝนได้ด้วยการอ่านงบการเงิน รวมไปถึงดูผลประกอบการของหุ้นหลาย ๆ ตัว แล้วลองชั่งใจดูว่า มันใช่หุ้น Blue Chip ที่นักลงทุนต่างค้นหากันอยู่หรือเปล่า
เรียบเรียงโดย : ลงทุนในบัญชีและภาษี
สามารถเยี่ยมชมเราผ่านช่องทางอื่นตามลิ้งข้างล่างนี้ค่ะ :
ขอบคุณกำลังใจและการติดตามนะคะ ทุกการอ่าน ไลค์ แชร์ หรือคอมเม้นท์มีความหมายเสมอค่ะ
❤❤🙏🙏❤❤

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา