กรณีศึกษา Doraemon กลยุทธ์การตลาดที่เราน่านำไปใช้ 📍
โดราเอมอนเป็นการ์ตูนที่ทุกๆ คนรู้จัก และปีนี้ก็ได้มีการทำหนังฉลองครบรอบ 50 ปีของโดราเอมอนออกมา
แต่นอกจากความสุขและความสนุกที่เจ้าแมวหุ่นยนต์สีฟ้ามีให้เราตลอดมาแล้ว
มันมีบทเรียนการตลาดในแง่มุมไหนที่เราเรียนรู้จากโดราเอมอนได้บ้าง? 🤔
สิ่งแรกอย่างที่ได้กล่าวไปก็คือ ‘ความยั่งยืน’ ของการ์ตูนเรื่องนี้ ซึ่งอายุรวมกันเข้าปีที่ 51 ไปแล้ว
โมเดลนี้ทำให้เรานึกถึงปรัชญาทางธุรกิจ ‘ริเน็น’ ของ ดร.กฤตินี พงษ์ธนเลิศ อาจารย์ประจำภาควิชา พาณิชยาศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ที่หมายถึงการทำธุรกิจอย่างยั่งยืนโดยรู้ว่าตัวเองทำไปเพื่ออะไร และมีหัวใจในการทำประโยชน์เพื่อสังคม มากกว่าการเน้นสร้างกำไรให้แต่ตัวเอง 💛
ซึ่ง 2 ผู้แต่งโดราเอมอนที่ใช้นามปากการ่วมกันว่า Fujiko F. Fujio ก็ดูจะมีความรักต่อการวาดการ์ตูนเพื่อส่งมอบให้ผู้คนได้อ่านอย่างชัดเจน (ทั้งคู่ฝึกวาดรูปร่วมกันมาตั้งแต่สมัยประถม)
ปรัชญาริเน็นนี่เองที่ทำให้บริษัทมากมายในญี่ปุ่นมีอายุยืนยาวมากกว่า 100 ปี 🌳
เรื่องที่สองที่เราเรียนรู้ได้ก็คือการที่โดราเอมอนจะคอย ‘อยู่เคียงข้างช่วยเหลือ’ โนบิตะอยู่เสมอ
ในการทำการตลาด สิ่งหนึ่งที่เราทำได้และไม่เสียเงินมากมายก็คือการบริการลูกค้าที่ดี 💁🏻♀️
ถ้าร้าน A และร้าน B ขายสินค้าชิ้นเดียวกัน ราคาเท่ากัน ร้านที่มีบริการที่ดีกว่าย่อมได้ลูกค้าไปครอง
ซึ่งในยุคนี้ บริการที่ดี อาจไม่ใช่แค่การสวัสดีทักทายหรือยิ้มแย้มอีกต่อไปแล้ว
แต่เราควรจะมี Data ของลูกค้า ที่ช่วยบอกเลยว่าแต่ละคนชอบสินค้าประเภทใดเพื่อคอยแนะนำเขา และคอยให้คำปรึกษาได้ ช่วยเหลือได้ตลอดเวลา 🕑
ถ้าทำได้ก็ไม่ยากเลยที่ลูกค้าจะรักและคอยสนับสนุนเรากลับ เหมือนกับที่โดราเอมอนคอยช่วยให้โนบิตะรอดภัยจากไจแอนท์มาได้ในหลายตอน
สิ่งหนึ่งที่ทำให้โดราเอมอนดูเท่าไรก็ไม่เบื่อ ก็คืออุปกรณ์สุดล้ำจากกระเป๋าวิเศษ ที่จะสลับเปลี่ยนไปเรื่อยในแต่ละตอน
ในบริบทของการทำ Digital Marketing ถ้าเรามัวแต่ใช้กระบวนท่าเดียว เช่น ลงคอนเทนต์แนวเดิมซ้ำๆ ยิงแอดโฆษณาด้วยภาพเดิมๆ ลูกค้าก็มีสิทธิ์จะเบื่อเราได้ง่าย
พยายามสื่อสารกับลูกค้าด้วยวิธีหลากหลาย เช่น มีแนววิชาการบ้าง มีบันเทิงบ้าง มี Live บ้าง ก็จะทำให้แบรนด์เรามีเสน่ห์เพิ่มขึ้นมา
ลองคิดดูว่าถ้าทุกตอนของโดราเอมอนใช้แต่อุปกรณ์คอปเตอร์ไม้ไผ่อย่างเดียว เราคงจะเบื่อน่าดู 😅
=============================
ถ้าใครได้ดู Trailer ของหนังเรื่อง Stand By Me: Doraemon 2 จะเข้าใจว่าในอนาคต โนบิตะตัดสินใจวิ่งหนีออกจากงานแต่งงาน เพราะคิดว่าตัวเองไม่ดีพอสำหรับเจ้าสาว ซึ่งก็คือชิสุกะ
แต่สุดท้ายชิสุกะก็พูดว่า “โนบิตะ เป็นอย่างที่เธอเป็นนั่นแหละ แต่มาอยู่ข้างๆ ฉันที”
บางทีการตลาดในยุคนี้ สิ่งที่ผู้บริโภคอยากเห็นจากแบรนด์อาจไม่ใช่ภาพลักษณ์ที่ดู Perfect เลิศหรูอลังการ
แต่เขาอยากเห็นตัวตนจริงๆ ของเรา ว่าแบรนด์มีความเชื่อในเรื่องอะไร มีความจริงใจต่อลูกค้ามากแค่ไหน และสร้างประโยชน์ให้กับสังคมมากเพียงใด
โนบิตะอาจเป็นผู้ชายที่ยังมีหลายข้อบกพร่อง แต่ชิสุกะก็ยังเลือกที่จะอยู่เคียงข้างเขาอยู่ดี
แบรนด์เราอาจจะไม่ใช่ที่ 1 ของตลาด
แต่ถ้าเป็นที่ 1 ในใจของลูกค้ามากมาย นั่นก็ถือว่าเราประสบความสำเร็จมาแล้วไม่น้อยเลย 💕
*********************************************
อัปเดตความรู้แบบเข้าใจง่ายทุกแพลตฟอร์มได้ทุกวันที่ Digital Tips Academy
LINE: [https://lin.ee/qdrHcg0]
Facebook: [Link :https://www.facebook.com/TheDigitalTips/]
Instagram: [Link :www.instagram.com/digitaltips_academy]
Tiktok: [Link : www.tiktok.com/@thedigitaltips]
Clubhouse: [Link :@tipdigitaltips]
YouTube: [https://bit.ly/3nxovnp]
Podcast : [https://spoti.fi/3lGjEj7]
Website: [thedigitaltips.com]
- 12
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
