Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ReliveTimes
•
ติดตาม
9 เม.ย. 2021 เวลา 11:39 • ประวัติศาสตร์
เคล็ดลับความงามและตำนานความสวยแบบชาวพม่า
ถ้าพูดถึงความสวยความงามในแถบเอเชียแล้ว จะต้องนึกถึงชาวพม่า ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ที่ยังคงดำรงอยู่ให้เห็นตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันก็ยังนิยมทาแป้งสีเหลืองนวลตามแก้ม หน้าผากหรือบางคนก็วาดลวดลายให้มีความสวยงามมากขึ้น
พม่า เป็นดินแดน ที่ได้รับฉายาว่า "เมืองแห่งสาวหน้าขาว หนุ่มปากแดง" เพราะไม่ว่าจะมองไปทางไหน ก็มักจะเห็น หน้าขาวที่ทาจากแป้งสีเหลืองนวล เต็มไปหมด ซึ่งไม่ได้มีแต่ผู้ญิงเท่านั้นที่ทา ผู้ชาย หรือแม้แต่เด็กเล็กๆก็ทากันทั่วไป
เมืองแห่งสาวหน้าขาว หนุ่มปากแดง
แป้งที่นำมาทากันนั้น คือ "ทานาคา" ในภาษาพม่าจะเรียกกันว่า "ตะนะคา" ลักษณะเป็นผงสีเหลืองนวล ซึ่งทำมาจากไม้ทานาคา(Thanaka) เป็นไม้เนื้อแข็ง มักขึ้นในเขตแห้งแล้งของภาคกลางของพม่าแถบพุกาม และมัณฑะเลย์ จะมีเฉพาะในประเทศพม่าเท่านั้น
การทาแป้งทานาคา นั้น เกิดจากความเชื่อที่ว่า แป้งทานาคา คือ เศษดินที่ติดอยู่ใต้พระบาทของพระพุทธเจ้า
ตำนานผิวสวยของผู้หญิงพม่านั้น เมื่อสืบค้น พบหลักฐานว่า ชาวพม่าใช้ "ทานาคา" มานานกว่า 2,000 ปี นับตั้งแต่ยุคอาณาจักรศรีเกษตร โดยเฉพาะในหญิงสาวชนชั้นสูง มีครั้งเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ทำให้เจดีย์ชเวมะดอว์ (Shwemadaw Pagoda) ถล่มลง การเก็บกู้ซากปรักหักพังนำไปสู่การค้นพบ แผ่นหินกลม ที่เชื่อกันว่าเป็นของพระราชธิดาของกษัตริย์พม่า ทรงใช้บดท่อนไม้ทานาคา
นอกจากนี้ ทานาคายังมีความเกี่ยวโยงกับความเชื่อและศรัทธาที่ผู้คนได้นำไปใช้ในพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ คือ "พิธีล้างพระพักตร์"
พระพุทธรูป พระมหามัยมุนี หรือ มะฮาเมียะมุนี
ชาวพม่าเชื่อกันว่า พระมหามัยมุนีสร้างมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล แต่ตามประวัติศาสตร์ระบุว่า พระมหามัยมุนี สร้างขึ้นในปี พ.ศ.688 โดยพระเจ้าจันทสริยะ กษัตริย์ชาวยะไข่แห่งเมืองธรรมวดี แคว้นยะไข่
พิธีล้างพระพักตร์ เป็นพิธีที่สืบต่อกันนับพันปีแล้ว เป็นความเชื่อแต่โบราณของชาวพม่าที่ว่า พระมหามัยมุนีได้ชื่อว่า เป็นพระพุทธรูปมีชีวิต เพราะได้รับประทานลมหายใจอันศักดิ์สิทธิ์จากพระพุทธเจ้าเข้าไปในพระวรกายพระพุทธรูปองค์นี้ จึงเป็นพระพุทธรูปที่มีชีวิตมีลมหายใจ ดังนั้น จึงต้องจัด พิธีล้างพระพักตร์ (ล้างหน้า) แปรงฟันเหมือนกับคนเราให้ในทุกๆเช้าของทุกวัน โดยน้ำที่นำมาล้างจะมีน้ำอบ น้ำหอม ที่ผสมผงทานาคา จะมีพระสงฆ์ทำหน้าที่ล้างตั้งแต่ตี 4 ครึ่ง ถึงรุ่งเช้า
พระมหามัยมุนี เป็นตัวแทนสืบทอดศาสนา ชาวพม่าที่เชื่อกันว่ามีลมหายใจ ด้วยเหตุที่ว่ามีการปิดทองซ้ำแล้วซ้ำอีก จนกระทั่งองค์พระเป็นรอยย่นตะปุ่มตะป่ำไปทั่ว หากใครที่มีโอกาสลองเอานิ้วกดลงจะสัมผัสได้ถึงความอ่อนนิ่มในเนื้อทองคำเปลวที่ถูกปิดซ้อนทับกัน เป็นเวลามาหลายทศวรรษ ส่งผลให้ "พระมหามัยมุนี" มีชื่อเรียกอีกหนึ่งคือ "พระเนื้อนิ่ม"
การปิดทององพระค์นั้น ผู้ชายสามารถเข้าไปปิดแบบใกล้ชิดได้ ส่วนผู้หญิงห้ามไม่ให้เข้าไปปิดทอง แต่จะกราบไหว้บูชาได้ที่ด้านล่าง โดยมีเขตห้ามผู้หญิงล้ำเข้าไป ส่วนใครที่ต้องการปิดทอง ก็จะฝากผู้ชายขึ้นไปปิดแทน การปิดทองจะปิดได้ทั่วองค์ ยกเว้นพระพักตร์
ทานาคา(Thanaka)
วิธีทำทานาคาแบบดั้งเดิมของชาวพม่า จะต้องเลือกใช้ต้นทานาคาที่มีอายุประมาณ 35 ปี นำมาตัดเป็นท่อนๆ ขนาดหนึ่งคืบ หรือครึ่งฟุต แล้วนำทานาคามาบดกับแผ่นหินหรือฝน พร้อมกับพรมน้ำเป็นระยะๆ จนได้ออกมาเป็นผงสีเหลืองนวลมาละลายเป็นแป้ง
ซึ่งชาวพม่าส่วนใหญ่ มักจะใช้ทานาคาผัดหน้า หรือตามแขนขา และลำตัว จนกลายเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของชาวพม่า
"ทานาคา" มีสรรพคุณมากมายไม่ว่าจะช่วยปกป้องผิวจากปัญหาสิว ปรับสภาพผิวให้เนียนขึ้น แถมยังเป็นสมุนไพรที่อุดมไปด้วยวิตามินที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้ผิวได้รับการดูแลอย่างดี การใช้ต่อเนื่องเป็นประจำทุกวันของชาวพม่า ช่วยลดความหมองคล้ำ และยังปกป้องผิวจากแสงแดด ลดเลือนรอยแผลเป็น ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ปัจจุบันทานาคา ได้พัฒนาให้มีรูปแบบที่สำเร็จรูปง่าย และสะดวกในการใช้ มาเป็นแบบกระปุก ขวด ซอง ไม่ต้องมาบดเอง และมีจำหน่ายอยู่ทั่วไป
สะท้อนให้เห็นว่า ทานาคามีความผูกพันธ์กับชาวพม่ามาช้านาน ตั้งแต่อดีต จนปัจจุบัน ผู้คนทั่วไป หรือแม้แต่หนุ่มสาวยุคใหม่ เด็กเล็กๆ ก็ยังเป็นที่นิยมทาทานาคาบนใบหน้า ทำให้กลายเป็นเอกลัษณ์ที่ยังคงอยู่
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย