10 เม.ย. 2021 เวลา 03:50 • ธุรกิจ
“แฟร์มี” คำถามที่ มอง "วิธีคิด" มากกว่าคำตอบ
ขอบเหรียญบาท มีจำนวนรอยหยักเท่าไร ?
รถโรงเรียนคันหนึ่ง จุลูกกอล์ฟได้กี่ลูก ?
ทุกปี โลกของเรามีการผลิตแชมพูกี่ขวด ?
หลายคนอาจคิดว่า.. คำถามเหล่านี้ คงมาจากเด็กน้อยช่างสงสัย ที่ชอบถามพ่อแม่ไปเรื่อย
และถ้าจะให้คิดหาคำตอบที่ถูกต้อง ก็คงใช้เวลานานหลายสิบนาที..
5
ความจริงแล้ว คำถามลักษณะนี้ถูกจุดประกายมาจาก เอนรีโก แฟร์มี (Enrico Fermi)
นักฟิสิกส์ระดับโลก เจ้าของรางวัลโนเบล สาขาฟิสิกส์ ปี 1938
คำถามลักษณะนี้ จึงถูกเรียกว่า คำถามแฟร์มี (Fermi problem)
ที่น่าสนใจคือ คำถามแฟร์มียังถูกใช้ในการสัมภาษณ์งานของบริษัทระดับโลก
อาทิ Google, Johnson & Johnson, General Motors อีกด้วย
1
แล้ว คำถามแฟร์มี (Fermi problem) น่าสนใจอย่างไร ?
ปกติแล้ว สิ่งที่เราคาดหวังจากการตั้งคำถาม
ก็คือ “คำตอบ” ที่จะช่วยให้เรามีความรู้ใหม่ ๆ ช่วยเปิดโลกการเรียนรู้ให้กว้างขึ้นได้
แต่สำหรับคำถามแฟร์มี สิ่งที่น่าสนใจกว่าคำตอบ
นั่นก็คือ “วิธีคิดเพื่อหาคำตอบ”
เอนรีโก แฟร์มี เชื่อว่าทุกคำถามบนโลกนี้ สามารถหาคำตอบได้
หากใช้หลักการประมาณ (Approximation) และการวิเคราะห์เชิงมิติ (Dimensional Analysis)
ที่เชื่อมโยงด้วย พื้นฐานความรู้ และ การคิดเป็นเหตุเป็นผล เข้าด้วยกัน
ยกตัวอย่างเช่น.. คนเรามีเส้นผมบนหนังศีรษะกี่เส้น ?
เชื่อไหมว่า เราสามารถหาคำตอบนี้ได้ในหลายหลากวิธีคิด
เพียงแค่มีการตั้งสมมติฐาน, การคำนวณทางคณิตศาสตร์ และการวิเคราะห์จากพื้นฐานความรู้
รายละเอียด ดังนี้
1
วิธีคิดที่ 1 ประมาณการจาก “สูตรพื้นที่ผิวทรงกลม”
สมมติว่า ศีรษะกลม ๆ ของคนเรามีรัศมี 10 เซนติเมตร
หากคำนวณพื้นที่ศีรษะ ด้วยสูตรพื้นที่ผิวทรงกลม 4πr² = 4 x (22/7) x 10 x 10
จะมีพื้นที่ศีรษะ 1,257 ตารางเซนติเมตร
โดยศีรษะคนเรา น่าจะมีสัดส่วนคร่าว ๆ ของ ใบหน้า : หนังศีรษะ = 50 : 50
ดังนั้น พื้นที่เฉพาะหนังศีรษะ = 1,257 x 50% = 628 ตารางเซนติเมตร
2
และถ้าทุก ๆ 1 ตารางเซนติเมตร จะมีเส้นผมจำนวน 150 เส้น
คนเราจะมีเส้นผมบนหนังศีรษะ = 150 x 628 = 94,200 เส้น นั่นเอง
แล้วถ้าเราไม่รู้จักสูตรคำนวณพื้นที่ผิวทรงกลม
จะยังสามารถหาคำตอบนี้ได้ไหม ? ลองมาดูวิธีคิดแบบอื่น ๆ กัน..
1
วิธีคิดที่ 2 เปรียบเทียบพื้นที่หนังศีรษะ ด้วยฝ่ามือ
1
ลองมองไปบนฝ่ามือ แล้วประมาณตัวเลขง่าย ๆ
สมมติว่า ฝ่ามือของเรามีความกว้าง 8 เซนติเมตร และยาว 15 เซนติเมตร
ก็เท่ากับว่า พื้นที่มือของเรา = 8 x 15 = 120 ตารางเซนติเมตร
หากเราเอามือวางบนหนังศีรษะ จะวางได้ประมาณ 6 ครั้ง
คือ บริเวณท้ายทอยแนวตั้ง 2 ครั้ง, บริเวณเหนือหูแนวตั้ง 2 ครั้ง และบริเวณเหนือหน้าผาก 2 ครั้ง
ดังนั้น พื้นที่หนังศีรษะของเรา = 6 x 120 = 720 ตารางเซนติเมตร
ซึ่งถ้าทุก ๆ 1 ตารางเซนติเมตร จะมีเส้นผมจำนวน 150 เส้น
คนเราก็จะมีเส้นผมบนหนังศีรษะ = 150 x 720 = 108,000 เส้น
ที่นี้ จะเห็นได้ว่าทั้ง 2 วิธีคิด มีคำตอบใกล้เคียงกัน
คือ จำนวนเส้นผมบนหนังศีรษะประมาณ 90,000-100,000 เส้น
แล้วคำตอบนี้ ถูกจริงหรือไม่ ?
จากข้อมูลสถิติทางการศึกษาของมหาวิทยาลัย Harvard
พบว่า คนเราจะมีเส้นผมเฉลี่ย 90,000-150,000 เส้น ขึ้นอยู่กับสีผม
เช่น ผมบลอนด์เฉลี่ย 150,000 เส้น, ผมดำเฉลี่ย 100,000 เส้น, ผมสีแดงเฉลี่ย 90,000 เส้น
2
จะเห็นได้ว่า การคำนวณแบบประมาณการข้างต้น ค่อนข้างใกล้เคียงข้อมูลจริง เลยทีเดียว
แล้วเราได้ประโยนช์อะไรจากเรื่องนี้ ?
คำถามแฟร์มี ช่วยกระตุ้นทักษะการแก้ปัญหาได้อย่างสร้างสรรค์
คือเราไม่จำเป็นต้องใช้เวลานาน ในการหาคำตอบที่ถูกแบบเป๊ะ ๆ
แต่มันฝึกให้เรามองหา “กระบวนการคิดหาคำตอบ” ที่มาจากการเชื่อมโยงพื้นฐานความรู้ที่เรามี ต่างหาก
3
ด้วยเหตุนี้ ไม่ใช่แค่ “ตัวเรา” จะได้พัฒนากระบวนการคิดของตนเอง
แต่ “ผู้ตั้งคำถาม” ยังจะได้เห็นถึงแนวคิดและความสร้างสรรค์ของผู้ตอบคำถามด้วย
1
นั่นจึงเป็นเหตุผลให้ บริษัทชั้นนำระดับโลก
นำเทคนิคคำถามแบบนี้ มาใช้ในการสัมภาษณ์งาน นั่นเอง..
1
โฆษณา