10 เม.ย. 2021 เวลา 09:24 • ไลฟ์สไตล์
D i t t o.
ในวันที่เราต่างก็รอคอยเวลา เพื่อการพบเจอกับใครอีกคนที่อยู่แสนไกล มันเป็นช่วงเวลาที่หัวใจของเราได้ผูกติดกับเข็มนาฬิกาและการกาปฏิทินไปโดยไม่รู้ตัว
แม้ว่าโลกยุคปัจจุบันจะมีเครื่องมือเทคโนโลยีให้เราได้ยินเสียง ได้เห็นใบหน้าของกันและกันได้บ้างแล้วก็ตาม
แต่จะมีบางช่วงเวลาที่เทคโนโลยีก็ทำหน้าที่แทนเราไม่ได้เหมือนกันนะ
ในวันที่ลูกเล็กๆ ที่แสนซนของเรา นอนไม่หลับในคืนที่ฝนตกฟ้าผ่าแรงๆ การเล่านิทานให้ฟังผ่านหน้าจอมือถือ แต่มีเพียงอ้อมกอดของเราเท่านั้นที่ให้ลูกได้อุ่นใจและหลับไปในคืนที่หวาดกลัว
เราจะได้เจอกันแล้วนะ
ในวันที่เราเติบโตขึ้นมาแล้วเผชิญปัญหาที่มาทดสอบชีวิตเรา การให้กำลังใจจากพ่อแม่ผ่านเสียงโทรศัพท์ และเมื่อวางสายเสร็จก็ต้องมานั่งร้องไห้คนเดียวนั้น มันก็ยังไม่เท่ากับการมานั่งร้องไห้ต่อหน้าท่านทั้งสองแล้วปรับทุกข์ให้กันฟัง
ถึงแม้วันนี้ เราจะอยู่ในช่วงสถานการณ์เชื้อโรคที่รอการเข้าใจจากเพื่อนมนุษย์ จนทำให้ความกลัวต่างๆนั้น เริ่มกัดกินหัวใจของหลายๆคนให้เว้าแหว่งไปเยอะมากแล้วก็ตาม
แต่ผมก็เชื่อว่า การรอคอยมันยังคงสวยงามตามเวลาของมันเสมอ
เราจะเก็บคำว่า “คิดถึง” ไปกระซิบข้างๆหูของเขาด้วยตัวเรา
เราจะหอบเอาเรื่องราวต่างๆ เสียงหัวเราะอีกมากมายไปเล่าให้คนปลายทางฟัง
เราจะเข้าใจคุณค่าของเข็มเวลาได้มากขึ้น พร้อมๆกับกระตุ้นให้ตัวเองลงมือทำให้สิ่งที่ยังค้างคาอยู่ในใจ
เราจะโอบกอดใครสักคนให้นานที่สุดเท่าที่เวลาจะให้ได้ เพราะมันความเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ที่มีเพียงเราเท่านั้นที่รู้สึกกับมันได้
เราจะฟังถึงสิ่งที่อีกคนโดยไม่ตัดสิน สร้างพื้นที่ปลอดภัยให้กันมากขึ้น และรวมไปถึงการพูดคุยสื่อสารด้วยความเข้าอกเข้าใจผ่านแววตาที่จริงใจกันมากขึ้น
สำหรับใครที่กำลังเฝ้ารอเวลาเมื่อกัน เราก็มีหัวใจที่เข้มแข็งเหมือนกันนะเนี่ย 5555
“กลับมาเติมพลังที่บ้านเรากัน”
มันคงดีไม่น้อย ถ้ารักษาสุขภาพ ใส่หน้ากากป้องกัน ล้างมือ รักษาระยะห่างทางกาย และขยับให้เราได้ใกล้ชิดทางใจกันมากขึ้น
“คนที่รู้คุณค่าของเวลาคือคนที่รอคอยอย่างมีความหวัง”
#ditto❤️
#รัก❤️ #ยิ้มๆ
โฆษณา