Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เพราะโลกไม่ได้กว้างเกินไปกว่าใจ
•
ติดตาม
11 เม.ย. 2021 เวลา 02:09 • สุขภาพ
อาบน้ำเย็น หรือว่าน้ำอุ่น แบบไหนดีต่อสุขภาพมากกว่า? มาไขข้อข้องใจกัน!!!
เทียบให้หายสงสัยกันไปเลย!!!
จริง ๆ แล้วไม่ว่าจะฤดูกาลไหน ต้องยอมรับว่าอากาศบ้านเรานั้นมันมีแค่สองแบบ นั่นก็คือ ร้อน และร้อนสุด ๆ การอาบน้ำสำหรับคนไทยจึงถือเป็นกิจวัตรประจำวันที่สำคัญ อันไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ซึ่งอย่างน้อย ๆ ซึ่งเชื่อว่าวันหนึ่งก็ต้องมีสองครั้ง เช้า-เย็นอะนะ
บางคนชอบน้ำเย็นเพราะอาบแล้วสดชื่น แต่กับบางคนแล้วดูจะโปรดปรานน้ำอุ่น เพราะรู้สึกสบายเนื้อสบายตัว และรู้สึกผ่อนคลาย ว่าแต่ว่าเคยสงสัยกันบ้างไหมล่ะครับ ว่าระหว่างน้ำเย็นกับน้ำอุ่นนั้น การอาบน้ำแบบไหนที่ดีต่อสุขภาพมากกว่า?
เพื่อไม่ให้เสียเวลาวันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจนี้ไปพร้อม ๆ กันครับ
การอาบน้ำเย็น
ว่ากันว่าอุณหภูมิของน้ำเย็นที่เหมาะสมที่สุดในการอาบน้ำนั้นควรต่ำกว่า 27 องศาเซลเซียส เพราะมันคือความเย็นที่จะไม่ทำให้ร่างกายสูญเสียความร้อนมากเกินไปนั่นเอง
1
ในช่วงแรกของการอาบน้ำเย็นเราจะรู้สึกหนาวจนขนลุก แต่นั่นกลับช่วยให้กล้ามเนื้อตื่นตัวได้ดี เพราะเลือดมาเลี้ยงผิวหนังได้มากขึ้น และเมื่อกล้ามเนื้อตื่นตัวเราจึงรู้สึกสดชื่นมากขึ้นนั่นเอง
อาบน้ำเย็นหน้าหนาวมันก็ต้องมีขนลุกกันบ้างล่ะ
ข้อดีของการอาบน้ำเย็น
1. ช่วยให้อารมณ์แจ่มใส
อาบตอนอากาศร้อน ๆ นี่สดชื่นแน่นอน
มีการศึกษาพบว่าการได้รับความเย็นสม่ำเสมอสามารถลดกรดยูริก และช่วยให้ร่างกายจัดการกับความเครียดได้ดีขึ้น และการอาบน้ำเย็นนั้นมีผลเหมือนกับยาต้านการซึมเศร้า แต่ไม่มีผลข้างเคียงหรือทำให้เกิดการติดยาแต่อย่างใด
2. ช่วยในเรื่องการเผาผลาญไขมัน
ช่วยได้ในระดับหนึ่งนะครับ
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจนิดนึงว่า ในร่างกายคนเรานั้นมีไขมันอยู่สองชนิด นั่นก็คือ “ไขมันดี” ที่ทำให้ร่างกายอบอุ่น และ ”ไขมันเลว” ที่ร่างกายเราสะสมไว้เมื่อบริโภคอาหารมากเกินไปโดยไม่ได้เผาผลาญให้เป็นพลังงาน ตรงนี้แหละที่การอาบน้ำเย็นจะเข้ามามีบทบาท เพราะเมื่อเราอาบน้ำเย็น ร่างกายจะเพิ่มอัตราการเผาผลาญ กล่าวคือเอาไขมันดีมาใช้ เพื่อพยายามทำให้ตัวเองอุ่นขึ้น โดยนักวิจัยพบว่า การอาบน้ำเย็นมีประสิทธิผลในการเผาผลาญไขมันสูงมาก โดยเพิ่มอัตราการเผาผลาญอาหารขึ้นไปถึง 15 เท่าเลยทีเดียว
3. ดีกับเส้นผม และผิวหนัง
ดีงามแท้
กล่าวคือทำให้รูขุมขน และหนังกำพร้ากระชับขึ้น ช่วยป้องกันไม่ให้ร่างกายสูญเสียน้ำมันตามธรรมชาติไปอย่างง่ายดาย และการมีน้ำมันดังกล่าวในระดับที่เหมาะสมนั่นเองที่ทำให้มีเราเส้นผมเงางาม และผิวพรรณที่ดี
4. ช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวหลังจากออกกำลังกายได้ดีขึ้น
ทั้งนี้เป็นเพราะความเย็นนั้นช่วยขจัดกรดแลคติกออกจากกล้ามเนื้อ และลดการอักเสบได้ดี
ข้อเสียของการอาบน้ำเย็น
แม้ว่าการอาบน้ำเย็นจะมีประโยชน์มากมาย แต่การอาบน้ำเย็นในสภาพที่ร่างกายอ่อนแอหรือตอนอยู่ในสภาพอากาศหนาวจัด อาจไม่ส่งผลดีเท่าไรนัก เพราะจะทำให้ระบบหมุนเวียนเลือดผิดปกติ อุณหภูมิร่างกายลดลงอย่างรวดเร็ว จนถึงขั้นช็อคหมดสติได้เลย ดังนั้นจึงต้องระมัดระวังให้ดี
1
การอาบน้ำอุ่น
ไอฟุ้งกันเลยทีเดียว!!!
อุณหภูมิที่เหมาะสมในการอาบน้ำอุ่นนั้นจะอยู่ที่ 27-37 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นความร้อนระดับเดียวกับร่างกาย โดยสังเกตว่าเราจะรู้สึกสบายตัว ไม่แสบผิว
1
ข้อดีของการอาบน้ำอุ่น
1. กระตุ้นระบบการไหลเวียนของเลือด
งานนี้ก็คล่องตัวกันสิครับ
โดยการอาบน้ำที่มีอุณหภูมิเหมาะสม ไม่ร้อนมากจนเกินไป จะทำให้เลือดสูบฉีดไหลเวียนไปทั่วร่างกาย เป็นวิธีเสริมสุขภาพดี ๆ ที่ง่ายดายมาก
2. สร้างความผ่อนคลายให้กับกล้ามเนื้อ
เมื่อได้อาบน้ำอุ่นนั้นจะทำให้เราผ่อนคลายจากความเมื่อยล้า และอาการตึงเครียดที่ถูกเก็บสะสมอยู่ตามส่วนต่าง ๆ ของกล้ามเนื้อในร่างกายตลอดทั้งวันก็จะลดลง
3. ลดสิ่งอุดตันบนรูขุมขน
การอาบน้ำอุ่นในอุณหภูมิที่เหมาะสม จะช่วยดูแลผิวพรรณ จัดการสิ่งสกปรก และไขมัน อันเป็นตัวการหลักที่ทำให้เกิดสิว และทำให้ผิวหมองคล้ำไม่สม่ำเสมอ ซึ่งถือว่าเป็นการช่วยทำความสะอาดรูขุมขนได้อย่างเกลี้ยงเกลามากขึ้นอย่างแท้จริง
4. ปลอดโปร่ง สบายตัว
สบายตัวมาก หลับฝันดีแน่นอน
เพราะน้ำอุ่นนั้นมีคุณสมบัติในการลดประจุบวก ในขณะเดียวกันก็เพิ่มประจุลบในอากาศ ในตอนที่กำลังอาบน้ำอยู่ ทำให้หายใจได้โล่งขึ้น จึงรู้สึกปลอดโปร่งหลังจากอาบน้ำเสร็จ ซึ่งช่วยให้นอนหลับง่ายขึ้นอีกด้วย
ข้อเสียของการอาบน้ำอุ่น
1
1. ทำให้ผิวแห้งเสีย
ถ้าจะซูมกันขนาดนี้แล้วล่ะก็
กล่าวคือการอาบน้ำในอุณหภูมิที่สูงมากจนเกินไป จะทำให้ผิวแห้งเสีย ขาดความชุ่มชื้น นำไปสู่อาการ ผิวแตกลอก รูขุมขนกว้าง เพราะน้ำอุ่นเป็นตัวการทำลายน้ำมันที่อยู่บนผิวออกไป จึงเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ผิวแห้งกร้าน เกิดการระคายเคืองได้ง่าย
2. ผมแห้งเสียง่าย
ผมแห้งเสียได้เหมือนกันนะ
ควรหลีกเลี่ยงการสระผมด้วยน้ำอุ่น เพราะนั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมแห้งเสีย จนเกิดปัญหารังแคในที่สุด รวมทั้งทำให้ผมชี้ฟู จัดทรงยากขึ้นด้วย
1
3. มีความเสี่ยงในการวิงเวียนศรีษะ หรือเป็นลม
1
อย่าแช่น้ำอุ่นนานเกิน 30 นาที การอาบน้ำอุ่นอย่างถูกวิธีนั้น ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดคือ 15 นาที การแช่น้ำอุ่นนานเกินไป จะทำให้เลือดไปเลี้ยงบริเวณผิวหนังมาก จนทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ ซึ่งเป็นสิ่งหนึ่งที่ต้องระวังเป็นอย่างมาก
ข้อแนะนำในการอาบน้ำอุ่น
ในช่วงที่อาบน้ำใกล้จะเสร็จ ควรอาบน้ำอุ่นสลับน้ำเย็น เพื่อปรับสภาพผิวหนังให้ชุ่มชื้น และตื่นตัวมากขึ้น
1
ทาครีมบำรุงผิวสูตรที่มีมอยส์เจอไรเซอร์เข้มข้นทันที หลังจากอาบน้ำเสร็จหรือชโลมผิวทั่วเรือนร่างด้วยเบบี้ออยล์เพื่อกักเก็บความชุ่มชื้นเอาไว้ใต้ผิวหนัง
อย่าลืมทาครีมกันล่ะ
เทียบข้อดีระหว่างการอาบน้ำเย็น และน้ำอุ่นกันจะ ๆ
น้ำเย็นช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ส่วนน้ำอุ่นนั้นสามารถบรรเทาอาการคัดจมูกได้
น้ำเย็นช่วยเพิ่มสมาธิ ส่วนน้ำอุ่นช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
น้ำเย็นช่วยให้คุณกระปรี้กระเปร่าในตอนเช้า ส่วนน้ำอุ่นนั้นช่วยคลายความเครียด
น้ำเย็นช่วยคืนพลังงานให้กับร่างกาย ส่วนน้ำอุ่นช่วยลดความเหนื่อยล้าได้ดี
น้ำเย็นช่วยเร่งการเผาผลาญพลังงานให้กับร่างกาย ในขณะที่การอาบน้ำอุ่นนั้นช่วยลดอาการปวดบวมได้
น้ำเย็นช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ส่วนน้ำอุ่นนั้นบรรเทาอาการปวดหัวได้
น้ำเย็นสามารถช่วยเผาผลาญไขมันได้ ส่วนน้ำอุ่นนั้นสามารถขจัดสารพิษบางส่วนได้
น้ำเย็นช่วยให้ผิวเรียบเนียน ส่วนน้ำอุ่นช่วยเปิดรูขุมขน ทำให้สิ่งสกปรกต่าง ๆ หลุดออกมาจากผิว
น้ำเย็นทำให้อารมณ์ดีขึ้น ส่วนน้ำอุ่นจะช่วยลดอาการนอนไม่หลับลงได้
การอาบน้ำในอุณหภูมิที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญที่คนรักสุขภาพไม่ควรมองข้าม ไม่ว่าจะเลือกอาบน้ำอุ่น หรือน้ำเย็น อย่าลืมสำรวจปัจจัยอื่นร่วมด้วย เช่น สภาพอากาศ สภาพร่างกายในขณะนั้น เพื่อให้การอาบน้ำของคุณดีต่อสุขภาพร่างกาย และที่สำคัญควรใช้ปลายเท้าสัมผัสน้ำก่อนอาบน้ำทุกครั้ง เพื่อให้ร่างกายได้ปรับอุณหภูมิตัวเองก่อน ป้องกันการช็อคหมดสติ และอาการวูบฉับพลันระหว่างอาบน้ำ
จากข้อมูลทั้งหมดข้างต้น จะเห็นได้ว่าการอาบน้ำด้วยน้ำอุ่นและน้ำเย็นนั้นต่างก็มีทั้งข้อดี-ข้อเสีย แตกต่างกันไป
1
สรุปการอาบน้ำอุ่น หรือน้ำเย็น แบบไหนดีต่อสุขภาพมากกว่ากัน?
1
คำตอบของคำถามนี้จึงขึ้นอยู่ที่ว่าเราว่าต้องการให้ร่างกายปรับสภาพเป็นแบบไหนมากกว่า
1
แต่ถ้าให้แนะนำง่าย ๆ
ตอนเช้าเลือกอาบน้ำเย็นเพื่อให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น ตื่นตัว พร้อมเริ่มวันใหม่ได้ทันที
1
ตอนเย็นเลือกอาบน้ำอุ่น เพื่อคลายความเครียดที่สะสมมาทั้งวัน ซึ่งช่วยให้นอนหลับได้ดียิ่งขึ้น
2
ประมาณนี้ครับ สุดท้ายนี้ขอให้สุขภาพแข็งแรงทุกคนครับผม
ทั้งนี้ยืนยันว่าบทความของผมไม่ใช่คำตอบ หรือบทสรุปที่ดีที่สุด ทุกท่านควรใช้วิจารณญาณส่วนตัวในการรับข้อมูลด้วยนะครับ
ขอบคุณทุกการตอบรับ ไม่ว่าจะเป็นการติดตาม ไลค์ คอมเมนท์ หรือว่าแชร์ ทุกกำลังใจสำคัญสำหรับผมเสมอ
ขอบคุณครับ
แล้วพบกันใหม่ในโพสต์หน้า
สวัสดีครับ
ขอบคุณที่มา
https://www.fwd.co.th/th/fwdmax/health/cold-or-hot-shower/
https://www.chiangmaiaircare.com/ข้อดีของการอาบน้ำอุ่น-ข้อควรระวังในการอาบน้ำอุ่น-และคำแนะนำเพิ่มเติม/
https://www.thaihealth.or.th/Content/44274-อาบน้ำเย็น%20ดีอย่างไร.html
https://kaijeaw.com/อาบน้ำอุ่นหรือน้ำเย็น/
https://brightside.me/inspiration-health/nine-important-differences-between-hot-and-cold-showers-210805/
https://www.siphhospital.com/th/news/article/share/water-shower
8 บันทึก
26
77
21
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
สุขภาพดีไม่มีขาย อยากได้ต้องทําเอง
8
26
77
21
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย