10 เม.ย. 2021 เวลา 11:00 • ประวัติศาสตร์
viking ทำไมถึงชอบบุกโจมตีและปล้นรุกรานประเทศอื่นๆ
วันนี้แอดจะพามาเล่าถึงเรื่องราวของนักรบที่แข็งแกร่งอีกหนึ่งในโลกอย่าง ไวกิ้งหากพูดถึงไวกิ้ง เราคงจะนึกถึง นักรบที่ตัวใหญ่สวมหมวกเขาสัตว์ไว้บนหัว พร้อมกับขวานขนาดใหญ่ที่ฟันขาดเป็นสองท่อน ซึ่งด้านความโหดเหี้ยมและความเก่งกาจของพวกเค้าเป็นที่รู้กันมาจนถึงปัจจุบัน สิ่งที่ชาวยุโรปจำได้มาจนถึงตอนนี้คือ การถูกพวกไวกิ้งนั้นเข้ามารุกรานและปล้นฆ่าเป็นจำนวนมาก ซึ่งเราจะมาหาเหตุผลของการที่พวกเค้า ชอบการฆ่าฟันและช่วงชิงกันว่าเป็นมายังไง
ที่มาของ ไวกิ้ง viking
คำว่า ไวกิ้งนั้น แต่แรกเดิมที ไม่ใช่ชื่อเรียกของชาวไวกิ้ง คำว่า ไว้กิ้ง นั้นเป็นคำที่ใช้เรียกถึงอาชีพ โจรสลัด โดยจุดเริ่มต้นของมันไม่เป็นที่แน่ชัด ไวกิ้งนั้นเป็นโจรสลัดแถวคาบสมุทรสแกนดิเนเวียได้เข้ามารุกรานดินแดนแถบนั้นและทำการยึดครองเอาวัฒนธรรมของคนในพื้นที่มาปรับใช้และตั้งถิ่นฐานอยู่ในสแกนดิเนเวีย ต่อมาบางส่วนก็เรียกพวกเค้าว่าชาวนอร์ส แต่ก็ยังมีบางที่เรียกไวกิ้งเช่นเดิม
สแกนดิเนเวีย เป็นภูมิภาคทางภูมิศาสตร์และประวัติศาสตร์ มีศูนย์กลางอยู่ที่คาบสมุทรสแกนดิเนเวียในยุโรปเหนือ มาจากชื่อเดิมว่า มณฑลสกาเนียน ประเทศในกลุ่มสแกนดิเนเวีย ได้แก่ สวีเดน นอร์เวย์ และเดนมาร์ก อาจรวมถึงประเทศอื่น ๆ ในกลุ่มนอร์ดิก เช่น ไอซ์แลนด์ ฟินแลนด์
โดยวิถีชีวิตส่วนใหญ่จะเป็นการทำไรไถ่นาและเลี้ยงสัตว์ เมื่อฤดูร้อนมาถึงพวกเค้าจะทำการเดินเรือออกไปยังดินแดนอื่นๆเพื่อไป ปล้นสะดมตามชายฝั่งแถบยุโรปและในภูมิภาคอื่นๆเพื่อนำทรัพย์สินกลับมายังบ้านของตนเอง
แผนที่แสดงการตั้งถิ่นฐานสแกนดิเนเวียของชาวไวกิง สีแดงเข้ม-ระว่าง ค.ศ.701-800, สีแดง-ระหว่าง ค.ศ. 801-900, สีส้มเข้ม-ระว่าง ค.ศ. 901-1000, และสีเหลือง-ระว่าง ค.ศ. 1001-1100, บริเวณสีเขียวแสดงพื้นที่ที่มักถูกโจมตีโดยพวกไวกิงบ่อยแต่ไม่มีการตั้งถิ่นฐานมาก
ทำไมชาวนอร์สหรือไวกิ้งนั้นมักชอบออกไปปล้น?
ตรงนี้แอดจะขอใช้คำว่าไวกิ้งแทนชาวนอร์ส นะครับเพื่อความเคยชินของหลายๆคนเหตุผลที่ชาวไวกิ้งนั้นชอบเที่ยวออกไปปล้นสะดมยังดินแดนต่างๆนั้นมีหลากหลายสาเหตุแต่ส่วนใหญ่จะเป็นในเรื่องของเงินทองและเรื่องเล่าขานจากการเดินทาง
โดยชาวไวกิ้งนั้นให้ความสำคัญกับที่ดินและสัตว์มากกว่าเงินทองของตนเอง แต่ถ้าหากว่าวันหนึ่งพวกเค้าต้องย้ายถิ่นฐานออกไปที่ดินและสัตว์ก็ไม่สามารถที่จะเอาออกไปด้วยได้นั้นจึงเป็นเหตุผลให้พวกเค้าต้องออกปล้นเพื่อหาสมบัติและทองนำเอากลับมาเป็นทรัพย์สินสำรองเอาไว้และใช้เพื่อซื้อที่ดินและรักษาฐานะของตนเอง
ทรัพย์สินเงินทองส่วนใหญ่จะได้มากการออกปล้นสะดมและการค้าขายกับเมืองอื่นๆ แต่ที่นิยมที่สุดเห็นจะเป็นการไปปล้นมาส่วนใหญ่
สังคมการปกครองของชาวไวกิ้ง
ในด้านการปกครองมและความเป็นสังคนของพวกเค้านั้นจะมีความแตกต่างจากที่อื่นอยู่มาก ไวกิ้งนั้นไม่ได้อยู่ร่วมกันเป็นหนึ่ง พวกเค้าจะแบ่งกันเป็นหลายๆชนเผ่าหรืออาณาจักร และจะมีหัวหน้าหรือราชาแล้วแต่แต่ละที่จะเรียก โดยแต่ละเผ่าจะมีการค้าขาย และขัดแย้งกันอยู่จึงบางครั้งมีการทำสงครามระหว่างเผ่าอยู่บ่อยครั้ง โดยระบอบการเลือกผู้นำนั้นขึ้นอยู่กับทรัพย์สิน ที่ดินและข้ารับใช้
ใครที่มีมากก็จะได้รับเลือกให้เป็นผู้นำ นั้นจึงเป็นอีกเหตุผลที่ชาวไวกิ้งมังจะออกปล้นเพื่อนำเอาทรัพย์สินกลับมาเพื่อซื้อที่ดินและขยับขยายฐานะของตนเอง และเมื่อมีฐานะที่ใกล้เคียงกับหัวหน้าก็สามารถที่จะแย้งตำแหน่งนั้นมาได้ ทั้งการ ประลองตัวต่อตัว หรือ การสนับสนุนจากคนอื่นๆ
สงครามการต่อสู้นั้นสำหรับชาวไวกิ้งนั้นถือเป็นเรื่องปกติอย่างมาก พวกเค้านั้นต่อสู้กันทั้งกับประเทศอื่นเผ่าอื่นและรวมถึงฝ่ายเดียวกันเอง โดยเวลาเกิดปัญหาขึ้นวิธีแก้ส่วนใหญ่มักจบลงด้วยการต่อสู้เป็นส่วนมากนั้นจึงทำให้คนนอกมอกพวกเค้าเป็นเหมือนพวกบ้าสงครามกระหายการต่อสู้อยู่เสมอ
วิธีการออกปล้นในแต่ละครั้ง
การออกปล้นของชาวไว้กิ้งนั้นเรียกได้ว่าพวกเค้าเหมือนมีความสามารถในด้านนี้เปฅ็นอย่างมากโดยพวกเค้าจะเลือกเมืองหรือหมู่บ้านที่ติดกับชายฝั่งที่ดูแล้วมีความอ่อนแอและไม่สามรถต่อสู้ได้ โดยจะทำการฆ่าคนในหมู่บ้านแรกและปล่อยผู้ที่รอดให้ออกไปป่าวประกาศกับหมู่บ้านโดยรอบให้รู้ถึงการมาของไวกิ้ง
ชาวไวกิ้งจะเลือกหมู่บ้านหรือเมืองที่มีการป้องกันที่อ่อนแอและไม่สามารถสู้กับพวกเค้าได้พวกเค้าจะทำการสังหารฆ่าคนในเมืองเกือบทั้งหมดและปล้นชิงสมบัติเงินทองและคนเพื่อกลับไปยังดินแดนตก
และเมื่อหากหมู่บ้านไหนยอมเอาสมบัติและทรัพย์สินของตนมารวมกันให้แต่โดยดีชาวไวกิ้งก็จะไว้ชีวิตของทุกคนในหมู่บ้านนี้และพวกเค้าก็จะกลับมาเอาอีกเรื่อยๆเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆหากมีการต่อต้านก็จะทำการเผ่าและสังหารทันที
ภาพประกอบ
และถ้าหากพวกเค้าไปเจอกับเมืองที่กำลังทหารที่เข้มแข็งพวกเค้าก็จะเลี่ยงที่จะทำการสู้โดยเปลี่ยนเป็นการแลกเปลี่ยนสิ่งของและทำสัญญาการค้าและคุ้มครองเมืองนี้จากไว้กิ้งเผ่าอื่นที่จะทำการโจมตีเมืองนี้
ภาพประกอบ
ด้านการต่อสู้
ไวกิ้งนั้นนับว่าเป็นยอดนักรบเลยก็ว่าได้พวกเค้านั้นถนัดการรบทางทะเลเป็นอย่างมากแต่การรบทางบกก็นับว่าเก่งกาจอยู่เหมือนกัน ด้วยขนาดและรูปร่างที่สูงใหญ่ของพวกเค้าที่มากกว่าชาติอื่น โดยชาวไว้กิ้งสมัยนั้นผู้ชายจะมีความสูงอยู่ที่172เซน ส่วนผู้หญิง158เซน ครับมันอาจฟังดูไม่สูงอะไร แต่ในยุคสมัยนั้นนับว่าเป็นอะไรที่สูงอย่างมาก และด้วยขนาดและรูปร่างนี้ทำให้เป็นที่เกรงกลัวต่อฝ่ายตรง
ภาพประกอบ
แต่ใช่ว่าจะไม่สามารถเอาชนะได้ ข้อเสียใหญ่ของชาวไว้กิ้งเลยคือเวลาออกรบพวกเค้าจะไม่ขี่ม้าไปออกรบพวกเค้าจะใช้ม้าแค่สำหรับเดินทางเมื่อไปถึงพวกเค้าจะลงจากม้าละทำการต่อสู้ นี่จึงเป็นเหตุที่ทำให้เค้ามักถูกทหารม้าของทางฝั้งยุโรปเข้าบดขยี้เวลาที่สู้ในพื้นที่โล่งกว้าง แต่แค่นั้นก็ใช่ว่าจะหยุดพวกเค้าได้ โดยไวกิ้งนั้นมีความเชื่อที่ว่านักรบคนไหนที่สู้จนตายอย่างกล้าหาญดวงวิญาณจะได้ไปอยู่ที่Valhallaซึ่งมีแต่นักรบที่กล้าหาญเท่านั้นจะได้ไป
นั้นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ชาวไวกิ้งนั้นไม่เกรงกลัวต่อความตายพวกเค้านั้นจะต่อสู้จนถึงที่สุดของชีวิตเพื่อที่จะได้ไปยังValhalla
และนี่ก็เป็นเรื่องราวส่วนหนึ่งของไวกิ้งว่าทำไมพวกเค้านั้นถึงได้ชอบออกปล้นสะดมและสร้างสงครามความโหดเหี้ยมไปทั่วนี้เป็นแค่ส่วนเล็กๆเท่านั้น ยังเรื่องราวอีกมากเกี่ยวกับกับพวกเค้าซึ่งแอดจะมา บอกเล่าให้ทุกคนฟังในครั้งต่อไป
โฆษณา