10 เม.ย. 2021 เวลา 19:34 • ไลฟ์สไตล์
ซินเดอเรลล่า ยุค 2000💘💞
1
เจ้าชายชาร์ลส์แห่งเบลเยียม และ หลี่หรันสาวสามัญชนแห่งประเทศจีน
เป็นที่ฮือฮา กับเรื่องราวความรัก ที่ต่างเชื้อชาติ และต่างฐานันดร ของสาวชาวจีน และเจ้าชายแห่งเบลเยี่ยม ซึ่งคลับคล้ายคลับคลา กับเรื่องเล่า ในนิทานอีสป เรื่องซินเดอเรลล่า ที่ทำให้เด็กสาวๆ หัวใจพองโต นั่งเพ้อฝันกันเป็นตุเป็นตะ
ความรัก ก็เป็นส่วนหนึ่งที่จะนำพา คนสองคนมาพบกัน และแม้จะห่างไกลกันคนละทวีป ห่างไกลชนชั้นก็ตามที ไม่เหลือบ่ากว่าแรงของเจ้ากามเทพ ที่สามารถแผลงศร ข้ามไปถึงกันและกันได้เสมอ
2
แต่ในโลกความเป็นจริง หากคนสองคนที่มีความต่างกันอย่างมาก ใช่ว่าเรื่องมันจะง่ายดั่งในนิทาน แต่ทว่า สาวหลี่หรันคนนี้ เธอก็มีคุณสมบัติเพรียบพร้อมด้วย ไม่ใช่จะเดินถือไม้กวาด ยืนร้องไห้กระซิกๆ อย่างในนิทานได้อีกแล้ว เพราะเธอมีความสามารถมากมาย จึงทำให้เธอควรค่า ที่จะไปยืนเด่นเป็นสง่าได้ อย่างงดงาม
1
หลี่หรัน เกิดที่มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน ในปี 1984 และจบการศึกษาจากโรงเรียน Huizhou ด้วยผลการเรียนที่ยอดเยี่ยม มีอุปนิสัยอ่อนโยนเป็นที่รักของเพื่อนๆ และเป็นที่หมายตาของหนุ่มๆในวัยเดียวกัน นอกเหนือจากเรียนเก่งแล้วยังมีความสามารถเล่นเปียโนได้ดีอีกด้วย
2
ในปี 2549 ในวัย 22 ปี เธอได้จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยภาษาและวัฒนธรรมปักกิ่ง จากนั้นก็ไปศึกษาต่อที่ปารีส
จะเห็นว่า เธอน่าจะมีพื้นฐานครอบครัวที่เรียกว่ามีอันจะกินทีเดียวเชียว จึงมีโอกาสได้ไปศึกษาต่อต่างประเทศ ได้เช่นนั้น
2
เธอเลือกเรียนหลักสูตร ภาษาและอารยธรรมฝรั่งเศสในครั้งแรกที่มหาวิทยาลัย ซอร์บอน และหลังจากนั้นได้เข้าเรียนในสาขาการตลาดและการจัดการ (Paris School Of Management)
1
นอกจากเรียนเก่งแล้ว หลี่หรัน ยังสามารถใช้ภาษาอังกฤษ และฝรั่งเศส ได้เป็นอย่างดีทีเดียว นอกจากภาษาจีน ภาษาบ้านเกิดของเธอ
2
ในปีสุดท้ายของการศึกษา เธอได้เริ่มฝึกงานในร้านดัง Givenchy 1 ปีและพอจบการศึกษาแล้ว จึงได้เข้าทำงานที่ร้านแบรนด์เนมชื่อดัง Balenciaga และ Fendi
2
ชุดแต่งงานสีแดงตามธรรมเนียมจีน
ส่วนเจ้าชายชาร์ลส์นั้น มีอายุมากกว่าหลีหรัน 4ปี ชื่อเต็มคือเจ้าชายชาร์ลส์ เลอมอร์โร โจเซฟ มัลคอล์ม ซึ่งเป็นสมาชิกแห่งราชวงศ์เบลเยี่ยม ตระกูลเก่าแก่คือตระกูล Ligne ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง
พระองค์ทรงทำธุรกิจทางโครงการรถไฟความเร็วสูงและระบบพัฒนาเมือง กับพี่ชาย ซึ่งพระองค์จะถนัดการออกแบบภายในและเป็นสถาปนิก ที่โด่งดังในปารีส
1
และแล้วพรหมลิขิต ก็ขีดเส้นให้ทั้งสองมาพบกัน ในฐานะสถาปนิกหนุ่ม ที่เข้ามาดูแลเรื่องงานตกแต่งที่ร้าน Fendi ที่หลี่หรันทำงานอยู่ และหลี่หรันถูกมอบหมาย ให้เป็นผู้มาต้อนรับเจ้าชาย
2
และโดยส่วนตัวแล้ว. เจ้าชายทรงมีความชอบชื่นชอบสถาปัตยกรรมตะวันออกเป็นชีวิตจิตใจ แน่นอนอยู่แล้ว จึงไม่ยากเย็นนัก ที่พระองค์จะอดประทับใจกับความงามแบบผู้หญิงตะวันออกของหลีหรัน ตั้งแต่พบกันในครั้งแรก
หลังจากทั้งสองพบกัน จึงตกหลุมรักในทันที และคบหา ดูใจกันได้ 1 ปี จึงตัดสินใจแต่งงานกัน โดยจัดงานกันเฉพาะในครอบครัวเท่านั้น
หลังจากแต่งงาน 2 ปี หลีหรันได้ให้กำเนิดเจ้าชายองค์น้อย ชื่ออามาเดโอ ลูกครึ่งเบลเยี่ยม -จีน ซึ่งไมีมีรูปถ่ายเจ้าชายองค์น้อย ปรากฎตามสื่อต่างๆ เลยเพราะทั้งคู่ต้องการความเป็นส่วนตัวมากๆ
3
จึงพูดได้อย่างภาคภูมิเลยว่า หลี่หรัน สาวสามัญชน ได้เปลี่ยนสถานะเป็น เจ้าหญิงเอเชียคนแรกในประวัติศาสตร์ยุโรป เธอเป็นบุคคลสำคัญที่ปรากฏตัวในวงสังคมได้อย่างสง่างาม ในเวทีระดับนานาชาติ ได้อย่างไม่บกพร่อง และได้เคยให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Vogue ฉบับเดือนมิถุนายนปี 2015 อีกด้วย
1
หลังจากมีเจ้าชายน้อยแล้ว หลี่หรัน มักจะค่อนข้าง แยกตัวจากงานสังคมต่างๆ เพื่อใช้เวลาส่วนตัว กับเจ้าชายองค์น้อยเป็นส่วนใหญ่ และใช้ชีวิตแบบเงียบๆ
2
ปัจจุบัน ผ่านมา 7 ปีกว่าแล้ว เจ้าชายชาร์ลส์และหลี่หรัน ยังมีความรักที่มั่นคง ไม่เคยมีข่าวอื้อฉาว และเป็นที่ยอมรับของทุกคนในตระกูล Ligne ของเจ้าชายได้เป็นอย่างดี
2
📌เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าซินเดอเรลล่าสมัยยุค 2000นี้ ต้องมีสตางค์ เรียนดี มีพรสวรรค์ด้านดนตรี ต้องพูดได้ไม่น้อยกว่า 3 ภาษา และความสวยต้องดูดีมีสไตล์ด้วย
6
📌หมดสมัยแล้วที่นางซิน จะต้องถือไม้กวาด คอยทำความสะอาดบ้านและร้องไห้กระซิกๆ เพราะถูกกลั่นแกล้ง ดังนั้นสาวๆทั้งหลาย ริจะเป็นนางซินยุคนี้ คิดให้ดี ไม่ง่าย😂😂
2
📌นอกจากจะมีคุณสมบัติที่ต้องสั่งสมแล้ว โชค วาสนา ก็สำคัญไม่น้อย แข่งบุญแข่งวาสนา อันนี้ยิ่งยากหนัก หากพรหมลิขิตไม่ได้ขีดเส้นมาให้พยายามอย่างงัย ก็ไม่สำเร็จ เพราะฉะนั้น พึ่งลำแข้งลำขาตัวเอง น่าจะง่ายกว่า😊
1
📌 หากเป็นซินเดอเรลล่ามันยากนัก แนะนำให้เปลี่ยนเป็นซินเบคผจญภัยละกัน น่าจะง่ายกว่าเยอะ😂😂😂
2
โฆษณา