คนยุคสมัยใหม่เริ่มค้นหาความหมายในงานทุกทำ รวมถึงในกิจวัตรประจำวันมากขึ้น เรียกได้ว่าความหมายนิยมแทบจะกลืนกินวิถีชีวิตเข้าไปอย่างช้าๆ งานที่่เราทำจะต้องเป็นนวัตกรรมใหม่ สร้างแรงสั่นสะเทือนให้กระแสโลกอย่างน้อย 7.2 ริกเตอร์ เริ่มหมิ่นงานประจำเข้าชามเย็นชามว่าไร้ค่า งานที่ทำต้องมีเอกลักษณ์ชนิดที่คนอื่นในโลกเลียนแบบไม่ได้ รวมไปถึงข้าวของที่ใช้ต้องสะท้อนความเป็นตัวตน รองเท้าคอนเวิร์สที่ฉายความเป็นตัวเองเจิดจรัสราวกับเงาของเคิร์ต โคเบน ทาทับเปล่งออร่าให้คนรอบข้างรู้สึก โหยหาการยอมรับตัวเองโดยตัวเองผ่านแววตาของคนอื่นอีกที แม้แต่เรื่องเซ็กซ์ที่เราปฏิบัติเพื่อแลกกับประสบการณ์เที่ยวชมสวรรค์ที่เป็นรางวัลแลกเปลี่ยนจากธรรมชาติ หลายคนต้องการมั่นใจว่าเซ็กซ์ของตัวเองต้องเหนือกว่าคนอื่น ผู้ชายหลายคนโหยหาความมั่นใจในขนาดถึงขั้นไปฉีดน้ำมันต่างๆเพื่อขยายขนาดของมัน หลายรายจบลงที่โศกนาฎกรรมของน้องชายที่ลืมตามาดูโลกพร้อมกัน
เวลาถูกตีค่าเป็นสินทรัพย์ที่ทรงมูลค่า เวลาแต่ละวินาทีของเศรษฐีนั้นแทบจะประเมินค่าไม่ได้ วินาทีเดียวของคนหนึ่งก่อให้เกิดรายได้มากกว่าหลายคนทำงานทั้งเดือนรวมกัน โลกขับเคลื่อนด้วยพลังแห่งมายาคติที่ทุกคนในโลกหลงเชื่อร่วมกัน มนุษย์ชายขอบที่พยายามกีดกันตัวเองออกจากนอกกระแสความเชื่อใหญ่เพื่อเดินไปตามวิถีที่พวกตนเชื่อกำลังถูกเขมือบกลืนให้เป็นผืนเดียวกับมหาสมุทรอย่างช้าๆ คล้ายๆคลื่นเกยหาดที่ดึงละอองน้ำชุ่มเม็ดทรายให้กลับไปเป็นผืนเดียวกันในทะเล หยดฝนปลายใบที่ฝืนสู้แรงโน้มถ่วงก่อนร่วงหล่นไปเป็นส่วนหนึ่งของผืนน้ำ
จุดมุ่งหมายเริ่มครอบคลุมเรามากกเกินไป ทั้งที่การกระทำหลายๆอย่างไม่จำเป็นต้องมีจุดหมายอะไรเป็นพิเศษ เมื่อมองในมุมกว้างแล้วให้ความหมายกับชีวิตอาจจะพบกว่าความหมายนั้นก็คือการไร้ความหมาย คนบกพร่องทางสติปัญญาที่ทำงานซ้ำซากไร้ทักษะในโรงงานแห่งหนึ่งอาจพบกับความสงบที่คนส่วนใหญ่เพรียกหา พื้นที่ราคาหลายล้านดอลลาร์ที่เศรษฐีอเมริกันยอมจ่ายเพื่อได้ครอบครองมันอย่างแท้จริงเพียงชั่วขณะ โลกที่ร่ำร้องหาสันติภาพกำลังหลงคิดว่า ยิ่งเราฆ่าอีกฝ่ายมากเท่าใดก็ยิ่งมีโอากาสเจอกับสันติภาพได้มากขึ้นเท่านั้น ทำสงครามโดยมีจุดมุ่งหมายคือสันติภาพ ตีตราประทับคนอีกซีกหนึ่งของเส้นแบ่งเขตว่าเป็นศัตรูชั่วร้ายเพื่อหาเหตุโยงไปสู่ “สันติภาพ”ในบั้นปลาย ผู้ต้องสงสัยคดีจากความคิดต่างทางการเมืองหลายคนได้รับโทษทัณฑ์หนักยิ่งกว่่านักโทษคดีฆ่าข่มขืนเสียอีก นักโทษฆ่าข่มขื่นมีโอกาสได้ออกมาก่อคดีซ้ำ ในขณะที่นักโทษการเมืองบางคนตายในคุกก่อนจะได้ยืนยันว่าตัวเองบริสุทธิ์
เด็กๆเล่นกันไปเพื่ออะไร บางทฤษฎีระบุไว้ว่าเล่นเพื่อการเรียนรู้ ซึ่งก็เป็นทฤษฎีที่ฟังขึ้น แม้แต่สัตว์อย่างหมา แมว เสือ ก็เล่นกันเองในลักษณะคล้ายการล่าและการต่อสู้เพื่อเตรียมการสำหรับการหาอาหารและสืบพันธุ์เมื่อเติบใหญ่ แต่ถึงกระนั้นเติบใหญ่แล้วได้ขยายพันธุ์แล้วยังมีสิทธิเล่นหรือไม่ เล่นที่ไม่ได้เกิดผลประโยชน์ใดแก่ภายภาคหน้า เด็กสมัยนี้มีสิทธิที่จะเล่นสนุกโดยไม่หวังผลและไม่กลัวไปเบียดเบียนเวลาเรียนหรือไม่ เวลาเรียนสำหรับเตรียมตัวไปล่าหางานในระบบทุนนิยมในอนาคต
ความรู้สึกผิดถูกทุนนิยมตีตราประทับให้กับกิจกรรมพักผ่อนที่ไม่ได้ก่อให้เกิดรายได้ หรือทักษะ ชื่อเสียง อื่นๆใดที่จะก่อให้เกิดรายได้ในอนาคต ความใฝ่ฝันของเด็กดูไร้สาระและไม่ควรทุ่มเทเมื่อกิจกรรมนั้นไม่เคยอยู่ในโปรแกรม “กิจกรรมที่ช่วยให้ได้งานและเงินในอนาคต” ของผู้ใหญ่ ทั้งๆที่เป็นโปรแกรมที่รอวันตกยุค เหมือน DOS ที่รอคอยการมาของระบบปฏิบัติการ Window เด็กที่เชื่อผู้ใหญ่ทุกคำสั่งสอนจนไร้หัวคิดเป็นของตัวเอง ถึงแม้จะไม่ค่อยมีโอกาสเสียคน แต่ก็อาจจะเสียโอกาสในการเป็นคนอย่างเต็มตัว
ผู้ใหญ่ที่เรามองเห็นอาจจะเป็น พ่อ แม่ ครูอาจารย์ แต่ผู้ใหญ่ที่มองไม่เห็นในยุคนี้มาในรูปของทุนนิยมหรือวัตถุนิยม ย่องเข้ามมาในสมองส่วนอมิกดาล่ายามที่เรากำลังใช้สมองส่วนหน้าอย่างขะมักเขม้น สั่นสะเทือนความกลัวความไม่มั่นคงให้ใช้เวลาชีวิตไปกับสิ่งที่ให้ค่าตอบแทนชัดเจน ความรู้สึกผิดลึกๆเกาะกุมใจของบางคนที่ต้องการสะสมเครื่องเล่น พินบอล ตกยุคตามเสียงหัวใจ ถึงแม้จะตัดสินใจสะสมมันได้แต่ก็น่าจะผ่านช่วงเวลาแห่งความชั่งใจ “มันไร้สาระ” “มันไม่เกิดประโยชน์” “มันเปลือง” คงตะโกนผ่านหูข้างในมาบ้าง