13 เม.ย. 2021 เวลา 01:17 • ประวัติศาสตร์
ผู้เกือบได้ครองแผ่นดิน อู๋ซานกุ้ย (吳三桂) ผู้ทรยศซ้ำแล้วซ้ำอีก ตอนที่ 2
สามเจ้าศักดินา
เมื่อแมนจูเข้าด่าน ยึดครองแผ่นดินจีนได้สำเร็จ สถาปนาราชวงศ์ชิง ปกครองแผ่นดิน (ซึ่งเป็นราชวงศ์สุดท้าย)
ขุนนางราชวงศ์หมิง ที่มีความดีความชอบ ช่วยแมนจูเข้ายึดแผ่นดินได้ ต่างได้รับอวยยศ
ซึ่งขุนนางสำคัญ 3 คนที่ได้รับอวยยศเจ้าศักดินา คือ
อู๋ซานกุ้ย เป็น ผิงซีหวาง (平西王) ได้ดูแลพื้นที่เขตยูนนาน
ซ่างเขอสี่ เป็น ผิงหนานหวาง (平南王) ครองพื้นที่กวางตุ้ง
เกิ่งจิงจง เป็น จิงหนาน (靖南王) ครองพื้นที่ฮกเกี้ยน
ราชวงศ์ชิงแม้จะเข้าปกครองแผ่นดินได้สำเร็จ แต่ก็ยังคงมีกลุ่มอำนาจของราชวงศ์หมิงที่ยังคงต่อต้านราชสำนักใหม่ อู๋ซานกุ้ย มีบทบาทอย่างมากในการปราบปราบกลุ่มอำนาจเดิม ผลงานที่สำคัญคือ การประหารฮ่องเต้หย่งลี่ ฮ่องเต้องค์สุดท้ายแห่งราชวงศ์หมิงใต้
เมื่อเข้าสู่แผ่นดินของ ฮ่องเต้คังซีผู้ยิ่งใหญ่ ราชสำนักมีความพยายามลดอำนาจของเจ้าศักดินาทั้ง 3
และจังหวะดีที่ ซ่างเขอสี่ ขอเกษียณตัวเอง แล้วขอให้ราชสำนักแต่งตั้ง ซ่างจือซิ่น บุตรชายของตนเองสืบทอดตำแหน่ง
ทางราชสำนัก ตอบรับการขอลาออกแต่ไม่ให้ซ่างจือซิ่น สืบทอดตำแหน่งต่อ
เรื่องนี้ทำให้ อู๋ซานกุ้ย และ เกิ่งจิงจง ระแวงราชสำนักว่าจะยึดอำนาจพวกตน จะลองใจราชสำนักชิงโดยการถวายฏีกา แสร้งขอร้องให้ฮ่องเต้คังซีทรงปลดบรรดาศักดิ์พวกตน
ซึ่งราชสำนักชิงก็มองออกว่า ฏีกานี้เป็นเป็นแผนทดสอบราชสำนักเท่านั้น ถ้าตอบรับ ก็จะมีการก่อกบฏ ขุนนางหลายคนขอให้ยับยั้งการลาออกของ อู๋ซานกุ้ย และ เกิ่งจิงจง
แต่ฮ่องเต้คังซี มีพระทัยเด็ดเดี่ยวมาก พระองค์มองออกว่า แม้ว่าจะยับยั้งฏีกาครั้งนี้ แต่ต่อไปก็คงจะหาเหตุอื่นเพื่อกบฏ พระองค์ตรัสว่า
“อู๋ซันกุ้ยมีจิตใจทะเยอทะยาน หากปลดเขาย่อมกบฏ ไม่ปลด ช้าเร็วก็ต้องกบฏ มิสู้ลงมือก่อนย่อมเป็นฝ่ายได้เปรียบ”
เป็นไปตามคาด
ค.ศ.1673 อู๋ซานกุ้ย ร่วมกับ ซ่างเขอสี่ และ เกิ่งจิงจง ก่อกบฏขึ้น เรียกว่า กบฏสามเจ้าศักดินา
อู๋ซานกุ้ย ได้เคลื่อนทัพจากมณฑลยูนนาน เปลี่ยนมาใส่ชุดศึกของราชวงศ์หมิง อ้างว่าต้องการที่จะแก้แค้นแทนราชวงศ์หมิงที่ล่มสลายไป ทว่าประชาชนยังจำได้ดีว่า อู๋ซานกุ้ยเป็นคนเปิดด่านซันไห่กวน เชิญทหารชิงเข้ามา การกล่าวอ้างเช่นนี้จึงไม่มีใครยอมเชื่อ
1
ช่วงแรกของการก่อกบฏ ทัพของกบฏ ชนะศึกโดยตลอด ยึดครองดินแดนภาคใต้ของจีนได้ทั้งหมด แต่ทางฮ่องเต้คังซี ก็ยังคงยืนยันต้านศึกครั้งนี้ โดยพระองค์ยับยั้งการทอดบรรดาศักดิ์ของ ซ่างเขอสี่ และ เกิ่งจิงจง ขณะเดียวกันก็เลือกแม่ทัพนายกองที่มีความสามารถ ออกต้านศึกจนฝ่ายอู๋ซานกุ้ยเริ่มแพ้ศึก
โมเมนตัมของสงครามเริ่มเปลี่ยน
อู๋ซานกุ้ยพ่ายศึกติดต่อกันหลายครั้ง ซ่างเขอสี่ และ เกิ่งจิงจง ก็หันไปยอมแพ้ต่อราชสำนักชิง
เมื่อเห็นว่าไม่มีหวัง อู๋ซานกุ้ย จึงเริ่มตรอมใจ ล้มป่วยลงจนเสียชีวิต โดยช่วงที่ชนะศึกติดต่อกันนั้น อู๋ซานกุ้ย สถาปนาตนเองเป็นฮ่องเต้ ว่ากันว่ามีการตัดชุดมังกร ตกแต่งตำหนักเอาแบบอย่างวังหลวง
ปีค.ศ. 1681 กองทัพของราชสำนักชิง สามารถเข้ายึดคุมหมิงได้ อู๋ซื่อฝาน (吴世璠) หลานของอู๋ซานกุ้ย จึงลงมือฆ่าตัวตาย เป็นอันสิ้นสุดการกบฏครั้งนี้ และเป็นการสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งให้ราชวงศ์ชิงอีกหลายปี
อู๋ซานกุ้ย เดิมเป็นแม่ทัพที่มีฝีมือของราชวงศ์หมิง แต่ต้องเรียกว่า ทรยศ 2 ราชวงศ์ที่ตนรับใช้ จนถูกตราหน้าว่า คนขายชาติ ช่วงแรกที่ชนะศึก ถ้าไม่รีบร้อนตั้งตนเป็นฮ่องเต้ อาจยังได้รับการสนับสนุนจาก ซ่างเขอสี่ และ เกิ่งจิงจง ต่อ พอเขาตั้งตนเป็นฮ่องเต้ อีก 2 คนก็รู้สึกว่าตกเป็นเบี๊ยล่าง
บางความเชื่อกล่าวว่า อู๋ซานกุ้ย ตัดชุดมังกร ทำตนเป็นฮ่องเต้ โดยวาสนาไม่ถึงจึงทำให้พบกับความปราชัย ก็ว่ากันไปตามความเชื่อ
ขอขอบคุณ​ที่​ติดตา​มอ่าน​มาถึง​ตรงนี้
กดไลค์​กด​แชร์​กด​ติดตาม​กัน​เพื่อ​ไม่​พลาด​ตอน​ต่อไป​กัน​นะ​ครับ​

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา