12 เม.ย. 2021 เวลา 17:33 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
ที่เห็นอยู่นี้คือแปลงเกษตรแนวดิ่งที่ดัดแปลงมาจากหลุมหลบภัยสมัยสงครามโลก
แม้จะอยู่ใต้ดินไร้แสงตะวันแต่แปลงเกษตรแนวดิ่งนี้ก็ให้ผลผลิตที่ดีไร้การรบกวนจากแมลงศัตรูพืช ผลผลิตที่ได้ยังเป็นผักออแกนิคปลอดสาร
ทำแปลงปลูกผักออแกนิคไว้ในบังเกอร์หลบภัยสมัยสงครามโลก
ลึกลงไปใต้ถนนในมหานครลอนดอนประเทศอังกฤษ Growing Underground กิจการสัญชาติอังกฤษได้ทำแปลงปลูกผักออแกนิคเพื่อส่งขายให้กับ Marks & Spencer ซูเปอร์มาร์เก็ตรายใหญ่ของอังกฤษ
1
แต่แปลงผักนี้ไม่ใช่แปลงผักธรรมดาด้วยการใช้พื้นที่ของหลุมหลบภัยสมัยสงครามโลกในการนำแปลงเกษตรแนวดิ่งแบบอัจฉริยะ
ลึกลงไป 33 เมตรจากพื้นดิน คือหลุมหลมภัยสมัยสงครามโลกที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว แต่วันนี้ก็ได้กลายมาเป็นแปลงเกษตรแนวดิ่งที่ใช้เลี้ยงปากท้องของผู้คนในมหานครลอนดอน
ด้วยเทคนิคการปลูกผักแบบ hydroponics ซึ่งไม่อาศัยดิน ใช้ไฟ LED ในการให้แสงสว่างสำหรับการสังเคราะห์แสงรวมถึงปรับอุณหภูมิให้กับแปลงผัก
รวมถึงการใช้เทคโนโลยี Digital twin ซึ่งใช้ค่าตรวจวัดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น อุณหภูมิ ความชื้น ปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ฯลฯ เพื่อใช้ในการควบคุมและสร้างสภาวะที่เหมาะสมที่สุดสำหรับเหล่าพืชผลที่กำลังเจริญเติบโต
ข้อมูลตรวจวัดเหล่านี้ถูกนำไปจำลองในคอมพิวเตอร์เพื่อหาสูตรที่ดีที่สุดในการปลูกพืชผลให้ได้ผลผลิตสูงสุด
** Digital Twin คืออะไร?? **
คือเทคโนโลยีในการนำข้อมูลจากตรวจวัดต่าง ๆ นำมาสร้างแบบจำลองสภาวะการณ์ของสิ่งต่าง ๆ ที่เราสนใจในคอมพิวเตอร์เพื่อประเมินผลที่เกิดขึ้นหากมีการปรับเปลี่ยนตัวแปรต่าง ๆ
ตัวอย่างการใช้งานก็เช่น การจำลองกระบวนการผลิตแบบคู่ขนาน เพื่อดูผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นโดยไม่ต้องเสี่ยงกับความเสียหายจากการทดลองเดินไลน์การผลิตแบบใหม่
ซึ่งต้องบูรณาการเทคโนยีหลากหลายเข้ามา ทั้ง IOT AI Big Data เป็นเทคโนโลยีที่มีศัยกภาพสูงมาก ๆ เราสามารถจำลองเหตุการณ์และวิเคราะห์ผลได้โดยไม่ต้องเสี่ยงกับการทดสอบจริง
จำลองการทำงานของเครื่องจักรราคาแพงได้โดยไม่ได้เอาเครื่องไปเสี่ยงเดินจนพัง
ซึ่ง Digital Twin ของ Growing Underground ได้พัฒนาร่วมกับมหาวิทยาลัย Cambridge และสถาบัน Alan Turing ส่งผลให้พืชผลในแปลงโตเร็วกว่าเดิม 50% และให้ผลผลิตสูงขึ้น 25% ที่สำคัญยังใช้น้ำน้อยลงและปลอดการใช้ยาฆ่าแมลง
1
และการเพาะปลูกในแปลงเกษตรแนวดิ่งของ Growing Underground นี้ยังใช้พลังงานหมุนเวียน 100% อีกด้วย
ด้วยพลังของข้อมูลจึงทำให้แปลงเกษตรออแกนิคแนวดิ่งนี้ให้ผลผลิตที่ดีงาม
ทั้งนี้การทำเกษตรแนวดิ่งนั้นเป็นความหวังหนึ่งในการแก้ปัญหาการขาดแคลนอาหารที่โลกจะต้องเผชิญในอีกไม่กี่ทศวรรษข้างหน้า โดยองค์การสหประชาชาติได้ประเมินว่าโลกจะมีประชาการกว่า 9,700 ล้านคนในปี 2050
และด้วยผลผลิตต่อพื้นที่ การทำเกษตรแนวดิ่งนั้นยังจะมาช่วยลดปัญหาพื้นที่ทำกินและอยู่อาศัยของประชากรโลก รวมถึงผลิตผลที่สูงย่อมจะช่วยลดปัญหาโลกร้อนได้อีกด้วย
ก็นับว่าเป็นการนำพื้นที่ที่ไม่ได้ใช้งานมาใช้ประโยชน์ได้อย่างน่าสนใจทีเดียว กับการผลิตอาหารให้กับเมืองใหญ่โดยใช้พื้นที่อย่างคุ้มค่า

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา