13 เม.ย. 2021 เวลา 07:00 • สิ่งแวดล้อม
DDT หรือ dichloro-diphenyl-trichloroethane เป็นสารเคมีที่ถูกคิดค้นขึ้นสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง เพื่อฆ่าเชื้อให้กับทหารในสงคราม และป้องกันการแพร่เชื้อมาลาเรียได้ เมื่อสงครามสิ้นสุดได้มีการนำ DDT มาใช้อย่างแพร่หลายในที่ต่างๆ เช่นยาฆ่าแมลงเกษตรกรรม ยาฆ่ายุงตามบ้าน ยาฆ่าเชื้อบริเวณชายหาด เป็นต้น
จนกระทั่งในทศวรรษที่ 60 เร่ิมมีการพบผลกระทบของ DDT ที่มีต่อสัตว์ และมนุษย์ เช่นทำให้เปลือกไข่ของเหยี่ยวบางลง รวมถึงถูกระบุว่าเป็นสารก่อมะเร็งของมนุษย์ด้วย ทำให้ในปี 1972 สหรัฐอเมริกาออกกฎหมายแบน DDT ถาวร
บริษัท Montrose Chemical Corporation ผู้ผลิต DDT รายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย ช่วงปี 1947 -1982 ได้มีการทิ้งของเสียลงสู่ทะเลโดยการต่อท่อตรงความยาว 3 กิโลเมตรบริเวณชายหาด Rancho Palos Verdes รวมถึงการนำของเสียอีกส่วนใส่ถังเหล็ก ขึ้นเรือไปทิ้งในบริเวณห่างออกไป 10 กิโลเมตร
ปริมาณของเสียที่ Montrose ทิ้งนั้นมีไม่ต่ำกว่า 1500 ตัน และถังเหล็กที่จมอยู่ก้นทะเลก็มีเยอะจนไม่สามารถนับได้หมด คาดว่าไม่ต่ำกว่า 1000 ใบ แต่ที่น่าตกใจคือ การกระทำทั้งหมดของบริษัท เป็นการกระทำที่ได้รับอนุญาตในเวลานั้น!
3
ระยะเวลาผ่านไป 20 ปี หลังจากบริษัทปิดตัวลง อย.ของสหรัฐ (EPA)ได้ทำการฟ้องร้องบริษัทและชนะคดีเรียกค่าเสียหายได้กว่า 140 ล้านเหรียญ และนำมาตั้งกองทุนเพื่อ สำรวจหาผลกระทบจากสารพิษตกค้าง รวมถึงฟื้นฟูสภาพแวดล้อมเช่นการปลูกปะการังทดแทนบริเวณหาด Rancho Palos Verdes
แต่สำหรับจุดที่ทิ้งถังสารเคมีลงไปนั้น อยู่ลึกเกินกว่าที่จะเก็บขึ้นมา และยังมีความเสี่ยงที่จะแตกระหว่างการขนย้าย ทำให้บริเวณนั้นกลายเป็นเหมือนสารเคมีที่ค่อยๆ ปล่อยสารพิษออกมา
แม้ว่า DDT จะไม่ส่งผลกระทบต่อคนโดยตรงหากสัมผัสที่ผิวหนัง กล่าวคือเราสามารถลงไปว่ายน้ำบริเวณนั้นได้ แต่ พิษของ DDT จะถูกสะสมอยู่ในปลาซึ่งถ้ากินเข้าไปก็จะได้รับสารพิษนั้นเต็มๆ
แน่นอนว่า บริเวณนั้นถูกเตือนไม่ให้ทำการประมง แต่สำหรับสิงโตทะเลพวกมันไม่รู้ว่าปลาตัวไหนปนเปื้อนสาร DDT จากการวิจัยตลอด 30 ปี ของทีม Marine Mammal Center ที่ช่วยสิงโตทะเลป่วยกว่า 24,000 ตัว พบว่าสิงโตทะเลเหล่าบริเวณนั้นเป็นโรคมะเร็งกว่า 25%
ไม่มีใครรู้ว่าสารพิษในถังที่ก้นทะเลเหล่านั้นมีอยู่เท่าไหร่ และจะส่งผลกระทบไปอีกกี่ปี แต่ที่รู้คือเป็นอีกครั้งที่มนุษย์สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ขึ้นมาบนโลกแล้วสุดท้ายกลับมาทำร้ายสัตว์ร่วมโลก รวมถึงกลับมาทำร้ายตัวเราเองด้วย
โฆษณา