เข้าใจว่าคนที่ลงทุนในจีน โดยเฉพาะ A share ส่วนใหญ่ก็คงจะผ่านกองทุนเป็นหลัก เนื่องจากข้อจำกัดหลายๆอย่างที่ทำให้การเข้าไปลงทุนหุ้นรายตัวด้วยตัวเองค่อนข้างทำได้ยากกว่ามาก ผมก็เลยเอาสรุป performance ของกองทุนในไทยที่ลงใน China A share มาให้ดูกัน
จากทั้งหมด 11 กองในปัจจุบัน แบ่งเป็น Active fund 7 กอง และ passive fund 4 กอง
กอง mater fund หลักของต่างประเทศ จริงๆแล้วมีอยู่ไม่กี่กอง ซึ่งแยกให้แล้วตามสีต่างๆ ถ้ามองแบบคร่าวๆจะเห็นว่า กองที่ทำผลงานได้ดีที่สุดในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมากลับเป็นกอง passive อย่าง TMBCHEQ ซึ่งลงผ่าน iShare FTSE A50 China index ETF ของ Blackrock ในขณะที่กอง active ต่างๆแพ้หมดในภาวะตลาดขาลงช่วงนี้
พวก passive fund ใน long term อาจจะสู้ active fund ไม่ได้ แต่ก็มีข้อดีคือ maximum draw down ในช่วงตลาดขาลงก็จะน้อยกว่า
จุดนี้สามารถเปรียบเทียบได้จาก Sharpe ratio ประกอบการตัดสินใจได้เช่นกัน (ค่า Sharpe ratio หมายถึง ผลตอบแทนส่วนเกินต่อหน่วยความเสี่ยง)
ผมขอยกตัวอย่างมาเปรียบเทียบ portfolio ของ active master fund หลัก 2 กองระหว่าง Allianz Global Investors Fund - Allianz China A-Shares กับ UBS (Lux) Investment SICAV - China A Opportunity มาให้ดูเล็กน้อย
Allianz Global Investors Fund - Allianz China A-Shares
ส่วนคนที่ลงทุนระยะยาว จากข้อมูลในอดีต กอง active fund สามารถทำผลงานได้ดีกว่า passive fund ใน long term แต่ก็เหมาะกับคนที่สามารถรับความผันผวนได้มากกว่าด้วยเช่นกัน ลองชั่งน้ำหนักดูว่าท่านเป็นประเภทไหนก่อนจะเลือกซื้อกองใดๆครับ