14 เม.ย. 2021 เวลา 02:07 • หนังสือ
FEVRE DREAM เรือรัตติกาล
คุณเคยหลงรักหนังสือเล่นไหนบ้างมั้ย ? หนังสือที่ไม่อยากอ่านให้จบ อยากเก็บไว้อ่านนานๆ ถึงแม้มันจะสนุกและอยากรู้บทสรุปของเรื่องแค่ไหน สำหรับผมมีอยู่ 4 เล่ม ไม่สิต้องบอกว่า 3 เล่มกับอีก 1 เรื่องนั่นคือ 1. คำมั่นสัญญา ของทมยันตี 2. หนึ่งเรื่องที่ว่าคือ Harry Potter ทั้ง 7 เล่มของ J.K. Rowling 3. Doctor Sleep ของ Stephen King และ 4. En Evil Mind ของ Chris Carter
2
--- แต่หลังจากที่ได้อ่านหนังสือเล่มที่จะรีวิวต่อไปนี้แล้ว นี่คือเล่มที่ 5 ที่เป็นหนึ่งสือที่ผมหลงรัก
--- FEVRE DREAM หรือในชื่อภาษาไทยว่า “เรือรัตติกาล” ประพันธ์โดย George R.R. Martin ซึ่งเป็นผู้แต่งนิยายแฟนตาซี ศึกชิงบัลลังก์อันยิ่งใหญ่ A Song of Ice and Fire (Game of Thrones) นั่นเอง ถอดความโดย ดาวิษ ชาญชัยวานิช และจัดจำหน่ายโดย สำนักพิมพ์ เวิร์ด วอนเดอร์
--- ในช่วงกลางของยุค 80 เป็นช่วงที่เรือกลไฟกำลังเฟื่องฟูในอเมริกา เรือกลไฟถูกใช้ในการขนถ่ายสิ้นค้าระหว่างเมือง รับส่งผู้โดยสาร และถ้าลำไหนหรูหน่อยก็สามารถที่จะเป็นเรือสำราญย่อมๆได้เลย
--- กัปตันแอ็บเนอร์ มาร์ช เคยเป็นเจ้าของธุรกิจเรือไฟที่ยิ่งใหญ่และมั่งคั่งที่สุดในแม่น้ำฟีเวอร์ แต่เคราะห์ร้ายเรือไฟของเขาถูกน้ำแข็งกัดทำลายจนเรือแตก จากปรากฎการณ์ที่น้ำในแม่น้ำแข็งตัวเป็นน้ำแข็งกระทันหัน ส่วนเรือไฟจำนวนที่เหลือของเขาเก่า และใกล้ปลดระวางเต็มที แอ็บเนอร์ มาร์ช กำลังตกที่นั่งลำบาก
--- แต่แล้ววันหนึ่ง มาร์ช ได้รับข้อเสนอจากชายผู้มีใบหน้าขาวซีด อ่อนเยาว์ และดวงตาเป็นสีเทามืดน่าตื่นตระหนก เหมือนเป็นดวงตาของภูตพรายที่พร้อมจะเกี่ยวดวงวิญญาณของผู้จ้องมอง นั่นคือ โจชัว อานทอน ยอร์ก บุรุษลึกลับผู้นี้ให้คำมั่นสัญญากับ มาร์ชว่า เราทั้งคู่จะสร้างเรือไฟที่ยิ่งใหญ่ที่สุด หรูหราที่สุด และเร็วที่สุดที่เคยมีมา จะไม่มีเรือลำไหนในแม่น้ำที่จะตามเรือพวกเขาทัน และพวกเขาทั้งสองจะเป็นกัปตันร่วมกัน เป็นหุ้นส่วนที่ไว้ใจซึ่งกันและกัน...
--- แต่ โจชัว ยอร์ก มีข้อแม้ว่า มาร์ช จะต้องไม่สงสัยในพฤติกรรมที่อาจดูพิลึกพิลั่นของเขา เขามีศัตรูเยอะและแข็งแกร่งที่ต้องจัดการ และจะไม่คาดคั้นเขาถ้าเห็นอะไรที่ผิดปกติเกิดขึ้นบนเรือ เพราะยอร์กไม่อยากทำร้ายความไว้ใจหุ้นส่วนด้วยการโกหก... และมาร์ช ก็ตกปากรับคำ...
--- Fevre Dream ชื่อของเรือไฟที่มีความหมายเหมือนเป็นลางร้าย โรคระบาด ความตาย และภาพฝันร้ายที่บิดเบี้ยวที่ทั้งคู่ตั้งชื่อให้กับหล่อน หล่อนสวยสง่า ใหญ่โต หรูหรา และรวดเร็วสมคำที่ ยอร์กได้ให้สัญญาไว้ ทั้งคู่บริหารจัดการหล่อนขนถ่ายสิ้นค้า รับส่งผู้โดยสาร และทำความเร็วแข่งกับเรือไฟลำอื่นเพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับ Fevre Dream
--- จนกระทั่ง มาร์ช เริ่มที่จะทนไม่ไหวกับการอยากรู้อยากเห็นในพฤติกรรมที่พิลึกของ ยอร์ก ที่นอนในช่วงทิวาและออกมาในยามราตรี บางทีก็ออกคำสั่งให้แวะจอดที่ท่าเติมฟืน หรือท่าเรือ เป็นเวลานานหลายวัน ช่วงฟ้ามืดก็จะออกไปพร้อมกับสมุนที่มีพฤติกรรมพิลึกไม่ต่างกัน และกลับมาพร้อมกับมือที่เปื้อนเลือด แถมยังรับคนมาขึ้นเรือเพิ่มอีกจำนวนหนึ่งซึ่งมีลักษณะที่ไม่เหมือนมนุษย์ปรกติ มาร์ช จึงได้ขอคุยกับ ยอร์ก ตรงๆว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่...
--- ยอร์กจึงจำใจที่จะต้องแสดงความจริงใจต่อหุ่นส่วนของเขาโดยย้อนถามกลับไปว่า คุณเคยได้ยินคำว่า นอสเฟอราตู หรือ แวมไพร์ ไหม คำพวกนี้มีความหมายต่อคุณหรอเปล่ามาร์ช...
--- ณ อีกเมืองหนึ่งในเส้นทางเดินเรือของ Fevre Dream เด็กสาวอายุขบเผาะชนชั้นทาสที่ถูกประมูลมาจากตลาดค้าทาส กรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด เมื่อ เดมอน จูเลียน หรือที่สมุนต่างเรียกมันว่า เจ้าแห่งโลหิต หรือ ราชาผีดิบ โน้มตัวลงไปจุมพิต ที่บริเวณข้อมือของทาสสาว และเริ่มดูดดื่มเลือดอันหวานฉ่ำจากร่างกายของเธอ ซึ่งรายล้อมไปด้วยสมุนแวมไพร์ที่หิวกระหาย และดวงตามีประกายดำมืดลุกโชน ที่เพียงใครจ้องมองก็พร้อมที่จะเผยลำคอให้กัดและดูดพลังชีวิตออกไป
--- หลังจากที่ เจ้าแห่งโลหิต ดูดดื่มจนพอใจแล้ว มันผละออกจากเหยื่อ สมุนของแวมไพร์จึงได้รับโอกาสให้เข้าสูบเลือด และพลังชีวิตของทาสสาว พวกมันทั้งดูด ดื่ม กัดแทะ และฉีกกระชากลำคอเหยื่ออย่างหิวกระหาย...
*** โจชัว อานทอน ยอร์ก เป็นใครกันแน่ และเขาจะจัดการกับศัตรูที่แข็งแกร่งของเขาอย่างไร...
*** แอ็บเนอร์ มาร์ช จะยอมรับกับพฤติกรรมอันพิลึกของหุ้นส่วนเขาได้หรือไม่
*** และเดมอน จูเลียน เจ้าแห่งโลหิตได้ตื่นขึ้นแล้ว มันเรียกมนุษย์หรือเหยื่อของมันว่าปศุสัตว์ และมันรับรู้ถึงการมาของโจชัว ยอร์ก...
ความคิดเห็นหลังอ่าน
1. สนุกกกและประทับใจมากกก แต่ไม่อาจไม่สนุกสำหรับทุกคน เนื่องจากเนื้อหาในเล่มมีการใช้คำที่สละสวย ภาษาโบราณเพื่อให้เข้ากับยุค 80 บรรยายสภาพแวดล้อม บรรยากาศต่างๆ ให้ออกมาได้น่าหวาดหวั่น และพรั่งพรึงที่สุด ซึ่งใครไม่ชอบก็อาจจะเบื่อได้ แต่สำหรับผมแล้วมันคือมนต์ขลังของหนังสือที่ได้อ่านในยุคนี้ มันเป็นอะไรที่อ่านแล้วขนลุกตลอดเวลา
2. มีบทกวีที่ผู้แปลแปลออกมาได้น่าประทับใจมาก เก่งมากกก การเลือกใช้คำที่เหมาะสม อ่านแล้วเข้าถึงบทกวีนั้นอย่างไม่ยากเย็น
3. เนื้อหาที่มืดหม่น บรรยากาศที่ไม่น่าไว้วางใจ ความกดที่ต้องเอาใจช่วยตัวละครที่เราชอบ และความดราม่าระหว่างมิตรภาพของ กัปตันเรือทั้งสอง ทุกอย่างที่กล่าวมานี้คุณจะได้รับมันไปเต็มๆจากหนังสือเล่มนี้
4. ฉากการแล่นเรือแข่งกันที่ผมไม่เคยได้อ่านหรือได้พบเจอจากหนังสือเล่มไหนมาก่อน มันทั้งสนุกและลุ้นระทึกในเวลาเดียวกัน
5. นิยายแวมไพร์แต่ละเรื่องก็จะเล่าถึงตำนานที่ไปในทิศทางเดียวกันเหมือนที่เราๆทราบและเคยได้ยินมา แต่ก็จะมีเอกลักษณ์หรือรูปแบบที่แตกต่างกันออกไปของแต่ละผู้แต่ง ลองค้นหาดูว่าแวมไพร์ในเล่มนี้จะน่าขนลุก และมีเสน่ห์ดึงดูดแค่ไหน
6. อ่านตอนกลางคืนเงียบๆ นี้มีสะดุ้งอ่ะถ้าได้ยินเสียงอ่ะแปลก หรือมีสายโทรศัพท์เข้ามา ซึ่งมันได้บรรยากาศนักแล
7. ใครหล่ะจะไม่ชอบ ผีดูดเลือด แวมไพร์กระหายเลือด เพราะแค่ได้รู้ว่าเป็นอะไรเกี่ยวกับแวมไพร์ มันก็เหมือนมีมนต์ขลังที่จะสะกดให้ผมหยิมมันขึ้นมาอ่านแล้ว
8. ความคิดเห็นส่วนตัวผมให้ไปเลย 10/10
โฆษณา