“บทเรียนจากเต่าตนุกับสิ่งที่คนส่วนใหญู่ทำกัน” เรื่องสั้นจาก The why cafe
ในวันที่ทะเลสดใส เดซี่ย์ดำน้ำแบบสนอร์เกิลและตื่นเต้นที่ได้เห็นปลาไหลลายจุด ปลาหมึก และปลาตัวเล็กตัวน้อยสีสันต่างๆ แต่เมื่อเธอเหลือบไปเห็นเต่าตนุลายเขียวที่ไม่เคยเห็นมาก่อน เธอจึงลอยตัวบนผิวน้ำ และว่ายตามมันเพื่อให้เห็นเต่าตัวนี้เต็ม ๆ ตา อีกสักพัก
แต่เธอต้องแปลกใจเมื่อระยะห่างจากเต่าตนุและเธอห่างกันขึ้นเรื่อยๆ ทั้งที่เธอว่ายน้ำด้วยตีนกบและไม่ได้ใส่เสื้อชูชีพที่ทำให้ช้า เมื่อเต่าตนุลับตาไปเธอจึงผิดหวัง
วันถัดมาเดซี่ย์จึงกลับมาที่เดิม และเธอก็เจอกับเต่าตนุจริง ๆ ตามที่หวัง เธอจึงตามเต่าตนุอีกครั้ง แต่ก็พบว่าเต่าว่ายน้ำห่างออกจากเธอไปอีกเช่นเดิม เธอจึงหยุดตีขากบ แต่ลอยตัวดูเต่าตนุนิ่ง ๆ
จากนั้นเธอจึงได้คำตอบบางอย่าง และนำไปเป็นบทเรียนใช้ในชีวิตของเธอเลยทีเดียว
...
นั่นคือ
เธอสังเกตุเห็นว่าเต่าเคลื่อนที่ตามสายน้ำ เมื่อคลื่นซัดเข้าหาฝั่ง เต่าตนุมันจะปล่อยตัวลอยและตีขาเล็กน้อยให้พอประคองตัวอยู่ตำแหน่งเดิมได้ เมื่อกระแสน้ำพัดออก เต่าตนุจะตีขาแรงขึ้นเพื่อว่ายตามกระแสน้ำไป
ในขณะที่เธอจ้ำขาว่ายน้ำตลอดเวลา เมื่อคลื่นซัดเข้าหาเธอจึงยิ่งออกแรงหนักขึ้น นั่นทำให้เธอเหนื่อย พอถึงจังหวะที่กระแสน้ำพัดออกเธอจึงล้า ไม่ได้ใช้ประโยนน์จากกระแสน้ำเท่าที่ควร
...
เพื่อนๆ ละคะ
ลองหยุดและคิดถึงตัวเองดูนะคะ ว่าเรื่องนี้สอนอะไรบ้าง สำหรับเดซี่ย์เธอบอกว่าเมื่อมีเป้าหมายความฝันในชีวิต แต่คุณกลับไม่ทำในสิ่งที่เป็นหนึ่งเดียวกับมัน คุณจะสูญเสียพลัง และพอถึงโอกาสของคุณ คุณจะเหนื่อยล้าและไม่เหลือกำลังทำในสิ่งที่คุณฝันอีก
ดังนั้นเราต้องคิดใช่ไหมนะว่าเมื่อไหร่ควรเลือกตีขามากน้อยและด้วยเหตุผลอะไร
หาคำตอบกันเอาเองนะคะ
...
ในช่วงที่หยุดสงกรานต์ถือโอกาสทบทวนตัวเองด้วยหนังสือ The why cafe ก็เป็นทางเลือกหนึ่งให้มาลองแหวกว่าย แวะพักขา ประคองตัวจมไปกับตัวหนังสือที่เอาแต่ถามย้อนเราไปมา ก็เป็นประสบการณ์ดี ๆ อีกแบบ
ที่มา: หนังสือ #Thewhycafe #คาเฟ่สำหรับคนหลงทาง