Blockdit Logo (Mobile)
เพลงนั้น
•
16 เม.ย. 2021 เวลา 16:06 • ดนตรี เพลง
"Lady In Red" ความทรงจำถึงเธออันเป็นที่รักของ Chris de Burgh
Chris de Burgh นักร้องและนักแต่งเพลงลูกครึ่งอังกฤษ-ไอริช แต่งเพลงนี้ขึ้นโดยมีความทรงจำเมื่อครั้งที่เขาได้เห็นภรรยาของเขาเป็นครั้งแรก เป็นแรงบันดาลใจสำคัญ เขาพยายามอธิบายให้ฟังว่า ทำไมผู้ชายส่วนใหญ่ถึงมักจำไม่ได้ว่า คนรักของตัวเองสวมใส่ชุดอะไรในการพบกันครั้งแรก
เพลงนี้อยู่ในอัลบั้มชื่อ "Into the Light" ซึ่งเป็นงานเพลงชุดที่แปดของเขา ออกมาในปีค.ศ.1986 เพลงนี้เป็นเพลงแรกของเขาที่สามารถขึ้นถึงอันดับ Top40 บนชาร์ทของอังกฤษ และต่อมาได้กลายเป็นเพลงที่โด่งดังที่สุดของเขามาจนถึงทุกวันนี้ เรียกได้ว่าเป็นเพลงที่เปลี่ยนชีวิตของเขาไปเลยทีเดียว
"Lady In Red" สามารถขึ้นไปได้ถึงอันดับที่ 3 บนชาร์ท Billboard Hot 100 ของอเมริกาและอันดับที่ 1 บนชาร์ท UK Singles ของอังกฤษและยังขึ้นถึงอันดับหนึ่งได้ในอีกหลายๆประเทศในยุโรปด้วย
เพลงนี้เป็นที่นิยมมิใช่น้อยเลยทีเดียวในบ้านเรา ผมจะได้ยินมันถูกเปิดตามรายการวิทยุเพลงสากลต่าง ๆ อยู่บ่อย ๆ ในช่วงเวลาของยุค 80s
ยังไม่นับที่ปรากฏในเทปคาสเซ็ทรวมฮิตของค่ายต่าง ๆ ที่วางขายอยู่ทั่วไปตามแผงขายเทปอีกด้วย
แต่ในเวลานั้น ไม่เคยมีโอกาสได้เห็นมิวสิควิดีโอเพลงนี้เลยนะ เพิ่งจะมาเห็นจากบนยูทูบเมื่อไม่นานมานี่เอง
"Lady In Red" เป็นเพลงป็อปที่ฟังนุ่มนวล น้ำเสียงของคุณ Chris de Burgh ก็มีเสน่ห์ชวนฝัน เหมาะกับการถ่ายทอดเรื่องราวในแบบของผู้ใหญ่
ส่วนของดนตรีนั้น มีความเป็นเสียงแห่งยุค 80s อย่างเต็มเปี่ยม เป็นส่วนผสมของเสียงในแบบอิเล็คทรอนิคส์ที่มีการใช้ทั้งดรัมแมชชีนและซินธีไซเซอร์อย่างหนาแน่น กับเสียงของเครื่องดนตรีจริงอย่างเบสและกีต้าร์ ที่ถูกเล่นออกมาอย่างมีชีวิตชีวาได้อย่างลงตัว
โดยส่วนตัว ผมชอบเสียงการเล่น Fretless Bass ของ Pino Palladino ในเพลงนี้มากเป็นพิเศษ
คุณ Palldino นี่เป็นหนึ่งในยอดฝีมือกีต้าร์เบสที่ฝากฝีมือไว้ในผลงานเพลงของศิลปินดังอย่าง Paul Young, Don Henley, Elton John, Jeff Beck, Phil Collin รวมทั้งรุ่นใหม่ๆอย่าง Adele, John Mayer หรือแม้แต่ Ed Sheeran อีกด้วย
เป็นอีกเพลงที่ให้บรรยากาศของยุคสมัยได้ดีเหลือเกิน ฟังแล้วเคลิบเคลิ้มลืมปัจุบันไปเลย
💖
โฆษณา