ชีวิตที่มีสับปะรด ทำแกงคั่วสับปะรดฉบับคนอยู่เมืองนอก
แกงคั่วสับปะรด
สมัยตอนเด็ก ๆ ฉันอยู่กับคุณยายที่บ้านสวนริมคลองแสนแสบ ภายในสวนจะมีทั้งผักและผลไม้มากมาย ส่วนใหญ่จะเป็นการปลูกเอาไว้เพื่อกินเอง ถ้ามีเหลือก็แบ่งขายบ้าง ผลไม้อย่างหนึ่งที่มีเยอะมากเพราะขึ้นง่ายและไม่ต้องบำรุงรักษามากก็คือ สับปะรด
นอกจากจะได้กินสับปะรดเป็นผลไม้แล้ว ยังจะได้กินอาหารสารพัดเมนูอาหารที่มีสับปะรดเป็นส่วนประกอบอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นต้มสับปะรดกระดูกหมู ข้าวผัดสับปะรด ผัดเปรี้ยวหวาน และสับปะรดกวนเป็นของหวาน
เมนูหนึ่งที่คุณยายของฉันชอบมาก ๆ คือ แกงคั่วสับปะรด เพราะลักษณะของแกงคั่วเป็นแกงที่ไม่เผ็ดมากนัก มีความเปรี้ยวและหวานของสับปะรดช่วยให้แกงมีรสชาติกลมกล่อมกำลังดี และแกงคั่วสับปะรดที่เป็นสูตรโบราณดั้งเดิมนั้นจะแกงด้วยหอยแมลงภู่
ที่บ้านสวนของคุณยายเป็นบ้านสวนริมคลอง ในสมัยที่ยังมีการใช้คลองเป็นเส้นทางสัญจร จะมีเรือขายหอยแมลงภู่ขับผ่านหน้าบ้าน เสียงเรือหางยาวเครื่องดังกระหึ่ม เรือแล่นฝ่าสายน้ำกระจายมาแต่ไกล เสียงคนขายหอยตะโกน "หอย...โอ้วววววววววววววว" หอย...มาแล้วโอ้วววววววววววว" โดยไม่ต้องใช้ไมโครโฟนขยายเสียง
ฉันเมื่อยามเป็นเด็ก จะรีบวิ่งลงไปที่สะพานท่าน้ำ กวักมือเรียกเรือขายหอย ต้องรีบกวักแต่เนิ่น ๆ เพราะกลัวเรือหอยจะแล่นผ่านไป ช้าไม่ได้ เรือหอยจะไม่คอยหิน มัวงุ่มง่ามก็จะอดกินหอย เมื่อได้หอย ก็จะเข้าสวนไปตัดสับปะรดนำมาแกง
อย่างที่บอกแลัว แกงคั่วสับปะรดเป็นแกงที่จะไม่เผ็ดมาก ทำให้เด็ก ๆ ก็กินได้ และฉันก็ติดกินแกงคั่วสับปะรดฝีมือคุณยายมาตั้งแต่เด็ก จนเมื่อต้องย้ายไปอยู่เมืองนอก ไปอยู่ที่เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ที่อยู่ปัจจุบันนี้ความคิดถึงกลิ่นและรสชาติแกงกะทิข้นหวานอมเปรี้ยวติดปลายลิ้นของแกงคั่วสับปะรดที่คุ้นเคย ก็ทำให้หวนย้อนคิดถึงวัยเด็กอยู่บ่อย ๆ สูตรแกงคั่วสับปะรดฉบับคนอยู่เมืองนอกจึงถูกคิดขึ้นมาเองจากความทรงจำสมัยวัยเยาว์
ได้เป็นส่วนประกอบต่าง ๆ ดังนี้
เครื่องปรุงแกงคั่วสับปะรด
หอยแมลงภู่ ที่ประเทศออสเตรเลียนั้นหอยจะมีราคาสูงมาก ส่วนใหญ่ที่นิยมและหาซื้อได้ทั่วไปคือ หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ คิดดูสิ ทั้ง ๆ ออสเตรเลียก็เป็นเกาะ แต่หอยแมลงภู่กลับต้องสั่งจากนิวซีแลนด์ ฉันเลยคิดว่าจะไม่ใช้หอย แต่จะใช้เป็นรวมมิตรซีฟู้ดหรือที่เรียกว่า Marinara Mix แทน ซึ่งจะมีเนื้อปลา กุ้ง ปลาหมึกวง และหอยแมลงภู่ตัวน้อย ๆ ปนมา สามารถหาซื้อได้ที่แผนกเดลี่ในซุปเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป วันนี้ฉันซื้อมา 300 กรัม สำหรับแกงกิน 2 คน
สับปะรด ออสเตรเลียมีการปลูกสับปะรดทางตอนเหนือของประเทศในแถบรัฐควีนสแลนด์ ส่วนบ้านฉันอยู่เมืองเมลเบิร์น เป็นเมืองทางฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ และแน่นอน ด้วยอากาศที่หนาวเย็นกว่าทางเหนือ เราเลยปลูกสับปะรดไม่เคยเป็นสับปะรดเลยจ้า
ส่วนสับปะรดที่มีส่งมาขายก็เป็นพันธุ์ที่ไม่รู้จักและเลือกไม่เป็น (แล้วกระแดะทำเป็นคุยว่าเคยอยู่สวนสับปะรด) สรุป สับปะรดกระป๋อง เป็นทางออกที่ดีที่สุดของฉัน แฮร่ ! ยี่ห้ออะไรก็ได้แต่ขอให้เป็นแบบ Crushed หรือสับปะรดสับ และจะต้องเป็น in juice ด้วยนะ อย่าเผลอหยิบแบบ in syrup มาล่ะ นั่นมันเป็นสับปะรดในน้ำเชื่อมจ้า
อ้อ...สับปะรดจะอยู่ตรงแผนกผักกระป๋องนะ ไม่ได้อยู่ที่แผนกผลไม้กระป๋องนะคะ ฉันใช้ขนาด 440 กรัม จะให้ปริมาณที่พอดี
กะทิ แน่นอนว่าจะต้องเป็นกะทิกระป๋องที่แท้ทรู กระป๋องเล็ก 165 ml นี่เพียงพอสำหรับแกง 1 หม้อเล็ก เพราะกะทิจะมีความเข้มข้นมาก ข้นระดับหัวกะทิเลยทีเดียว
กะทิกระป๋อง
พริกแกง ถ้าเป็นพริกแกงคั่วจะหายากสักหน่อยในออสเตรเลีย จะตำเองก็มีเครื่องไม่ครบ ฉันเลยใช้เป็นน้ำพริกแกงเผ็ดสำเร็จรูปแทน ยี่ห้อที่มีขายทั่วไปก็จะเป็น "แม่พลอย" กับ "น้ำใจ" คุณภาพใกล้เคียงกันมาก แต่วันนี้เป็นวันที่ฉันเป็นคนมีน้ำใจค่ะ ใช้ปริมาณ 2 ช้อนโต๊ะ แต่ถ้าต้องการเผ็ดมากก็เพิ่มปริมาณเอาตามชอบได้นะคะ
น้ำตาลปี๊บ จะเป็นน้ำตาลปี๊บแบบก้อนแข็งที่ส่งไปจากประเทศไทย แบบเหลว ๆ ฉันไม่เคยเห็นมีขาย ต้องใช้แบบก้อนแข็งนำมาทุบให้เล็กก่อนใช้ ปริมาณ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 2 - 4 ช้อนโต๊ะ ตามความชอบ
เคล็ดลับในการทำแกงให้อร่อยอยู่ที่การผัดน้ำพริก เป็นเคล็ดลับที่คุณยายย้ำนักย้ำหนาว่าจะต้องไม่ขาด
ตั้งกระทะด้วยไฟปานกลาง ใส่กะทิลงไปก่อนประมาณ 3 ส่วน 4 กระป๋อง สังเกตว่ากะทิจะข้นมาก เคี่ยวจนกะทิเดือด ใส่น้ำพริกลงไปผัด ผัดนานแค่ไหนถึงจะพอ ? คำตอบคือ ผัดจนกะทิแตกมัน ในการผัดเราจะไม่ใส่น้ำมัน แต่จะผัดจนน้ำมันจากกะทิและเครื่องพริกแกงแตกออกมา ถ้าน้ำพริกเริ่มแห้งสามารถค่อย ๆ เติมกะทิที่เราแบ่งเก็บไว้ได้ เมื่อได้ที่ ตัวน้ำพริกและกะทิจะเปลี่ยนสีเป็นแดงเข้มขึ้น มีน้ำมันเคลือบเป็นเงา และกลิ่นของเครื่องเทศในพริกแกงจะฉุนจนจามเลยทีเดียว นั่นแหละถึงจะใช้ได้ ถ้าผัดไม่ถึง แกงจะสีไม่แดงสวยและจะมีรสเฝื่อนไม่อร่อย
ผัดน้ำพริกจนกะทิแตกมัน
เมื่อผัดน้ำพริกได้ที่แล้ว เร่งไฟแรงขึ้น ใส่ซีฟู้ดลงไปผัดเล็กน้อย อย่าคนมากเพราะจะทำให้เกิดกลิ่นคาว ถ้าทำแกงในปริมาณมากอาจจะต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำพริกลงหม้อหรือใช้กระทะใบใหญ่กว่านี้นะคะ แต่วันนี้ฉันแกงปริมาณ 2 คนกิน ใช้กระทะใบเล็กก็เพียงพอค่ะ
เมื่อซีฟู้ดสุก ใส่สับปะรดทั้งน้ำและเนื้อลงไป แกงนี้เราจะไม่เติมน้ำเพิ่มเพราะจะมีน้ำจากสับปะรดกระป๋องอยู่แล้ว ตั้งไฟต่อจนเดือด
สับปะรดสับ
ปรุงรสด้วยน้ำตาลและน้ำปลา สำหรับน้ำปลาให้ใส่ตอนแกงเดือดจัด ความร้อนจะยิ่งขับกลิ่นน้ำปลาให้หอมเตะจมูก
ถ้ามีใบมะกรูดให้ฉีกใส่สัก 2 - 3 ใบ เคล็ดลับอีกอย่างที่คุณยายย้ำคือการฉีกใบมะกรูดบนปากกระทะ เป็นวิธีการที่เรียกว่า "ฉีกหน้าหม้อ" ซึ่งความร้อนจากกระทะจะขึ้นมากระทบใบมะกรูดขณะฉีก ทำให้น้ำมันจากใบมะกรูดออกมาเพิ่มความหอมของแกงและดับกลิ่นคาวได้ด้วย จากนั้นก็ปิดไฟและตักเสิร์ฟได้เลย
ฉีกใบมะกรูดหน้าหม้อ
แกงคั่วสับปะรดฉบับคนอยู่เมืองนอก แม้เครื่องจะไม่ครบสมบูรณ์ แต่ความใส่ใจในแต่ละขั้นต้องการทำ ก็ทำให้ได้แกงในแบบรสชาติที่คุ้นเคยมาตั้งแต่เด็กและอร่อยตามสูตรแบบไทยโบราณได้เลยทีเดียว
#ผู้เขียน
เกิดกรุงเทพ เติบโตริมคลองแสนแสบที่ฉะเชิงเทรา จบการศึกษาจากขอนแก่น แล้วกลับไปทำงานที่กรุงเทพ ปัจจุบันอยู่บ้านเล็ก ๆ ในป่ากัมที่ออสเตรเลีย
เรียนและรักษ์ภาษาไทย ชอบออกไปดู ไปดม ไปชมโลกด้วยความหลงใหล แล้วนำกลับมาเล่า
ฝากผลงาน E-Book เที่ยวเมลเบิร์นด้วยตัวเองไปกับรถรางสาย 35
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
