เคยไหม… หัวหน้าเดินขมวดคิ้วเข้าห้องประชุมมา ก็รู้กันทันทีเลยว่า “ซวยละ…”
เคยไหม… มีพี่ฝั่งตรงข้ามแอบยิ้ม ๆ ให้ ก็เอามาฝันหลายวันหลายคืน
มาดูกันว่าเหล่า ‘มนุษย์เงินเดือน’
จะใช้ ‘อวัจนภาษา’ ให้เป็นประโยชน์ได้ยังไงบ้างในที่ทำงาน?
#รู้หรือไม่!? ผู้เชี่ยวชาญมากมายก็ต่างเห็นตรงกันว่า
“ส่วนมากคนเรา ‘ไม่’ ได้สื่อสารกันผ่านถ้อยคำหรือตัวอักษร แต่เรากลับใช้ ‘อวัจนภาษา’ ไปมากถึง 70-93% ของบทสนทนาทั้งหมดกันเลยทีเดียว!!”
อวัจนภาษาที่ใช้กันโดยทั่วไป 7 อย่างมีอะไรบ้าง?
และมีความสำคัญอย่างไรในที่ทำงานนะ? มาดูกัน!
1. สายตา “สอดคล้องกับสีหน้า แค่มองตาก็รู้ใจ!”
ในบางสถานการณ์ เช่นการประชุม ที่เราไม่อยากจะใช้คำพูดในการขัดหรือรบกวนผู้พูด บางที ‘สายตา’ ที่ดูว่างเปล่าของเราก็ช่วยบอกผู้พูดว่าเรามีคำถามก็ได้! และหลาย ๆ ครั้ง การสบตาก็คือการแสดงออกถึงความจริงใจและให้เกียรติผู้พูด และยังช่วยให้การใช้วัจนภาษา (ภาษาพูด) ให้มีน้ำหนักมากยิ่งขึ้นก็ได้!
2. กิริยา ท่าทาง “แค่ขยับ เท่ากับมีความหมาย”
ไม่ว่าจะเป็นการพยักหน้า ส่ายหัว ยักคิ้ว หรือยิ้ม พวกนี้ก็ล้วนแต่เป็นอวัจนภาษาทั้งนั้น แถมยังสามารถทำให้คนอื่นเข้าใจเราได้อีก! ลืมล่ะสิ เพราะบางทีเราก็อาจจะใช้กันจนชินไปแล้ว
3. น้ำเสียง “รู้สึกอะไร รับรู้ได้จากน้ำเสียง”
ยกตัวอย่างเช่นคำว่า “เปล่า” .. พอเสียงสูงงงงง เป็นคำว่า “เปล๊า” แสดงว่ามีอะไรแน่ ๆ ! จังหวะการพูด พูดเร็ว-ช้า ก็ดูออกว่าตื่นเต้นหรือกลัวอยู่ โทนการใช้เสียงหนัก เบา หลายครั้งก็สามารถบอกได้เลยว่าผู้พูดต้องการสื่ออะไร! ฉะนั้นถ้าเวลาดีลหรือขายงาน เราก็ต้องหนักแน่น และแสดงออกมาให้มั่นใจที่สุดว่าเรามั่นใจในสินค้าของเรา ถ้าคนขายยังดูงง สอบถามขาวประมงก็คงไม่เข้าใจ~~~
4. การสัมผัส “สื่อความรู้สึก สื่อวัฒนธรรม”
ภาษาผ่านการสัมผัส สามารถสื่อความรู้สึก อารมณ์ และสิ่งที่เราต้องการสู่ผู้รับสารได้ ไม่ว่าจะการจับมือ ตบบ่า หรือท่าการกอดในวัฒนธรรมต่าง ๆ และถ้างานเราต้องดีลกับคนต่างชาติ แต่ประเทศเราไม่ได้จับมือหรือกอดกันเป็นปกติล่ะ? การจับมือน่ะเป็นปกติมาก แต่ก็ต้องจับให้ไม่แน่นเกินไป หรือการกอดที่มีหลายแบบและหลายระดับ ฉะนั้นลองศึกษาให้ดีก่อน ไม่งั้นเดี๋ยวจะทำตัวไม่ถูกหรือมีการเข้าใจผิดกันแน่นอนจ้าาา
อ่อ แต่ช่วงนี้ COVID กลับมาอีกแล้ว เว้นการสัมผัสกันก็ดีเด้ออออ!
5. ช่องว่างระหว่างกัน “เว้นระยะซักนิด ไม่สนิทก็ห่างหน่อย”
ระยะห่างระหว่างกันมีตั้งแต่ยังไม่มีโรคระบาดแล้วจ้า สังเกตดูสิ ว่าแค่พระกับญาติโยมก็มีระยะห่าง หรือเรากับคนที่เราไม่สนิท ก็คงไม่มีใครอยากอยู่ใกล้กันเบอร์นั้นหรอก จริงมั้ย? ฉะนั้น ในบริบทของการทำงาน เมื่อต้องขายงาน ไม่ว่าจะนั่งหรือยืน การรักษาระยะซัก 1-1.5 เมตร เป็นระยะที่ดีที่เค้าจะไม่รู้สึกอึดอัดกับเราเกินไป ถึงแม้จะสนิทแค่ไหนก็ตาม
6. เวลา “ตีความหมายผ่าน ‘เวลา’
แต่ละคนก็ให้ความหมายเวลาแต่ละช่วงต่างกันไป แต่ที่สำคัญที่สุดในสังคมตะวันตกคือ ‘การตรงต่อเวลา’ บางคนอาจจะตีความหมายว่า ถ้าหากคุณนัดแล้วแต่มาเลท ก็เหมือนเป็นการดูหมิ่นหรือดูถูกเวลาที่ให้เค้ามารอ เป็นต้น ฉะนั้น เนื่องจากการตีความเรื่องเวลาของคนนั้นต่างกันไป ก็ควรรักษาเวลาไว้ก่อนเพื่อความเป็นมืออาชีพนะจ๊ะ!
7. สิ่งของ วัตถุ “ของใช้ ก็มีความหมายซ่อนอยู่...”
แต่ละอย่างที่เราเลือกใช้ ไม่ว่าจะ เครื่องประดับ เสื้อผ้า แว่นตา ปากกา ก็ล้วนมีความหมายแฝงอยู่ บางคนสวมแว่นที่ไม่มีค่าสายตา เพียงแค่ต้องการให้มีลุคที่น่าเชื่อถือ หรือจะเป็นการถือปากกาที่เป็นแบรนด์ที่บริษัทขายอยู่ เพื่อโปรโมทหรือให้คนไว้วางใจได้ว่า “เฮ้ย! ขนาดเจ้าของยังใช้เองเลยอะ!” ก็ได้เช่นกัน!
.
คราวนี้รู้กันแล้วใช่มั้ยล่ะ
“ว่าทั้งสายตา ท่าทาง ระยะห่าง (บลา ๆ) มันหลอกกันไม่ด้ายยยยยย”
#SEEN #AbilitytobeSEEN
#ภาษากาย #อวัจนภาษา #งาน #ทักษะ #การสื่อสาร #Communication
- 3
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
