18 เม.ย. 2021 เวลา 05:58 • ธุรกิจ
เลี้ยงลูกเเบบมหาเศรษฐี
หลักการเลี้ยงดูลูก ที่แสนเรียบง่าย ของบิลล์ เกตส์ เป็นแบบไหน ? | THE BRIEFCASE
เมื่อพูดถึงมหาเศรษฐีอันดับโลกอย่าง บิลล์ เกตส์ ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Microsoft เราอาจคิดว่าการใช้ชีวิตของเขาจะต้องสุดโต่งตามภาษามหาเศรษฐี โดยเฉพาะวิธีการเลี้ยงดูลูก ๆ ทั้ง 3 คนของเขา คือ เจนนิเฟอร์, รอรี และฟีบิ ที่น่าจะต้องได้รับการดูแลอย่างดี เสมือนไข่ในหิน
แต่ในความเป็นจริง บิลล์และเมลินดา เลี้ยงลูกด้วยวิธีการที่แสนจะเรียบง่าย ธรรมดาเหมือนครอบครัวทั่ว ๆ ไป และเป็นวิธีการที่น่าสนใจที่เราเอามาปรับใช้กับครอบครัวของตัวเองได้ โดยแบ่งออกเป็น 5 เรื่องด้วยกัน คือ
1) การฝึกให้ทำงานบ้านร่วมกัน
ถึงแม้ว่าบิลล์และเมลินดาจะเป็นผู้บริหาร ซึ่งตอนนี้พวกเขาดูแลมูลนิธิบิลล์แอนด์เมลินดาเกตส์ ซึ่งเป็นมูลนิธิเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยทรัพย์สินมูลค่ารวมเกือบ 1.4 ล้านล้านบาท
แต่พวกเขายังคงแบ่งงานบ้านให้กับลูกชายและลูกสาวทั้งสองคนช่วยกันทำ
โดยงานบ้านที่ว่านั้น คือ “การล้างจาน” ที่ต้องทำด้วยกันเกือบทุกคืน เพราะถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของครอบครัวเกตส์ ซึ่งเหตุผลที่เมลินดาริเริ่มแนวคิดนี้ก็เพราะต้องการเน้นย้ำว่า
งานบ้านไม่ควรตกอยู่ในความรับผิดชอบของใครเพียงคนเดียว ทุกคนจะต้องรับผิดชอบร่วมกันไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย
ที่สำคัญคือเธอเชื่อว่าการล้างจานด้วยกัน แม้จะเป็นกิจกรรมที่ดูง่าย ๆ แต่ก็สามารถทำให้ความสัมพันธ์ของครอบครัวแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้นได้ง่าย เช่นกัน
2) ลูก ๆ ของบิลล์จะได้รับมรดกเพียงคนละ 300 ล้านบาทเท่านั้น
บิลล์ เกตส์ เป็นหนึ่งในมหาเศรษฐีที่ถูกขนานนามว่า “Centibillionaire” ซึ่งหมายถึงบุคคลที่ ที่มีทรัพย์สินมากกว่า 1 แสนล้านเหรียญขึ้นไป
อย่างไรก็ดี ลูก ๆ ของเขายังคงต้องทำงานหนัก เพื่อรับมรดกเพียงคนละ 300 ล้านบาท และบิลล์ยัง ระบุชัดเจนอีกว่า ลูกหลานของเขาจะได้รับมรดกเพียง "ส่วนน้อย" เท่านั้น เพื่อฝึกให้ลูกมองโลกว่า ไม่มีอะไรที่ได้มาแบบง่าย ๆ หรือได้มาแบบไม่ต้องทำอะไรเลย
ที่สำคัญก็คือ ความมั่งคั่งของเขาโดยส่วนใหญ่จะอุทิศให้กับการกุศล อย่างเช่น มูลนิธิบิลล์แอนด์เมลินดาเกตส์ ที่เขาทำอยู่ตอนนี้ เขาก็ได้บริจากเงินหลักล้านล้านเพื่อช่วยแก้ปัญหาความยากไร้ ปัญหาทางด้านสาธารณสุข และปัญหาการเปลี่ยนแปลงทางด้านสภาพอากาศ
3) ห้ามใช้โทรศัพท์บนโต๊ะอาหารค่ำ
บิลล์และเมลินดามีข้อห้ามเด็ดขาด ในการไม่ให้ลูก ๆ ใช้อุปกรณ์สมาร์ตโฟน ในขณะที่รับประทานอาหารมื้อค่ำด้วยกัน
ที่น่าสนใจคือเจนนิเฟอร์ รอรี และ โฟเบ ไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้โทรศัพท์มือถือจนกว่าจะอายุครบ 14 ปี นอกจากนั้นบิลล์ยังจำกัดเวลาในการอยู่หน้าจอของลูก ๆ ด้วย เพราะเชื่อว่ามีส่วนช่วยให้การนอนหลับมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ที่ทำแบบนี้ เพราะบิลล์และเมลินดา ต้องการปลูกฝังให้ลูก ๆ ให้ความสำคัญกับเวลาของครอบครัว
4) เข้าโบสถ์คาทอลิกเป็นประจำ
บิลล์เปิดเผยกับนิตยสารโรลลิงสโตนส์ว่า ครอบครัวของเขาไปโบสถ์เป็นประจำ เหตุผลเพราะ บิลล์และเมลินดาต้องการเลี้ยงลูกด้วยวิธีทางศาสนา
ซึ่งงานการกุศลของเขา ก็สอดคล้องกับจุดประสงค์หลักที่ต้องการลดความไม่เท่าเทียมกันในโลก ซึ่งในมุมมองของบิลล์ เขามองว่าศาสนาเป็นมีส่วนช่วยให้พวกเขาเข้าใจความเป็นไปของโลกได้ดีขึ้น
5) ใช้รูปแบบการเลี้ยงดูที่เกิดขึ้นในปี 1970
ในขณะที่บิลล์เป็นผู้ปฏิวัติวงการเทคโนโลยี แต่เขาและเมลินดา ยังคงใช้รูปแบบการเลี้ยงดูลูกที่พัฒนาขึ้นในปี 1970 โดยให้ความสำคัญกับ “ความรักและตรรกะ" เป็นหลัก
โดยวิธีนี้ช่วยลดปฏิกิริยาทางอารมณ์ที่ไม่ดีกับเด็กได้ หรือเรียกง่าย ๆ ว่าช่วยส่งเสริมให้เด็กเติบโตขึ้น โดยเป็นผู้ที่มีความฉลาดทางอารมณ์ ซึ่งหนึ่งในวิธีเลี้ยงดูดังกล่าว ก็เช่น การตำหนิลูก ๆ ด้วยเหตุและผล นุ่มนวล แต่ตรงไปตรงมา ไม่กระทบจิตใจของลูก ๆ และไม่เอาอารมณ์มาเป็นที่ตั้ง
และสิ่งสำคัญสำหรับการเลี้ยงดูลูกที่ให้ความสำคัญกับ “ความรักและตรรกะ” จะเป็นการสนับสนุนให้เด็กสามารถแก้ปัญหาได้ด้วยตนเอง
แต่อย่างไรก็ดี เขาก็ยังยอมรับว่ายังคงต้องปรับวิธีการเลี้ยงลูก ให้เข้ากับแนวทางของครอบครัวตัวเองอยู่เสมอ ให้เหมาะสมกับสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปในทุกวันนี้
ทั้งหมดนี้คือวิธีการเลี้ยงลูกของมหาเศรษฐีระดับโลกอย่างบิลล์ เกตส์ที่น่านำไปปรับใช้
แต่จากเรื่องนี้ ก็มีข้อสังเกตอยู่อย่างหนึ่งคือ
ถึงแม้เขาจะเป็นผู้สร้างบริษัทซอฟต์แวร์และเป็นผู้บุกเบิกคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล แต่เขาและภรรยากลับไม่อยากให้ลูก ๆ เข้าถึงเทคโนโลยีจนกว่าจะอายุครบ 14 ปีบริบูรณ์ ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาก็เป็นส่วนหนึ่งที่สร้างเทคโนโลยีเหล่านั้นขึ้นมา..
โฆษณา