18 เม.ย. 2021 เวลา 09:55 • ธุรกิจ
คุณกำลังเสียเปรียบธนาคารอยู่ไหม !?
อย่าทำแต่สิ่งที่ธนาคารสอน
จงทำในสิ่งที่ธนาคารทำ
#ประโยคเปลี่ยนชีวิต by คยต live
8
ปกติเวลาเราไปฝากเงินที่ธนาคาร ธนาคารจะจ่ายดอกเบี้ยให้เราแค่น้อยนิด แต่ธนาคารจะเอาเงินฝากของเราไปลงทุนในรูปแบบต่างๆ เช่น หุ้น ปล่อยกู้ ( คิดดอกเบี้ยเงินกู้ตั้ง 6-12% ต่อปี แต่คืนดอกเบี้ยเงินฝากให้เราไม่ถึง 1% ต่อปี!? )
ธนาคารนำเงินฝากของพวกเราไปลงทุนจนสามารถทำกำไรให้ธนาคารได้อย่างมหาศาล...แล้วเราล่ะ !?
3
บางทีมันอาจจะถึงเวลาแล้วที่เราต้องทำแบบที่ธนาคารทำ!! ซึ่งมันก็มีหลายวิธี แต่มีหนึ่งวิธีที่กำลังมาแรงในโลก Cryptocurrencies คือ การทำฟาร์มบน DeFi !!
#DeFi (Decentralized Finance)
5
คือ ระบบการให้บริการทางการเงินแบบไร้ตัวกลาง โดยใช้ Cryptocurrencies บนระบบ Blockchain ด้วยคำสั่งอัตโนมัติ Smart Contract
เมื่อเป็นรูปแบบที่ไร้ตัวกลาง ก็จะไม่มีใครมาเอาผลประโยชน์จากเงินฝากของเราไปได้ เราจะเป็นคนเลือกความเสี่ยงเอง ฝากเงินเอง ปล่อยกู้เอง โดยที่มีระบบ Smart Contract เป็นตัวรันระบบให้
5
Smart Contract ทำงานยังไง ?
Smart Contract คือ สัญญาอัจริยะ ซึ่งจะทำหน้าที่กำหนดสัญญาการแลกเปลี่ยนเหรียญ การให้กู้ การฝากเหรียญ การเก็บค่าธรรมเนียมจากธุรกรรมต่างๆ รวมถึงกำหนดสินทรัพย์ที่ใช้ค้ำประกันตอนที่เรากู้เงินด้วย
3
นอกจากนี้ Smart Contract ยังสามารถยึดสินทรัพย์ที่นำมาค้ำประกัน (ยึดสินทรัพย์ในเวลาที่สินทรัพย์นั้นมีราคาตกเกินสัญญา) เพื่อขายทอดตลาด ซึ่งเป็นการป้องกันปัญหาหนี้เสียในระบบ ซึ่งทุกอย่างจะรันด้วย Code ที่ผู้สร้างจะแก้ไขเองไม่ได้ จะต้องได้รับการยินยอมจากผู้ใช้งานบน Platform เท่านั้น
3
#หลักการทำงานคร่าวๆของDeFi
ปกติแล้วถ้าเราซื้อเหรียญ Cryptocurrencies ตาม Platform Centralized Exchange (พวกแพลตฟอร์มที่มีศูนย์กลาง เช่น Binance Bitkub ) เราจะได้กำไรจากราคาเหรียญที่เพิ่มขึ้นเพียงอย่างเดียว
3
แต่ถ้าหากเราเอาเหรียญที่ซื้อไปทำฟาร์มบน Platform DeFi หมายถึง การที่เราเอาคู่เหรียญ Crypto ไปฝากใน Pool ต่างๆเพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้ Platform เมื่อมีคนมา Swap (แลกเปลี่ยน) คู่เหรียญของเรา เราจะได้ผลตอบแทนเป็นส่วนแบ่งค่าธรรมเนียมของคนที่เข้ามาทำธุรกรรมต่างๆ ทั้งกู้ยืมหรือแลกเปลี่ยนเหรียญ Crypto
ซึ่งผลตอบแทนบน DeFi สูงถึง 10-150% ต่อปี หรืออาจจะถึงหลายพันเปอร์เซ็นต์ต่อปี ขึ้นอยู่กับคู่เหรียญที่เราฝากว่ามีความผันผวนมากน้อยแค่ไหน
11
ถ้าเราฝากคู่เหรียญ Stable Coin เราก็จะได้ผลตอบแทนที่ไม่มากนัก ซึ่งปัจจุบันได้ผลตอบแทนประมาณ 10-30% ต่อปี แต่ความเสี่ยงก็จะน้อยตามไปด้วยเพราะคู่เหรียญของเรามีความผันผวนต่ำ (มูลค่าของเหรียญ Stable Coin พอๆกับ มูลค่าของเงินดอลลาร์ )
1
ถ้าเราฝากคู่เหรียญที่มีความผันผวนสูง เราจะได้ผลตอบแทน ตั้งแต่ 30-70% หรืออาจถึงหลักร้อย หรือ พันเปอร์เซ็นต์ (แต่ความเสี่ยงก็สูงมากๆเช่นกัน) เรียกได้ว่า ถ้าไม่พุ่งไปดวงจันทร์ก็ดิ่งลงเหวกันเลย
2
#ผลตอบแทนจากการทำฟาร์มDeFi
การทำฟาร์ม DeFi เราจะสามารถทำกำไรได้จากทั้งราคาเหรียญที่เพิ่มขึ้นในอนาคต และ Rewards (คล้ายๆกับดอกเบี้ยเงินฝาก) ซึ่งจะจ่ายมาในรูป Governance Token ซึ่งตัวเหรียญ Governance Token จะมีมูลค่ามากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับความนิยมในการใช้ Platform
 
ยกตัวอย่างเช่น Pancake swap จะจ่าย Governance Token เป็นเหรียญ Cake ซึ่งตอนเริ่มเปิด Platform Pancake swap ในช่วงแรกๆ ประมาณเดือนตุลาคม 2020 เหรียญ Cake มีมูลค่าประมาณ $0.5 จนปัจจุบันเหรียญ Cake มีมูลค่าถึง $23.47 ซึ่งมูลค่าเพิ่มขึ้นเกือบ 4,700% ภายใน 7 เดือน เนื่องจาก Platform สร้างบน Binance Smart Chain (BSC) ซึ่งเก็บค่า Gas ถูกมากๆ จึงได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะเมื่อก่อนการสร้าง DeFi จะสร้างบน Ethereum Chain ซึ่งเก็บค่า Gas แพงมากๆ แพงกว่า BSC หลายเท่าตัว แต่ Ethereum Chain ก็มีความ Decentralized ที่สูงกว่าและปลอดภัยกว่า BSC
นอกจากนี้เหรียญ Governance Token ยังเปรียบเสมือนหุ้นบน Platform ซึ่งถ้าเรามี Governance Token เยอะเราก็เป็นเหมือนผู้ถือหุ้นใหญ่ ที่สามารถโหวตเพื่อพัฒนา Platform ให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้นได้มากกว่าคนอื่นๆ ซึ่งถ้า Platform ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น คนหลายคนก็อยากจะมาเป็นส่วนนึงของการสร้างกฎบน Platform ส่งผลให้ Governance Token มีราคาสูงขึ้นเรื่อยๆตามความนิยมของผู้ใช้งาน
1
บทความนี้เป็นเพียงการเล่าถึงการทำงานคร่าวๆของ DeFi เท่านั้น!! เพราะบนโลกของ DeFi มีรายละเอียดการทำงานของแต่ละ Platform ที่แตกต่างกัน และมีรายละเอียดด้านความปลอดภัยที่เยอะมากๆที่เราต้องศึกษา
1
เราต้องยอมรับว่าเมื่อเราทำธุรกรรมโดยที่ตัดศูนย์กลางอย่างธนาคารออกไป สิ่งที่ได้คือผลตอบแทนที่มากขึ้น ความอิสระที่สูงขึ้น แต่ความเสี่ยงทางด้านการเก็บรักษาโดยเฉพาะเรื่อง Private Key และ Seed Phrase ก็มากขึ้นตามไปด้วย ซึ่งเรื่องการรักษาความปลอดภัย เป็นเรื่องแรกที่เราต้องศึกษาก่อนที่จะเข้ามาสู่โลก DeFi เพราะถ้าเกิดปัญหาขึ้นมาเราจะไม่สามารถเรียกร้องอะไรได้เลย เพราะเราคือธนาคารของตัวเอง ทำกำไรได้เอง แต่ก็พังได้ด้วยตัวเองเช่นกัน
2
แอดแนน
โฆษณา