Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Life Football
•
ติดตาม
20 เม.ย. 2021 เวลา 15:01 • กีฬา
Treble champ คืออะไร และมีทีมไหนเคยได้บ้าง
หลังจากที่แมนเชสเตอร์ซิตี้แพ้เชลซีตกรอบในศึกเอฟเอคัพที่ผ่านมา ทำให้แมนซิตี้หมดสิทธิ์คว้าทริปเปิ้ลแชมป์อย่างเป็นการ เพราะต่อให้ทุกแชมป์ที่เหลืออยู่ก็ไม่นับว่าเป็นทริปเปิ้ลแชมป์ด้วยเหตุที่ว่าแชมป์คาราบาวคัพนับว่าเป็นบอลถ้วยเล็กของอังกฤษ ไม่จัดเป็นบอลถ้วยหลักภายในประเทศเหมือนแชมป์เอฟเอคัพ
ทริปเปิ้ลแชมป์คือการที่ในหนึ่งฤดูกาล สโมสรฟุตบอลคว้าแชมป์สามรายการ ซึ่งประกอบไปด้วย แชมป์ลีคในประเทศ แชมป์บอลถ้วยหลักภายในประเทศ แชมป์สโมสรยุโรป
สำหรับแชมป์สโมสรโลก แชมป์ยูฟ่าซุปเปอร์คัพ แชมป์บอลถ้วยเล็กภายในประเทศ เช่น คาราบาวคัพ หรือแชมป์การกุศลเช่น คอมมิวนิตี้ชิลด์ ไม่นับเป็นหนึ่งในทริปเปิ้ลแชมป์
ปัจจุบันถ้านับเฉพาะสโมสรที่ยุโรปมีเพียง 7 ทีมเท่านั้นที่ได้ทริปเปิ้ลแชมป์ มีรายชื่อดังต่อไปนี้
1.กลาสโกว์ เซลติค
2.อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม
3.พีเอสวี ไอน์โฮเฟ่น
4.แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
5.บาร์เซโลน่า
6.อินเตอร์มิลาน
7.บาเยิร์น มิวนิค
1
กลาสโกว์ เซลติค ฤดูกาล 1966-1967
เป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ที่สามารถคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ได้และเป็นทีมเดียวที่สามารถคว้า 4 แชมป์ได้พร้อมกับทริปเปิ้ลแชมป์ (Scottish League, Scottish Cup, Scottich League Cup, European Cup) โดยกุนซือเซลติกในเวลานั้นคือ จอร์ค สตีน (Jock Stein)
อาแจ็กซ์ อัมเตอร์ดัม ฤดูกาล 1971/1972
เป็นทีมแรกของฮอลแลนด์ที่คว้าทริปเปิ้ลแชมป์ได้ (Eredivisie, KNVB Cup, European Cup) นักเตะสำคัญของอาแจ็กซ์ในชุดนั้นนั่นคือ โยฮัน ครัฟฟ์ เจ้าของรางวัลบัลลงดอร์ 3 สมัย (1971, 1973, 1974) และทีมชุดนั้นคุมทีมโดยสเตฟาน โควัช (Stafan Kovacs)
พีเอสวี ไอน์โฮเฟ่น ฤดูกาล 1987/1988
เป็นทีมที่ 2 ของฮอลแลนด์ต่อจากอาแจ็กซ์ที่สามารถคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ได้ นักเตะคนสำคัญในชุดนั้นคือ Wim Kieft และโค้ชชุดนั้นคือกุส ฮิดดิ้ง (Guus Hiddink) กุนซือหนุ่มในขณะนั้นที่คุมทีมอย่างเป็นทางการแล้วปีแรกได้ทริปเปิ้ลแชมป์ทันที
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ฤดูกาล 1998/1999
เป็นทีมแรกของอังกฤษที่สามารถคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ได้สำเร็จ (Premier League, FA Cup, UEFA Champions league) ซึ่งเส้นทางในการคว้าแต่ละแชมป์ในมีโมเมนต์ที่น่าจดจำมากมาย เริ่มจากแชมป์ลีคที่เบียดบี้กับอาร์เซนอลของอาร์เซน เวนเกอร์จนถึงนัดนัดสุดท้าย และคว้าแชมป์ลีคด้วยคะแนน 79 คะแนนมากกว่าอาร์เซนอลเพียง 1 คะแนน ในส่วนของแชมป์เอฟเอคัพก็มีช็อตที่ไรอัน กิกส์ลากบอลครึ่งสนามไปยิงอาร์เซนอลในรอบรองชนะเลิศ ทำให้ชนะอาร์เซนอล 2-1 ได้ในช่วงต่อเวลาพิเศษ และคว้าแชมป์เอฟเอคัพได้สำเร็จ และสุดท้ายมาในรายการยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ลีค รอบรองชนะเลิศสามารถพลิกสถานการณ์ที่สนามเดเล อัลปิจากที่ตามยูเวนตุส 2-0 แล้วสามารถพลิกกลับชนะ 3-2 ผ่านเข้าชิงได้แบบสุดมหัสจรรย์ แล้วสุดท้ายไปสร้างปาฏิหาริย์ที่คัมป์นูด้วยการยิง 2 ประตูในช่วงทดเวลาบาดเจ็บแซงชนะบาเยิร์นมิวนิคคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนส์ลีคได้อย่างยิ่งใหญ่ ซึ่งนักเตะผู้ทำประตูชัยให้กับแมนยูไนเต็ดนั่นคือ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา โค้ชคนปัจจุบันของแมนยูไนเต็ดนั่นเอง และกุนซือของแมนยูในขณะนั้นคือ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันที่ภายหลังจากการพาทีมคว้า 3 แชมป์ก็ได้รับยศเซอร์เป็น เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
บาร์เซโลน่า ฤดูกาล 2008/2009
หลังจากที่ฤดูกาลล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงด้วยการไร้แชมป์ บาร์เซโลน่าก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เริ่มจากโค้ชที่ดันเป็ป กวาดิโอล่า โค้ชบาร์เซโลน่าชุดเล็กขึ้นมาเป็นโค้ชทีมชุดใหญ่อย่างเต็มตัว จากนั้นก็ได้มีการถ่ายเลือดครั้งใหญ่ โรนัลดิญโญ่ ถูกขายทิ้งไปที่เอซีมิลาน และดันดาวรุ่งที่ชื่อลีโนเอล เมสซีมารับเสื้อเบอร์ 10 ต่อจากโรนัญโญ่ ทีมชุดนั้นของเป็ปมาด้วยสไตล์ติกิตาก้าที่สวยงามโดยมีกองกลางอย่างชาบี เอร์นานเดซและอันเดรส อีเนียสต้าคอยขับเคลื่อนเกมแดนกลาง และมีสามประสานแดนหน้าอย่างเธียร์รี่ อองรี ซามูเอล เอโต้ และลีโอเนล เมสซี ทำให้ทีมชุดนั้นสมบูรณ์และไร้เทียมทาน บาร์เซโลน่าชุดนั้นเดินหน้าคว้าชัยชนะอย่างต่อเนื่อง ในลีคพวกเขาสามารถทวงแชมป์ลาลีกาจากเรอัลมาดริดได้สำเร็จ บอลถ้วยโคปาเดลเรย์สามารถชนะแอตเลติก บิลเบาอย่างไม่ยากเย็น และสุดท้ายในศึกยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ลีค พวกเขาชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แชมป์เก่าในรายการนี้ 2-0 จากการทำประตูของลีโนเนล เมสซีและซามูเอล เอโต้ คว้าทริปเปิ้ลแชมป์และอย่างยิ่งใหญ่ ไม่เพียงแค่นั้น บาร์เซโลน่าชุดนั้นสามารถคว้าสแปนิช ซุปเปอร์คัพ, ยูฟ่า ซุเปอร์คัพ, และแชมป์สโมสรโลก ทำให้เป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ที่สามารถคว้า 6 แชมป์ได้ในหนึ่งฤดูกาล
อินเตอร์มิลาน ฤดูกาล 2009/2010
การมาของโชเซ่ มูริญโญ อดีตกุนซือของเชลซีผู้พาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีคครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ในฤดูกาลนี้พวกเขามีการเสริมที่ยอดเยี่ยมเริ่มจากดึงเวสลีย์ สไนเดอร์จากเรอัลมาดริด คว้าตัวดิเอโก้ มิลิโต้จากเจนัว แลกตัวซามูเอล เอโต้กับซลาตัน อิบราฮิโมวิช และคว้าผู้เล่นอื่นๆที่เป็นส่วนสำคัญของทีมทั้งลูซิโอ ธิตาโอ ม็อตต้า และโกรัน ปานเดฟ ที่ให้มูริญโญได้ทีมที่ต้องการ อินเตอร์มิลานชุดนั้นมีเกมรับที่แข็งแกร่งดุจปราการเหล็กนำโดยสามประสานจากบราซิลนั่นคือ ชูลิโอ เซซาร์ ลูซิโอ และไมค่อน แดนกลางมีจอมทัพเป็นเวสลีย์ สไนเดอร์ และศูนย์หน้ามีซามูเอล เอโต้และดิเอโก้ มิลิโต้ เป็นดาวยิงจอมถล่มประตู อินเตอร์มิลานสามารถคว้าแชมป์ลีคได้อย่างไม่ยากเย็น ในบอลถ้วยโคปา อิตาเลียก็สามารถชนะโรม่าได้ 1-0 และในรายการยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ลีค รอบ 16 ทีมสุดท้ายชนะเชลซี ทีมเก่าของมูริญโญ รอบรองชนะเลิศสามารถเอาชนะบาร์เซโลน่าแชมป์เก่าได้ด้วยแท็กติคเกมรับอันเหนียวแน่น ซึ่งหลังจบเกมเลคสองที่อินเตอร์สามารถผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศได้ โชเซ่ มูริญโญได้ฉลองชัยชนะด้วยการชูนิ้วชี้ขึ้นฟ้าแล้ววิ่งไปทั่วสนามเพื่อประกาศชัยชนะเหนือบาร์เซโลน่าที่สนามคัมป์นู ซึ่งเป็นหนึ่งในโมเมนต์ที่น่าจดจำของมูริญโญ และเกมรอบชิงชนะเลิศก็สามารถชนะบาเยิร์นมิวนิคของหลุยส์ ฟาน กัลได้ 2-0 จากการเหมาสองประตูของดิเอโก้ มิลิโต้ เป็นทีมแรกของอิตาลีที่สามารถคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ได้อย่างยิ่งใหญ่
บาเยิร์นมิวนิค ฤดูกาล 2012/2013
หลังจากที่ฤดูกาลที่ผ่านมา บาเยิร์นมิวนิคทำได้เพียงทริปเปิ้ลรองแชมป์ และที่เจ็บปวดใจที่สุดคือการแพ้เชลซีในชิงชนะเลิศยูฟ่าแชมป์เปี้ยนส์ลีคที่สนามอันลิอันซ์ อารีนา ซึ่งเป็นสนามเหย้าของพวกเขาเอง ทำให้มาในฤดูกาลนี่พวกเขาได้มีเสริมทัพครั้งใหญ่เพื่อที่จะกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง เริ่มจากคว้าตัวฆาบี มาร์ติเนซจากแอตเลติก บิลเบาด้วยค่าตัวสูงถึง 40 ล้านยูโร มากที่สุดในประวัติศาสตร์การซื้อตัวของบุนเดสลีกา เซ็นสัญญานักเตะฟอร์มดีในลีคอย่างมาริโอ มานด์ซูคิชจากโวล์ฟบวร์คและดันเต้จากโบรุสเซีย มึนเช่นกลัคบัค เมื่อมารวมกับขุนพลชุดเดิมที่คุณภาพคับแก้วอย่างมานูเอล นอยเออร์, ฟิลิป ลาห์ม, โทนี โครส, อาร์เยน ร็อบเบน, ฟร้องส์ ริเบรี่, และโธมัส มุลเลอร์ ทำให้บาเยิร์นมิวนิคภายใต้การคุมทัพโดยจุ้ปป์ ไฮน์เกส นั้นไร้คู่ต่อกร ในลีคพวกเขาสามารถทวงแชมป์บุนเดสลีกาของโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ได้สำเร็จ ในบอลถ้วยเดเอฟเบ โพคาลชนะสตุ๊ทการ์ทในนัดชิงชนะเลิศ 3-2 และสุดท้ายในรายการฟุตบอลยุโรป บาเยิร์นมิวนิคล้มอาร์เซนอลในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ชนะยูเวนตุสของอันโตนีโอ คอนเต้แบบไปกลับ รอบรอบชนะเลิศชนะบาร์เซโลน่าได้ด้วยสกอร์รวมถึง 7-0 เดินหน้าเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไปพบโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ทีมจากชาติเดียวกัน แล้วชัยชนะด้วยสกอร์ 2-1 ด้วยประตูชัยจากอาร์เยน ร็อบเบน ปิดซีซั่นด้วยการคว้างทริปเปิ้ลแชมป์อย่างยิ่งใหญ่
บาร์เซโลน่า ฤดูกาล 2014/2015
หลังจากฤดูกาลก่อนคว้าน้ำเหลวด้วยการไม่มีถ้วย บาร์เซโลน่าก็ได้มีการเสริมทัพครั้งใหญ่ เริ่มจากปล่อยตัวเชส ฟาเบรกาสกับอเล็กซิส ซานเชสออกจากทีม จากนั้นเสริมทัพผู้เล่นหน้าใหม่ ทีมคว้าอีวาน ราคิติชจากเซบียาและช็อกโลกด้วยการทุ่มเงินคว้าตัวหลุยส์ ซัวเรส กองหน้าชาวอุรุกวัยของลิเวอร์พูลที่พึ่งโดนแบนจากการกัดจอร์จิโอ คิเอลินี่ในฟุตบอลโลก 2014 ที่บราซิล ด้านผู้จัดการทีมได้ทำการแต่งตั้งหลุยส์ เอนริเก้มาเป็นโค้ชใหม่ของบาร์เซโลน่า ทีมบาร์เซโลน่าชุดนี้ขึ้นชื่อเรื่องแนวรุกสุดโหดจากต่างดาว เพราะมีสามประสานที่โหดที่สุดชุดหนึ่งในประวัติศาสตร์ฟุตบอลนำโดยลีโอเนล เมสซี, หลุยส์ ซัวเรส, และเนยมาร์ ในลีคพวกเขาสามารถคว้าแชมป์ลาลีก้าได้อย่างไม่ยากเย็น ฟุตบอลถ้วยโคปา เดล เรย์สามารถเอาชนะแอตเลติค บิลเบาได้ 3-1 ส่วนศึกยูฟ่าแชมป์เปี้ยนส์ลีค รอบรองชนะเลิศสามารถผ่านบาเยิร์น มิวนิคได้ และลีโอเนล เมสซีได้สร้างช็อตมหัสจรรย์ด้วยการล็อกหลบเจอโรม บัวเต็งจนหลังหัก แล้วหลุดไปชิพบอลผ่านมานูเนล นอยเออร์อย่างเหนือชั้น และในรอบชิงชนะเลิศสามารถชนะยูเวนตุสได้ 3-1 จากการยิงของอีวาน ราคิติช, หลุยส์ ซัวเรส, และเนย์มาร์ ปิดฤดูกาลด้วยการคว้าทริปเปิ้ลแชมป์เป็นสมัยที่ 2 และเป็นทีมแรกที่สามารถคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ได้ถึง 2 ครั้ง
บาเยิร์นมิวนิค ฤดูกาล 2019/2020
พึ่งเกิดขึ้นเมื่อฤดูกาลที่ผ่านนี้เอง จากโค้ชชั่วคราวที่ไม่มีคาดคิดอย่างฮันซี ฟลิคที่เลื่อนขั้นจากผู้ช่วยมาเป็นโค้ชชุดใหญ่ เข้ามาพลิกโฉมบาเยิร์นมิวนิคที่ฟอร์มกระท่อนกระแท่นให้กลับมาเป็นพี่เสือที่น่าเกรงขาม โธมัส มุลเลอร์กลับมาเกิดใหม่อีกครั้ง แซด กนาบรี้สถาปนาตัวเองจากดาวรุ่งที่เคยโดนดูถูกว่าไม่ดีพอจะเล่นให้กับทีมระดับแชมป์เปี้ยนชิพกลายมาเป็นปีกระดับท็อปของลีคด้วยการยิงและจ่ายอย่างบ้าคลั่ง ส่วนโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ก็ประกาศให้โลกรู้ว่านี่คือกองหน้าเบอร์ 1 ของโลกด้วยยิงกระจายถึง 55 ประตูจากการลงสนามเพียง 47 นัดในทุกรายการ และยิงในแชมป์เปี้ยนส์ลีคได้ 15 ลูก ในลีคได้แชมป์บุนเดสลีก้าเป็นสมัยที่ 8 ติดต่อกัน บอลถ้วยเดเอฟเบ โพคาลชนะไบเออร์ เลเวอคูเซ่น 4-2 ส่วนในศึกฟุตบอลยุโรป ที่ในปีนั้นหลังจากที่ยุโรปอนุญาตให้กลับมาแข่งอีกครั้ง และได้เปลี่ยนกฎเล็กน้อยด้วยการแข่งแบบนัดเดียวที่สนามเป็นกลาง ซึ่งบาเยิร์นชุดนั้นก็สมบูรณ์สุดๆ พวกเขาเดินหน้าถล่มชนะเชลซีได้แบบไปกลับ ชนะบาร์เซโลน่าด้วยสกอร์ 8-2 ชนะลียง 3-0 ปิดท้ายเกมรอบชิงด้วยการชนะเปแอสเชจากฝรั่งเศส 1-0 จากลูกโหม่งของคิงส์ลีย์ โกมันน์ คว้าแชมป์ยุโรปได้เป็นสมัยที่ 6 และเป็นการคว้าทริปเปิ้ลได้เป็นครั้งที่ 2 ไม่เพียงเท่านั้นทีมชุดนี้ยังเดินหน้าคว้าอีก 3 แชมป์นั่นคือ เดเอฟเบ ซุปเปอร์คัพ, ยูฟ่า ซุปเปอร์คัพ, และแชมป์สโมสรโลก ทำให้กลายเป็นทีมที่ 2 ต่อจากบาร์เซโลน่าที่คว้า 6 แชมป์ได้ในฤดูกาลเดียว
จะได้เห็นว่าการที่ทีมไหนก็ตามที่ได้ทริปเปิ้ลแชมป์นั่นไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้กันบ่อยๆ เพราะต้องมีผู้เล่นที่มีคุณภาพเพียงพอจะลงแข่งในทุกๆทัวร์นาเมนต์ และทีมที่สามารถทำทริปเปิ้ลแชมป์ได้สมควรค่าแก่การได้รับยกย่องให้เป็นโคตรทีมในยุคนั้น และตำนานนั้นจะถูกกล่าวขานตลอดไป #UEFA #UCL
1 บันทึก
1
3
1
1
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย