21 เม.ย. 2021 เวลา 03:48 • สุขภาพ
ทำฟันในยุคโควิด 19 ระบาด อย่างไรให้เสี่ยงน้อยสุด
คัดกรองประวัติ หยิบจับให้ปลอดภัย สวมชุดใส่แมส ป้องกันไว้ หายใจในอากาศที่ดี(ระบาย /กรองอากาศ/ ฆ่าเชื้อด้วย UVC upper air )
การรักษาทางทันตกรรม จะมีการกรอตัด แต่งฟัน ขูดหินปูน และขัดฟัน เครื่องมือที่ใช้จะมีแรงดันลมและน้ำ ทำให้เกิดการฟุ้งกระจายของละอองน้ำ ผสมกับเศษวัสดุ เศษฟัน น้ำลาย เชื้อโรค ผสมกันออกมา หากเป็นละอองน้ำหยดใหญ่ก็กระเด็นตก ติดตามเสื้อผ้า พื้นผิวในรัศมีประมาณ 1 เมตร แต่หากเป็นละอองลอยขนาดเล็ก ก็จะฟุ้งกระจายไปทั่วทั้งห้อง
กรณีการระบาดของไวรัส COVID 19 พบว่ามีการติดต่อได้ทางอากาศ เนื่องจากมีการพบไวรัสในน้ำลายได้ตั้งแต่ก่อนที่ผู้ติดเชื้อจะแสดงอาการ จึงเสี่ยงต่อการแพร่กระจายเชื้อ เมื่อมีผู้ติดเชื้อมารับการรักษาทางทันตกรรมที่มีการกรอฟัน ขูดหินปูน หรือแม้แต่การตรวจฟันที่ต้องทำการเป่าลม เป่าน้ำล้าง ในขั้นตอนการตรวจ
การยกมาตราฐานการป้องกันโรคติดเชื้อทางอากาศ ในงานทันตกรรมจึงมีความสำคัญมาก ด้วยสภาพห้องทันตกรรมเป็นพื้นที่ปิดที่มีระบบปรับอากาศทำความเย็นในลักษณะที่ไม่สามารถควบคุมทิศทางกระแสลมได้ หากมีการฟุ้งกระจายของละอองลอยที่มีเชื้อโรค (bioaerosols) จะกระจายไปทั่วในเวลาที่รวดเร็ว ดังนั้นหากจะลดการฟุ้งกระจาย เพื่อลดความเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ และลดโอกาศการได้รับเชื้อ ต้องมีมาตราการจำกัดการฟุ้งกระจาย และลดการปนเปื้อนเชื้อ ยกตัวอย่างเช่น
1. การซักประวัติ คัดกรอง วัดไข้ ผู้ที่มีประวัติเสี่ยงสูงออกไปก่อน ในการรักษาที่ไม่จำเป็นเร่งด่วน กรณีฉุกเฉินส่งต่อผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงไปรับการรักษาในสถานพยาบาลที่มีความพร้อมสูง
2. ผู้รับบริการและเจ้าหน้าที่ผู้ปฎิบัติงานต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่อยู่ในคลินิก ยกเว้นผู้รับบริการในขณะได้รับการักษา
3. ผู้รับบริการต้องอมน้ำยาบ้วนปากที่เหมาะสม เพื่อกำจัดเชื้อในช่องปากก่อนรับการรักษา
4. ในการรักษาที่มีการฟุ้งกระจาย ต้องมีเครื่องดูดและกำจัด ละอองลอย(bioaerosols) ผ่านการบำบัดก่อนปล่อยออก
5. ในสถานพยาบาล ต้องมีเครื่องฟอกอากาศ ระบบฆ่าเชื้อในอากาศ หรือระบบระบายอากาศที่เพียงพอต่อการป้องกันการติดเชื้อที่แพร่ทางอากาศ โดยปกติให้เทียบเท่าการระบายอากาศในหอผู้ป่วยติดเชื้อทางเดินหายใจ ที่ 16-20เท่าของปริมาตรอากาศต่อชั่วโมง(Air change per hour: ACH) หรืออาจใช้การวัดทางอ้อมโดยวัดค่าความเข้มข้นของคารบอนไดออกไซด์ในอากาศ หากการระบายอากาศเพียงพอ ค่าความเข้มข้นของ CO2 ไม่ควรเกิน 1,000 ppm ถือว่ามีการระบายอากาศที่ดีเพียงพอ และควรวัดแบบตลอดเวลาเพราะสถานพยาบาลอาจมีคนเข้าเข้าออกได้ตลอดเวลาจำนวนไม่แน่นอน หากระบบระบายอากาศสามารถปรับการทำงานแบบอัตโนมัติให้สัมพันธ์กับระดับ CO2 จะเป็นการดีมาก
6.มีการปกคลุมพื้นผิวสัมผัส เก้าอี้ทำฟัน หรือมีการเช็ดทำความสะอาดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อที่เหมาะสม ทุกครั้งหลังเสร็จการรักษา
7. แนะนำไม่ให้คนไข้เอานิ้วมือเข้าไปในปาก หรือสัมผัสฟัน เพราะจะเป็นการแพร่กระจายเชื้อได้ หากมีการเผลอสัมผัส ให้เช็ดทำความาสะอาดมือด้วยแอลกอฮอล์เจล ทันที
8.ผู้ปฏิบัติงานต้องสวมชุดป้องกันแขนยาว ปิดคอและคลุมผม ใส่หน้ากากป้องกัน และต้องเปลี่ยนหลังเสร็จเคสที่มีการฟุ้งกระจายทุกครั้ง เพราะชุดป้องกันจะมีการปนเปื้อนเชื้อแล้ว จากละอองน้ำที่กระเด็น เนื่องจาก ปฎิบัติงานใกล้กับปากคนไข้มาก หากไม่เปลี่ยนจะนำเชื้อไปแพร่สู่คนไข้คนถัดไปได้
9.ทำการนัดหมายมารับการรักษาตามเวลา เพื่อลดความแออัด ไม่ควรให้นั่งรอในคลินิก เพื่อลดความเสี่ยงแพร่เชื้อ /รับเชื้อ
ระบบกำจัดเชื้อในอากาศ โดย UVC ที่ควบคุมลำแสงให้อยู่ในระนาบ เหนือพื้นที่ใช้งาน การติดตั้งต้องมีการวัดระดับความเข้มแสง UVC ในพื้นที่ปฏิบัติงานให้ไม่มีแสงลงมา เพื่อความปลอดภัย
การทำงานที่มีการฟุ้งกระจาย ผู้ปฎิบัติงานต้องใส่ชุดและอุปกรณ์ป้องกัน และถอดเปลี่ยนทุกครั้งหลังเสร็จงาน การใช้เครื่องดูด-บำบัดละอองลอย (bioaerosols) ช่วยลดการฟุ้งกระจายลงได้ มาก
เครื่องฟอกอากาศที่เหมาะสม ช่วยดักจับเชื้อที่ลอยผสมในอากาศในห้องฟัน
ในบริเวณนั่งรอควรมีเครื่องฟอกอากาศขนาดเหมาะสม ทำงานดักจับเชื้อโรคที่อาจมี
ระบบอัดอากาศสะอาดที่แสดงได้ทั้งปริมาณฝุ่น Pm 2.5 และ CO2 level ในอาคาร
มาตราฐานการควบคุมอากาศในสถานพยาบาลทางทันตกรรมยังไม่มีกำหนดออกมาเป็นกฎหมาย การยกตัวอย่างข้างต้นเป็นเพียงแนวทาง ที่ผู้เขียนได้ศึกษาและนำมาปฎิบัติ และนำมาแนะนำเป็แนวทางเท่านั่น
Inactivation of Poxviruses by Upper-Room UVC Light in a Simulated Hospital
Room Environment
Article  in  PLoS ONE · February 2008
DOI: 10.1371/journal.pone.0003186 · Source: PubMed
โฆษณา