21 เม.ย. 2021 เวลา 04:00 • สุขภาพ
How to ส่อง Timeline ตัวเอง ด้วย Google Maps
เนื่องด้วยสถานการณ์ COVID-19 ที่ระบาดอย่างหนักในทุกประเทศทั่วโลกอยู่ในขณะนี้ ทำให้เราต้องปรับตัวเพื่อใช้ชีวิตในแบบ New Normal ซึ่งต้องระมัดระวังตนเองในการใช้ชีวิตประจำวันมากขึ้น การจดบันทึก Timeline ในแต่ละวันจึงมีความสำคัญต่อทั้งตนเอง และส่วนรวม
หนึ่งในมาตรการป้องกันตัวเองจาก COVID-19 ก็คือ การบันทึกประวัติการเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ ของเรา หริอที่เรียกสั้น ๆ ว่า Timeline ซึ่งจะมีประโยชน์กับตัวเราเอง และผู้อื่นอย่างมาก ในกรณีที่มีผู้ติดเชื้อ COVID-19 เดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ เราก็สามารถตรวจสอบ Timeline ของผู้ป่วยย้อนหลังไปได้ และสามารถติดตามผู้ที่มีความเสี่ยงในแต่ละสถานที่ดังกล่าวให้เข้ามารับการตรวจเชื้อ COVID-19 และดำเนินมาตราต่าง ๆ เพื่อควบคุมโรคต่อไป
ด้วยเหตุนี้ เราจึงมีความจำเป็นต้องบันทึก Timeline ของตนเองอยู่ตลอดเวลาเมื่อมีการเดินทางไปยังที่ต่าง ๆ แต่บางครั้งเราก็อาจจะลืม หรือไม่สะดวก วันนี้ผมขออาสาพาไปหาตัวช่วย เพื่อมาช่วยเราในการจดบันทึก Timeline ของตัวเองกันดีกว่าครับ
ปัจจุบัน สมาร์ทโฟน (Smart Phone) ถือเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเราเกือบทุกคนไปแล้ว และมันยังช่วยให้การใช้ชีวิตประจำวันของเราง่ายขึ้นอีกด้วย และด้วยความที่สมาร์ทโฟนสะดวกที่จะพกพาไปด้วยทุกที่ ด้วยเหตุนี้เราจึงสามารถใช้สมาร์ทโฟนในการจดบันทึก Timeline ของเราได้ด้วย
ตัวช่วยที่เราจะใช้ในการบันทึก Timeline ของเรานั้น หลาย ๆ คนคงเคยมีโอกาสได้ใช้มาบ้างแล้ว นั่นก็คือ Google Maps แอปแผนที่ที่สามารถค้นหาเส้นทางต่าง ๆ ได้อย่างสะดวก และรวดเร็ว แต่... หลายคนก็คงยังไม่รู้ว่า จริง ๆ แล้ว เจ้าแอปตัวนี้ยังสามารถใช้ในการบันทึก Timeline ของเราได้ด้วย วิธีการเปิดใช้งานจดบันทึก Timeline ใน Google Maps นั้นก็แสนจะง่ายดาย ว่าแล้วเราก็ ไปดูกันเลย...
สำหรับสมาร์ทโฟนที่ยังไม่มี Google Maps ประจำการอยู่ในเครื่อง เราก็สามารถไปโหลดมาใช้งานได้ที่ Google Play Store สำหรับสมาร์ทโฟนในระบบ Android และ Apple App Store สำหรับสมาร์ทโฟนในระบบ iOS
Google Maps บน Play Store สำหรับ Android และ App Store สำหรับ iOS
ก่อนเข้าใช้งาน Google Maps เราจำเป็นต้องลงชื่อเข้าใช้ (sign in) ด้วย Google Account ก่อน หากยังไม่มี Google Account เราจำเป็นต้องสร้าง Google Account ให้เรียบร้อยก่อน เมื่อสร้าง Google Account เรียบร้อยแล้ว ให้เราลงชื่อเข้าใช้ด้วย Google Account นั้น จากนั้นเราก็จะสามารถเริ่มใช้งาน Google Maps ได้ทันที
ขั้นตอนการสร้าง Google Account ตามรูปด้านล้าง แบบ Step By Step กันเลยคร้าบ
1.ไปที่ Google Official Website ก่อนครับ จากนั้นคลิกที่ปุ่ม Create an account
สร้างบัญชี Google Account ใหม่
2.ใส่รายละเอียดบัญชี เช่น ชื่อบัญชี และพาสเวิร์ด
สร้างบัญชีใหม่
3.ใส่หมายเลขโทรศัพท์
ใส่หมายเลขโทรศัพท์ สำหรับบัญชีที่สร้างใหม่
4.ยืนยันหมายเลขโทรศัพท์ Google จะส่ง SMS ไปยังหมายเลขโทรศัพท์ที่ลงทะเบียนไว้ เพื่อยืนยันหมายเลขโทรศัพท์
ยืนยันหมายเลขโทรศัพท์
5.Google จะให้เราเติมข้อมูลเพิ่มอีกเล็กน้อย จากนั้นก็ให้เรากดยอมรับเงื่อนไขการใช้งาน เราก็สามารถใช้งานบัญชี Google account ได้แล้วครับ
ใส่ข้อมูลเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย ก่อนเข้าใช้งาน
6.จากนั้น เปิดใช้งานแอป Google Maps โดยใช้ Google account ที่เราสร้างขึ้น เมื่อ Sign in สำเร็จ จะพบไอคอนผู้ใช้ของเราเป็นวงกลม อยู่ที่มุมขวาบน แตะที่ไอคอนจะแสดงเมนูซึ่งเราสามารถดู Timeline ของเราได้จากเมนูนี้
เมนู Timeline ใน Google Maps
7.เราสามารถย้อนกลับมาดู Timeline ในแต่ละวันของเราได้ง่าย ๆ ไม่ยุ่งยาก ด้วยการปัดไปทางขวา เพื่อย้อนดู Timeline ที่ผ่านมา ซึ่งแอปจะแสดง Timeline ของเราในแต่ละวันออกมาให้ดูอย่างละเอียด และชัดเจน ไม่ต้องห่วงว่าเราจะลืมว่า เราไปที่ไหนมาบ้าง
แสดง Timeline ของเรา ใน Google Maps ปัดไปทางขวา เพื่อย้อนกล้บไปดูวันก่อน ๆ ปัดไปทางซ้าย เพื่อย้อนกลับมาวันที่ปัจจุบัน
แต่... ก่อนที่จะเริ่มใช้ Timeline ใน Google Maps ได้นั้น เราจำเป็นต้องเปิดการใช้งาน ตำแหน่ง หรือ Location ก่อน
เนื่องจากการเก็บประวัติตำแหน่ง หรือ Location History นี้ เกี่ยวข้องกับความเป็นส่วนตัว หรือ Privacy ซึ่งค่อนข้างสำคัญ และมีความละเอียดอ่อน ดังนั้น การใช้งาน Location History นี้จึง ถูกปิด ไว้ ซึ่งหากผู้ใช้งานมีความต้องการที่จะเปิดใช้งาน ตัวผู้ใช้งานเอง จำเป็นต้องไปทำการเปิดการใช้งานบริการนี้ ด้วยตัวเองเท่านั้น
สำหรับวิธีการเปิดการใช้งาน Location History นั้น แบ่งเป็น 2 ขั้นตอน ซึ่งได้อธิบายไว้ตามภาพด้านล่างนี้ครับ
1.ประวัติตำแหน่ง หรือ Location History ใน Google account สามารถเปิดการใช้งานโดย เข้าไปที่ Manage your Google Account
ไปที่ Manage your Google Account
และไปที่ Data & personalization จากนั้นให้เปิด Location History
เปิดใช้งาน Location History
2.ตำแหน่ง หรือ Location ใน Setting ของอุปกรณ์ สามารถเปิดใช้งานได้โดย เข้าไปที่ Google Maps หัวข้อ Settings
ไปที่ Setting ของ Google Maps
จากนั้นเลือกหัวข้อ Google location settings
ไปที่ Google location settings
และทำการเปิด Location
เปิดการใช้งาน Location
เมื่อเปิดการใช้งานทั้ง 2 ขั้นตอนแล้ว Timeline ใน Google Maps ก็พร้อมจะเก็บข้อมูลแล้ว
หมายเหตุ: หากเริ่มต้นใช้งาน Google Maps ครั้งแรก ตัวแอปจะขอสิทธิการเข้าถึง (Permission) การใช้งาน Location ให้เราตอบ Allow while using this app หรือ Always allow ก็ได้ แต่แนะนำว่าให้เลือกเป็น Allow while using this app ไว้ก่อนจะดีกว่าครับ
อีกหนึ่งสิ่งที่เราควรทำใน Timeline คือ เราควรปักหมุดจุดที่เป็นบ้านของเราไว้เป็น Home Location
1.แตะที่ไอคอนตรงช่อง Search here จะมีปุ่ม Home Set location ขึ้นมา แตะที่ปุ่มนี้
เริ่มการตั้งค่า Home
2.แตะที่ Choose on map
เลือก Choose on Map
3.ปักหมุดที่บ้านของเรา แล้วกดปุ่ม Save
ปักหมุดบ้านของเรา แล้วบันทึกเป็น Home
ตั้งค่า Home สำเร็จ
ตั้งค่า Home สำเร็จ
เพียงเท่านี้ Google Maps ก็จะบันทึก Timeline ให้เราโดยอัตโนมัติ ไม่ว่าเราจะไปที่ไหน เพียงนำโทรศัพท์มือถือติดตัวไปด้วย Timeline ของเราก็จะถูกบันทึกไว้ตลอดเวลา
นอกเหนือจากการบันทึก Timeline แล้ว เราควรระมัดระวังตัวเอง ด้วยการสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้ง ที่ต้องออกนอกบ้าน ควรเว้นระยะห่างจากคนอื่น ๆ ในระยะประมารณ 2 เมตร และล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่ ล้างให้ทั่วทั้งข้อมือ และซอกนิ้ว และควรใช้เวลาล้างมืออย่างน้อย 20 วินาที หรือล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอลทุกครั้ง เมื่อมีการสัมผัสกับสิ่งของต่าง ๆ ในที่สาธารณะ หากเป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยงการออกนอกบ้าน หรือไปยังสถานที่ชุมชน เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ เรามาร่วมมือกันหยุดเชื้อเพื่อชาติ สู้โควิดไปด้วยกัน เราจะผ่านมันไปได้อย่างแน่นอนครับ
มาตราการป้องกัน COVID-19 Prevention of COVID-19
สามารถติดตาม Blog Journey ผ่านทาง social media ได้หลากหลายช่องทาง ตามลิงค์ด้านล่างนี้ครับ
Wordpress: Blog Journey
Facebook: Blog Journey Fan Page
Twitter: @Blog_Journey_th
ขอขอบคุณ
ภาพปกจาก FreePik โดย @stories
ภาพ Prevention of COVID-19 จาก FreePik โดย @pikisuperstar
ภาพประกอบอื่น ๆ นอกเหนือจากที่ได้ให้เครดิตไว้แล้ว จัดทำโดยผู้เขียน
โฆษณา