19 เม.ย. 2021 เวลา 22:58 • หุ้น & เศรษฐกิจ
EP. 9 - Proof of work VS Proof of stake
การประเมินมูลค่าเหรียญ เบื้องต้น เราต้องเข้าใจก่อนว่า pos กับ pow นั้นต่างกันอย่างไร
ซึ่งอาจารย์รันเคยเขียนไว้ทั้งแต่ปี 2017 (ไม่รู้ผมไปอยู่ที่ไหนมา เพิ่งได้อ่านไม่กี่วันก่อนนี่เอง) ไปอ่านกันก่อนเลยครับ
2
และก็ไปดูคลิปนี้ด้วย
ตรงนี้ผมขอสรุปสั้นๆ ความแตกต่างของ pow กับ pos ที่มีผลต่อการประเมินมูลค่าก็คือ
pow - ผู้ที่ทำการบันทึกข้อมูลของ blockchain (หรือเรียกสั้นๆว่า miner) ของระบบนี้จะมีต้นทุนคือค่าไฟ ค่าอุปกรณ์ประมวลผลและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ซึ่งจะต้นทุนจะสูงกว่าระบบ pos พอสมควร
1
ส่วนผลตอบแทนของ miner คือค่า fee ของการบันทึกข้อมูล + เหรียญที่สร้างขึ้นมาใหม่ (ในกรณีที่ยังมีการสร้างเหรียญเพิ่มเข้ามาในระบบใหม่)
ตัวอย่างเหรียญที่เป็นระบบนี้ก็เช่น btc eth ltc doge bch xmr ฯลฯ
1
pos - ผู้ที่ทำการบันทึกข้อมูลของ blockchain (ในระบบนี้เรียกว่า validator) ของระบบนี้จะมีต้นทุนคือค่าอุปกรณ์ ค่าไฟ ค่าแรงในส่งข้อมูลเข้า blockchain ซึ่งต้นทุนในส่วนนี้เทียบกับระบบ pow จะน้อยกว่ามาก เพราะไม่ต้องใช้คอม spec สูงๆ ในการแก้โจทย์คณิตศาตร์แบบ pow
1
แต่นอกจากค่าใช้จ่ายข้างต้นแล้ว validator ยังวางเงินจำนวนหนึ่ง (ซึ่งปกติก็จะเป็นเหรียญของ chain นั้น) เหรียญนี้วางเพื่อเป็นหลักประกัน เวลาที่ validator ทำหน้าที่ได้ดี ก็จะได้ค่า fee จากระบบ ซึ่งคือผลตอบแทนของการเป็น validator
3
แต่ถ้าทำงานไม่ดี (บันทึกข้อมูลผิด พยายามบันทึกข้อมูลปลอม) หรือไม่ทำงาน (ปิดคอม ไฟดับ) ก็จะโดนลงโทษโดยการยึดเงินประกันบางส่วน
ตัวอย่างเหรียญที่เป็น pos เช่น eth (ตัวนี้เป็น ทั้ง pos และ pow เลย โดยอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านจาก pow ไปเป็น pos) dot sol atom luna ฯลฯ
1
หลังจากเข้าใจ 2 concept นี้แล้ว ถึงจะเข้าใจวิธีการประเมินมูลค่าที่แตกต่างกันของเหรียญที่ใช้ระบบที่แตกต่างกันได้ ซึ่งผมขอเก็บไว้บทความหน้าครับ
โฆษณา