Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Obsolete Articles(Historical)
•
ติดตาม
20 เม.ย. 2021 เวลา 05:18 • สิ่งแวดล้อม
คุณเคยได้ยินเรื่องราวของ Medusa หรือไม่? สัตว์ประหลาดโบราณของกรีกที่มีผมเป็นงู สามารถเปลี่ยนคนให้กลายเป็นหินได้ภายในพริบตา? เรื่องราวของเธออาจจะเป็นแค่ตำนาน
แต่มีพื้นที่หนึ่งบนโลกที่อันตรายมากๆ จนอาจทำให้คุณกลายเป็นหินได้
และที่นั่นคือ "Lake Natron" ทะเลสาบที่ขึ้นชื่อว่า "น่ากลัวที่สุดในโลก"
อะไรทำให้น้ำในทะเลสาบ Natron เป็นอันตราย?
ก่อนอื่นเลย เราต้องมาทำความรู้จักกัน ทะเลสาบแห่งนี้กันก่อน ซึ่ง Lake Natron นี้เป็นทะเลสาบที่ไม่ได้เชื่อมต่อกับแม่น้ำหรือทะเลใดๆ ซึ่งการระเหยออกไป เป็นเพียงวิธีเดียวที่จะทำให้ทะเลสาบแห่งนี้ลดลง แต่สิ่งที่ทำให้ทะเลสาบแห่งนี้เป็นทะเลสาบมรณะได้ คือภูเขาไฟ Ol Doinyo Lengai
ภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่น Ol Doinyo Lengai ภูเขาไฟแห่งนี้จะพ่นลาวาชนิดหายากที่อุดมไปด้วยโซเดียม (Na) และโพแทสเซียมคาร์บอเนต (K2CO3) เรียกสั้น ๆ ว่า Natrocarbonatite หรือสั้นๆว่า Natron ไหลซึมลงไปในน้ำ ซึ่งส่วนผสมของโซเดียมคาร์บอเนต
และโซเดียมไบคาร์บอเนตนี้ เป็นส่วนผสมหลักที่ครั้งหนึ่งเคยใช้ในการทำ"มัมมี่" ของอียิปต์ ซึ่งสาร Natron ซึ่งความเป็นด่างที่สูงมากของ Natron จะหยุดกระบวนการย่อยสลายเช่นเดียวกับมัมมี่ ได้ทำให้เกิดสารกันบูด ชนิดที่สมบูรณ์แบบในรูปแบบของทะเลสาบแห่งนี้ องค์ประกอบทางเคมีทั้งหมดมีความเป็นด่างมากโดยมีระดับ pH ที่ 10.5 ซึ่งใกล้เคียงกับแอมโมเนีย (NH3) ทำให้น้ำในทะเลสาบแห่งนี้มีสีแดง
Lake Natron เป็นหนึ่งในทะเลสาบอัลคาไลน์(ทะเลสาบที่มีภาวะความเป็นด่างสูง) 2 แห่งในแอฟริกาตะวันออก อีกแห่งคือ Lake Bahi ซึ่งทะเลสาบทั้ง 2 เป็นทะเลสาบที่ไม่มีปลายทางให้น้ำระบายออกสู่แม่น้ำหรือทะเลใดๆ และถูกหล่อเลี้ยงโดยน้ำพุร้อน และแม่น้ำสายเล็กๆ ที่อยู่ใกล้เคียงกัน และเนื่องจากทะเลสาบค่อนข้างตื้น และยังอยู่ในสภาพอากาศที่ร้อน อุณหภูมิของน้ำในทะเลสาบอาจสูงมากถึง 106 องศาฟาเรนไฮต์ หรือ 41 องศาเซลเซียส
ในปี 2013 Nick Brandt ช่างภาพสัตว์ป่าเป็นหนึ่งในคนแรก ๆ ที่ได้บันทึกปรากฏการณ์นี้ เขาค้นพบนกที่กลายเป็นหินจำนวนมาก และสัตว์ที่โชคร้ายอื่นๆ ที่ตกลงไป โผล่ขึ้นมาในช่วงฤดูแล้งที่น้ำลด ซึ่งเค้าได้ตั้งสันนิษฐานไว้ว่า เมื่อนกที่กำลังบินอยู่เหนือพื้นผิวทะเลสาบ พื้นผิวของน้ำจะเสมือนกระจกจากสภาพทะเลสาบที่อิ่มตัวทางเคมี มันจะสะท้อนภาพออกมาเหมือนกระจก ซึ่งพวกมันจะสับสนและคิดว่าพวกมันกำลังบินอยู่เหนือพื้นที่ว่างเปล่า จากทฤษฎีนี้ อาจทำให้พวกนกเข้าใจผิดและมักจะตกลงไปในทะเลสาบโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งเหตุผลนี้จะคล้ายๆกับเหตุผลที่นกมักจะบินชนประตูกระจกและหน้าต่างรถนั่นเอง
และความน่าสับสนนี้ได้เกิดขึ้นเพียงแค่กับนกเท่านั้น ในปี 2007 ก็เคยมีเหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์ได้ตกลงมาแถวๆ ทะเลสาบแห่งนี้ สาเหตุเพราะสับสนเช่นเดียวกับพวกนกเหล่านี้ ซึ่งนักบินเล่าไว้ว่าทะเลสาบแห่งนี้เป็นเหมือนแก้วอย่างแท้จริง ซึ่งคุณสามารถมองเห็นภาพสะท้อนของดวงอาทิตย์เมฆได้อย่างชัดเจนจนแยกแทนไม่ออก แต่ในเหตุการณ์นั้นไม่มีผู้ใดเสียชีวิต
และการที่เหล่าสัตว์อื่นๆ ตกลงมาตายในทะเลสาบที่มีสาร Natron อยู่หนาแน่นแห่งนี้ จึงทำให้เหล่าสัตว์พวกนี้ ถูกแปรสภาพกลายเป็นหิน สัตว์ที่ตายที่ทะเลสาบแห่งนี้ สามารถกลายเป็นรูปปั้นปูนเมื่อเวลาผ่านไป เนื่องจากการกระบวนการทางเคมีที่เป็นเอกลักษณ์ของทะเลสาบซึ่งห่อหุ้มซากศพเหล่านี้ด้วยเกลือโซเดียมคาร์บอเนต และโซเดียมไบคาร์บอเนต
แม้จะมีนกจำนวนมาก บินลงมาตายใน Lake Natron แต่ก็มีสัตว์อยู่ไม่กี่ชนิดที่สามารถอยู่ได้โดยปลอดภัยจากสภาวะเป็นพิษของน้ำขนาดนี้ ทะเลสาบแห่งนี้เป็นที่หลบภัยจากสัตว์นักล่าโดยสมบูรณ์ ซึ่งทำให้ที่นี่กลายเป็นแหล่งรวมของฝูงนกฟลามิงโกสีชมพูสดใส
นกฟลามิงโกสามารถเจริญเติบโตได้ดีในทะเลสาบที่มีรสเค็ม เนื่องจากผิวหนังที่แข็งและขาเป็นเกล็ด ที่สร้างมาไว้เพื่อป้องกันการไหม้ และพวกมันสามารถดื่มน้ำจืดจากน้ำพุหรือน้ำพุร้อนในบริเวณขอบทะเลสาบ อีกทั้งพวกมันยังสามารถกรองน้ำเค็มด้วยต่อมพิเศษในโพรงจมูกได้อีกด้วย และยิ่งไปกว่านั้น กระเพาะของนกฟลามิงโก้ที่แข็งแรงของพวกมันช่วยให้พวกมันกินสาหร่ายที่มีพิษ ที่พบได้ทั่วทั้งทะเลสาบ จึงทำให้ Lake Natron กลายเป็นจุดที่สมบูรณ์แบบ ในการเลี้ยงดูและปกป้องพวกมัน และลูกน้อยๆได้อีกด้วย
ในช่วงฤดูผสมพันธุ์ นกฟลามิงโกราวๆ 2 ล้านตัว จะใช้ทะเลสาบที่ตื้นเขินแห่งนี้ เป็นแหล่งเพาะพันธุ์หลักในแอฟริกา รังของนกฟลามิงโกสร้างขึ้นบนเกาะเล็ก ๆ ที่ก่อตัวขึ้นในทะเลสาบในช่วงฤดูแล้ง เป็นที่ๆปลอดภัย ปราศจาคนักล่าใดๆที่จะเข้ามากร้ำกราย ในแหล่งน้ำที่มีพิษแห่งนี้
ซึ่งในดินแดนที่น่ากลัวที่สุดแห่งนี้ กลับกลายเป็นแหล่งอาศัยของนกที่มีสีสันสวยงามที่สุด อย่างน่าอัศจรรย์
#Obsoletearticles
Cr.
https://en.wikipedia.org/wiki/Lake_Natron
https://www.smithsonianmag.com/.../this-alkaline-african.../
https://www.nationalgeographic.com/.../lake-that-turns
...
https://www.livescience.com/40135-photographer-rick
...
https://www.smh.com.au/.../chopper-crew-survives-burning
...
https://www.ancient-origins.net/ancie.../medusa-lake-0011217
1 บันทึก
5
2
1
5
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย