ว่าด้วยเรื่องซาตานตามคำบอกเล่าของ มิลตัน
ภาพจาก http://freewill14.blogspot.com/2018/09/blog-post.html
ซาตาน เป็นเทวดาตกสวรรค์ ในบทกวีมหากาพย์ชื่อ “สวรรค์ล่อง” หรือ “Paradise Lost” ของจอห์น มิลตัน กวีตาบอดของอังกฤษ ที่ตีพิมพ์ในปี 1667
มิลตันเกิดหลังยุคอลิซาเบธที่ 1 และหลังยุคละครของเชกสเปียร์ (เกิด 1564 – มรณะ 1616) เขาได้รจนาบทประพันธ์ร้อยกรอง พรรณนาบทบาทของซาตาน ต่อ อาดัม และ อีฟ บนโลกที่ถูกซาตานเป่าหูจนต้องถูกขับออกจากสวนสวรรค์ เรื่องของมิลตันเป็นเรื่องใส่ไข่ต่อจากที่มีในคัมภีร์ไบเบิ้ล และแนบเนียนจนคนคิดว่าเรื่องซาตานกับอาดัมและอีฟของเขามาจากการค้นคว้าในพระคัมภีร์
ในเรื่องของมิลตัน ซาตานหรือเซตอน หรือที่ใช้ชื่อว่า ลูซิเฟอร์บนสวรรค์ ถูกขับตกสวรรค์ร่วงลงมาสู่นรกที่มีทะเลสาบไฟบรรลัยกัลป์เผาผลาญอยู่ชั่วนาตาปี
หลังสลบไป 9 วัน ซาตานและเหล่าปีศาจตัดสินใจที่จะเป็นหัวหมา ดีกว่าเป็น หางราชสีห์ และไม่ยอมกลับไปสวรรค์ด้วยการสารภาพบาป “Better to reign in Hell, than serve in Heaven.”
บีเซลบับ หัวหน้าปีศาจอันดับสองรองลงมาจากซาตาน ได้ทะแนะว่า ได้ข่าวว่าพระเจ้ากำลังสร้างโลกใหม่ให้กับผู้ที่พระเจ้าเรียกว่า “มนุษย์” ผู้เป็นสัตว์ไร้ความประเสริฐสู้หมู่เราชาวปีศาจไม่ได้ ดังนั้นกองทัพปีศาจของเรา ควรที่จะฉวยโอกาสนี้ยึดครองโลกจากพระเจ้า เป็นการแก้แค้นที่ถูกพระเจ้าขับออกจากสวรรค์ และเอามนุษย์มาเป็นทาสเสีย โดยซาตานอาสาที่จะเป็นผู้ที่เดินทางไปโลกมนุษย์ก่อนด้วยตนเอง
ในช่วงการเดินทางอันยาวนานของซาตานซึ่งปลอมตัวเป็นเทวดา ได้บังเอิญมาเจอ เทวทูต ยูเรียล ซึ่งเป็นผู้รักษาดวงอาทิตย์ในระบบสุริยะ ยูเรียลหลงกลซาตานและชี้ทางให้ซาตานบินต่อไปยังโลก
แต่ทั้งนี้หารอดพ้นสายพระเนตรของพระผู้เป็นเจ้าซึ่งได้ตรัสกับพระโอรสของพระองค์เป็นคำทำนายว่า การเดินทางมาของซาตานจะนำมาซึ่งการล่มสลายของมนุษย์ ซึ่งในที่สุดจะต้องนำไปสู่การที่พระองค์จะต้องตัดสินชะตากรรมของมนุษย์และนำไปสู่ความตาย
พระบุตรของพระผู้เป็นเจ้าจึงได้กล่าวว่า พระบิดาอย่าทรงเป็นกังวลไปเลย ข้าพระองค์จะขอเอาชีวิตข้าถวายเป็นเครื่องพลีบูชาแทนชีวิตของมนุษย์เหล่านั้น ในขณะนี้ก็ปล่อยให้ซาตานย่ามใจไปก่อน ว่าตนเองจะสามารถยึดครองโลกได้ ให้อยู่ในความประมาทจนกว่าจะถึงเวลาอันเหมาะสม
ฝ่ายซาตานก็หลงระเริงไปกับความสวยงามน่าอภิรมย์ของโลกในสวนแห่งอีเด็น ซึ่งพระผู้เป็นเจ้าสร้างให้เหมือนดั่งสวนสวรรค์ และพบเข้ากับมนุษย์หญิงชายคู่แรกที่พระผู้เป็นเจ้าสร้างขึ้น โดย อาดัม สร้างจากผงธุลีบนโลก และ อีฟ สร้างจากกระดูกซี่โครงของอาดัม
ทั้งอาดัมและอีฟ มีความบริสุทธิ์ เหนือความบริสุทธิ์ ไร้ยางอายในเรื่องเพศ (เพราะแก้ผ้าทั้งคู่ โดยไม่เหนียมอาย) และไม่มีอารมณ์ทางเพศ (แย่หน่อย ไม่เอ็นจอยเลย) แต่สืบพันธุ์ได้เท่านั้น
ปราศจากซึ่งความคิดวิปริต ลามกชั่วร้ายและอารมณ์ชั่ววูบ สงัดซึ่งกามตัณหา และความอาฆาตมาดร้าย ตลอดจนมิจฉาทิฐิ กิเลศ ภวตัณหาอยากมี วิภวตัณหาความอยากไม่มี และความทะยานอยากจะมีอยากจะเป็น ปราศจากโลภะ ราคะ โทสะโมหะ ทั้งหลายทั้งปวง เปรียบประหนึ่งสำเร็จซึ่งอรหัตผลกระนั้น
อาดัม และอีฟถูกสร้างเป็นมนุษย์คู่แรกเพื่อสืบสานเจตนารมณ์ของพระเจ้าที่จะสร้างสวรรค์บนดินเป็นเมล็ดพันธุ์มนุษย์คู่แรก ที่จะสืบพันธุ์และแพร่พันธุ์ ให้แก่ประชากรโลกมนุษย์ และมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับพระผู้เป็นเจ้า
อาดัมมาจากภาษาฮีบรูว์ Adomah แปลว่าผู้ชาย (Man) ส่วนอีฟ แปลว่า ชีวิต ผู้ให้กำเนิดซึ่งทั้งสองก็ถูกตั้งชื่อมาให้มีมิชชั่นอย่างนั้น คือ สืบพันธุ์และแพร่พันธุ์ ด้วยความที่เป็นคู่แรกของโลก พระผู้เป็นเจ้าจึงต้องการให้ทั้งคู่ดูแลสวนสวรรค์แห่งอีเด็น ให้ต้นหมากรากไม้ออกดอกเติบโตให้ทั่วโลก และอนุญาตให้ทานผลไม้ได้ ยกเว้น ต้นไม้แห่งสติปัญญาของการรู้ดีรู้ชั่ว
ซาตานซุ่มทำ ไอโอ แอบสังเกตุพฤติกรรมของทั้งคู่พักใหญ่ก็ถึงบางอ้อเรื่องที่ถูกห้าม จึงแปลงกายเป็นคางคก ไปกระซิบข้างหูอีฟ เหมือนกับบ่างช่างยุของไทย
อีฟตื่นมาบอกอาดัมว่าเมื่อคืนนี้ฝันร้าย เป็นเทพสังหรณ์มาเข้าฝันว่า ไม่ให้เชื่อฟังคำห้ามของพระผู้เป็นเจ้า (ที่พระผู้เป็นเจ้าเคยบอกไว้ว่าหากทานของที่ซาตานเอามาให้แล้วจะต้องตาย)
ทำให้อาดัมชักสนใจว่าทำไมจึงต้องทรงสั่งห้าม ร้อนถึงพระองค์ต้องส่งเทวทูต ราฟาเอล ลงมาอธิบายว่า ซาตานคือใคร และทำไมต้องมาปรากฏกายที่โลก ว่าเหตุเกิดเพราะพระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศิตตั้ง โอรสแห่งสวรรค์ ผู้ที่ยืนข้างขวาพระองค์ ให้เป็นพระประมุขต่อไป ทำให้ ลูซิเฟอร์ ก่อการกบฎ รบกันอยู่สามวันสวรรค์ ในวันที่สามโอรสแห่งสวรรค์ไล่ต้อนกองทัพปีศาจตกลงไปนรก และเตือน อาดัม ให้ระวังซาตานไว้ให้ดี อย่าฝ่าฝืนคำสั่งสวรรค์
แต่ซาตานก็ไม่ลดละ แปลงตัวเป็นงู เข้ามาชักชวน อีฟ ให้ทาน ผลไม้ต้องห้ามว่า เพราะตนได้ชิมผลไม้แห่งสติปัญญาทำให้สามารถพูดภาษามนุษย์ได้ และไม่ตาย แล้วถ้างูทานได้ทำไมมนุษย์จะทานไม่ได้ อีฟตกลงใจทานผลไม้นั้น และนำส่วนที่เหลือไปให้อาดัม ซึ่งไม่ต้องการแยกจาก อีฟ ทานด้วยกัน
หลังจากนั้นทั้งคู่เริ่มที่จะกระทำบาปทางใจโดยไม่รู้ตัว มีความคิดมิดีมิร้าย ไม่บริสุทธิ์อีกต่อไป ทั้งคู่กลับมีความใคร่ทางเพศ มีกามตัณหา และความกระสันต์ ลุ่มหลงอยู่กับความชั่ว มัวเมาในความอัปยศ และเกิดความยางอาย ต้องใช้ใบไม้ปิดอวัยวะเพศของตน เมื่อโอรสแห่งสวรรค์ ทราบเข้าจึงส่งข้อความขออภัยโทษต่อคนทั้งสอง แต่พระเจ้ามีข้อแม้ว่าต้องขับออกจากสวน และได้ส่ง เทวทูตไมเคิล มาไล่ทั้งคู่ออกไป
เป็นครั้งแรกที่ บาปเคราะห์ และ เจ้ากรรมนายเวร ได้เริ่มก่อตัวขึ้นบนโลก ทำให้เกิดยุคเข็ญกับมนุษย์และโลก ความทุกข์ยากเริ่มมาเยือน จน อาดัมกับอีฟ รู้สึกเสียใจและอัปยศยิ่งนักจนอยากฆ่าตัวตาย ส่วนซาตานรีบกลับไปที่นรก โดยสวนกันกับ บาป และ มรณะ ที่กำลังเดินทางไปยังโลก
อาดัมมีอายุถึง 930 ปี และมีลูกด้วยกันกับอีฟ 56 คน
ส่วนผลไม้แห่งสติปัญญา และความรู้สึกผิดชอบชั่วดี แม้ไม่ปรากฏในพระคัมภีร์ แต่มิลตันได้เสนอว่าน่าจะเป็นแอปเปิ้ล
หลังจากที่ถูกขับออกจากสวน โลกเริ่มเผชิญกับภัยธรรมชาติและโรคระบาด อาหารเริ่มหายาก มนุษย์และสัตว์เริ่มกินกันเป็นภักษาหาร โลกเจอกับทุพภิกขภัย และการดำรงชีพเต็มไปด้วยภยันตรายและอุปสรรค มนุษย์และสัตว์เริ่มฆ่ากัน ผู้หญิงต้องเจ็บท้องเมื่อจะคลอดลูกไม่ตกลูกง่ายเหมือนเดิม เด็กคลอดออกมาแม่อาจตายได้ มนุษย์และสิ่งมีชีวิตเริ่มตายตามธรรมชาติ และเริ่มทำสงครามต่อสู้กัน
ในที่สุดก็หนีไม่พ้นที่ต้องตายตามคำเตือนของพระผู้เป็นเจ้า และเกิดน้ำท่วมโลกตามพระคัมภีร์ในเวลาต่อมา
ส่วนนรกนั้นถูกโจมตีโดยโอรสแห่งสวรรค์ซึ่งเข้าไปกวาดล้างสัตว์นรกและอสุรกาย และโดนสาปให้เป็นงู เมื่อกินผลไม้ของสวนอีเด็นไปก็เผาไหม้กลายเป็นผงธุลีเป็นจุณมหาจุณไปในที่สุด
สำหรับ ซาตาน ก็ยังจะต้องอยู่กับมนุษยชาติไปจนสิ้นสุดแห่งเวลา
ขอบคุณข้อมูลจาก Paradise Lost แต่งโดย John Milton
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
