7 ข้อคิดที่ได้จากการเป็นเด็กจบใหม่ในยุค Covid-19
.
จากสถานการณ์ที่ไม่ปกติทำให้หลายๆ คนได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้าและหนึ่งในนั้นก็คือ เด็กจบใหม่ที่กำลังจะเริ่มเข้าสู่ชีวิตการทำงาน
.
ช่วงที่โควิด-19 เริ่มเข้ามาแพร่ระบาดในประเทศไทยในตอนนั้น เป็นช่วงของนักศึกษารุ่นจบปี 2562 ที่กำลังจะสำเร็จการศึกษาพอดี ในช่วงนั้นเป็นเทอมสุดท้ายของการเรียนมหาลัย จึงมีการปรับเปลี่ยนให้นักศึกษาทุกคนเรียนออนไลน์แทน และนโยบายนี้ก็เริ่มกินระยะเวลายาวนานขึ้นเรื่อยๆ
.
เด็กหลายคนเริ่มทยอยออกจากหอพักที่มหาวิทยาลัย และย้ายกลับไปอยู่บ้านกันมากขึ้น การสอบปลายภาคเปลี่ยนเป็นรูปแบบออนไลน์แทน ส่วนโปรเจกต์จบทำได้แค่ไหนแค่นั้น เพราะไม่สามารถทำต่อได้ เป็นการจบมหาวิทยาลัยแบบงงๆ ไม่ได้เจอเพื่อนและไม่ได้ร่ำลาอาจารย์ที่สอนเลยด้วยซ้ำ
.
จากวันนั้นมาถึงในตอนนี้ก็ถือว่าผ่านมาประมาณ 1 ปีแล้ว ผู้เขียนบทความนี้ ในฐานะเด็กจบใหม่ ณ ช่วงเวลานั้น จึงอยากแชร์ข้อคิดที่ได้เรียนรู้จากการเป็นเด็กจบใหม่ในยุค Covid-19 จากสภาพแวดล้อมและประสบการณ์ในช่วงที่ผ่านมา
.
.
#ความจริงไม่เหมือนที่คิดไว้เลย
.
ความจริงข้อแรกที่เราได้เรียนรู้ตั้งแต่จบมาเลยก็คือ สิ่งที่เราคิดและฝันไว้ในช่วงที่เรียนอยู่ไม่เหมือนกับความจริงในตอนนี้เลย เพียงแค่จะเริ่มทำตามความฝันที่วาดไว้ ยังถือว่าเป็นเรื่องยากพอสมควร
.
จนถึงทุกวันนี้ยังมีเด็กจบใหม่อีกมากที่ยังไม่ได้เริ่มทำงาน บางคนสมัครงานจนท้อใจ เพราะบริษัทหลายที่ก็จำเป็นต้องเลือกคนที่มีประสิทธิภาพการทำงานมากที่สุด เลยเลือกที่จะรับสมัครคนที่มีประสบการณ์แทน
.
.
#ต้องเรียนรู้การเป็นมนุษย์เป็ด
.
เมื่อเศรษฐกิจไม่สู้ดีนักส่งผลให้หลายบริษัทได้รับผลกระทบ บางบริษัทต้องลดคนลงหรือร้ายแรงกว่านั้นคือ ต้องปิดบริษัทไปเลยก็มี
.
ดังนั้น คนที่มีงานทำอยู่ต้องฝึกสกิลการทำงานให้มากขึ้นกว่าเดิม ต้องฝึกเรียนรู้ที่จะทำหลายอย่าง หลายหน้าที่หรือที่เราเรียกกันว่า “มนุษย์เป็ด” ซึ่งก็ถือว่าเป็นข้อดีสำหรับคนที่ชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ แต่ก็เป็นข้อเสียสำหรับบางคนเพราะถือเป็นเรื่องที่กดดันพอสมควรในฐานะเด็กจบใหม่
.
.
#ความไม่แน่นอนเกิดขึ้นได้เสมอ
.
ในช่วงวิกฤตแบบนี้ถึงต่อให้มีงานทำแล้วก็ยังหา “ความแน่นอน” และ “ความมั่นคง” ไม่ได้อยู่ดี มีหลายคนได้เริ่มงานใหม่ไม่นาน บริษัทที่ทำอยู่ก็ต้อง Lay off คนขึ้นมา ทำให้ต้องหาสมัครงานใหม่อยู่เรื่อยๆ จะลองธุรกิจส่วนตัวก็จำเป็นต้องดูทิศทางของตลาดให้ดี เพราะช่วงนี้คนก็เริ่มประหยัดเงินกันเพื่อป้องกันความไม่แน่นอนในอนาคตกันทั้งนั้น
.
#ประสบการณ์หายากพอๆกับเงิน
.
นอกจากเงินจะหายากแล้ว สิ่งที่หายากไม่แพ้กันคือ “ประสบการณ์” ในเมื่อสมัครงานที่ไหนไม่ได้ประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้จากการทำงานก็ไม่มี จะไปหาประสบการณ์จากการเข้าร่วมกิจกรรมก็ไม่มีอีก เพราะนโยบายควบคุมการติดเชื้อ Covid-19 ดังนั้น เงินและประสบการณ์จึงถือว่าเป็นสิ่งที่มีค่าที่หาได้ยากในยุคนี้
.
#การวางแผนการเงินคือสิ่งสำคัญ
.
เมื่อมีทั้งความไม่แน่นอนแถมงานก็ยังหายากอีก เราไม่อาจรู้สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับอนาคตเราได้เลย เด็กจบใหม่เมื่อมีงานทำแล้วก็ต้องวางแผนการเงินให้ดี ไม่ควรหลงระเริงใช้เงินไปกับของฟุ่มเฟือยมากนัก เพราะถ้าเราเกิดตกงานขึ้นมาแล้ว เงินที่เก็บไว้ไม่พอกับค่าใช้จ่ายในช่วงที่หางานไม่ได้ จะเกิดเป็นปัญหาใหญ่พอสมควร
.
ดังนั้น เราต้องลองศึกษาเรื่องเงินสำรองฉุกเฉินให้ดี โดยลองคำนวณค่าใช้จ่ายจำเป็นที่ต้องจ่ายในทุกๆ เดือนดู อย่างเช่น ค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าผ่อนชำระสินค้าต่างๆ แล้วเก็บเงินให้เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายเหล่านี้ก่อนที่จะนำไปใช้จ่ายกับของที่ไม่จำเป็น เพื่อให้มีเงินสำรองเพียงพอต่อช่วงเวลาที่เรากำลังหางานใหม่อยู่ โดยค่าใช้จ่ายเหล่านี้ต้องแบ่งเก็บไว้ไม่รวมกับค่าใช้จ่ายอื่นๆ ด้วย
.
#ห่างหายจากความสัมพันธ์
.
ยังไม่ทันได้เรียนจบก็ต้องแยกย้ายก่อน ทำให้ไม่มีโอกาสได้ร่ำลาอาจารย์หรือเพื่อนเลย เพราะจากสถานการณ์ในประเทศไทยที่มีการแพร่ระบาดหลายครั้ง การนัดเจอกับคนที่อยู่ไกลถือว่าเป็นเรื่องลำบาก บางคนยังไม่มีโอกาสได้เจอเพื่อนตั้งแต่เรียนจบ เพราะมีเพื่อนที่บ้านอยู่ไกลคนละจังหวัด
.
แม้กระทั่งบางคนได้เริ่มทำงานที่ใหม่หรือได้มีโอกาสฝึกงานก็ต้อง Work From Home อีก ในช่วงนี้การจะสร้างความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานถือเป็นเรื่องที่ยากมาก จึงเกิดเป็นประโยคที่ว่า “ยุคนี้เป็นยุคที่คนเหงา”
.
#การตามโลกให้ทันเป็นสิ่งจำเป็น
.
ตอนนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปเร็วมาก มีเรื่องใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมายให้เราเรียนรู้และปรับตัวอยู่ตลอด บางครั้งการตามโลกให้ทันอาจจะไม่ใช่เพียงแค่ว่าเราต้องพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้นเท่านั้น แต่การตามโลกให้ทันอาจหมายถึงการที่เราต้องรู้ให้ทันสิ่งใหม่ๆ ที่จะมาหลอกลวงเราด้วย
.
สุดท้ายนี้ ต่อให้สถานการณ์ที่เป็นอยู่จะทำให้เรารู้สึกท้อแท้ ไม่อยากสู้แล้วก็ตาม แต่อย่าทิ้งความฝันที่เราสร้างไว้ เพราะความหวังและความฝันของเราถือเป็นสิ่งที่มีคุณค่ามาก
.
ทั้งสองสิ่งนี้จะคอยเติมเต็มให้ชีวิตมีสีสัน เติมเต็มให้เรามีแรงที่จะสู้ต่อเพื่อทำอะไรสักอย่าง และเชื่อว่าต้องมีสักวันหนึ่งที่ทุกอย่างเต็มใจให้เราได้มีโอกาสทำตามความฝันที่เคยวาดไว้… จนสำเร็จ
.
.
#MissionToTheMoonPodcast