21 เม.ย. 2021 เวลา 08:38 • นิยาย เรื่องสั้น
อ่านเอาให้เคลียร์ ให้​หายค้างคาใจ​กับ​ มือเพลิง(Barn Burning)
หนังสือรวมเรื่องสั้น เส้นแสงที่สูญหาย เราร้องไห้เงียบงัน โดย ฮารูกิ มูราคามิ
ด้วยความที่ว่าได้ไปดูหนังเรื่อง มือเพลิง (Burning) เมื่อหลายปีที่แล้ว ด้วยความที่หนังเรื่องนี้มันมีเรื่องของการตีความ ดูจบแล้วจึงเกิดความสงสัยว่า สิ่งที่หนังได้สื่อออกมากับสิ่งที่ผมตีความมันถูกต้องตามที่ตัวเองคิดหรือไม่ การหายสาปสูญของหญิงสาว พร้อมกับโรงนาที่ถูกเผา มันได้เชื่อมโยงกันแบบที่ผมคิดจริงๆ เหรอ สำหรับผมมันก็ต้องหาต้นเรื่อง ซึ่งหนังเรื่องนี้ได้เอามาจากนิยายเรื่องสั้น ต้องมาอ่านเพื่อให้เคลียร์กับตัวเอง แล้วถ้าเป็นไปอย่างที่คิด ถือว่าการเขียนเรื่องสั้นเรื่องนี้ของลุงมู ถือว่าแยบยลมาก
เรื่องสั้นชื่อว่า มือเพลิง(Barn Burning) ถูกบรรจุอยู่ในหนังสือรวมเรื่องสั้น เส้นแสงที่สูญหาย เราร้องไห้เงียบงัน โดยฮารูกิ มูราคามิ
ผมควานหาเล่มนี้อยู่หลายปี จนไปเจอในช่วงสัปดาห์หนังสือเมื่อปีที่ผ่านมา เหลือแค่เล่มเดียว ไม่รอช้ารีบซื้อรีบหามาอ่านในช่วงยามว่าง
เรื่องทั้งเรื่องมีตัวละครแค่ 3 คน คือ พระเอก หญิงสาว และ มือเพลิง บทสนทนาร่วมกันมีไม่กี่ครั้ง กับฉากที่ปรากฎไม่กี่ฉาก แต่มันมีความสำคัญต่อการดำเนินเรื่อง
ผมประทับใจตอนเริ่มต้น ตรงที่หญิงสาว เล่นละครใบ้ด้วยการทำท่าทางกินส้มจีนให้พระเอกดู มันเป็นอะไร ที่สร้างตัวละครให้มีเนื้อหนัง มีมิติ ถึงแม้ในเรื่องสั้นที่เขียน ไม่บ่งบอกลักษณะหน้าตา รูปร่าง ที่ชัดเจนแม้แต่น้อย
เมื่อพ่อของเธอเสียชีวิต ทิ้งเงินเล็กๆ ก้อนนึง นางนึกอยากไปเที่ยวแอฟริกาเหนือ พระเอกก็บอกว่ามีคนรู้จักในสถานฑูตสามารถไปแอลจีเรียได้ นางก็นึกบินก็บินไปเลย ไปแบบไม่วางแผนอะไรทั้งนั้น ผ่านไปสามเดือน พระเอกไปเจอเธอที่นัดไว้ที่สนามบิน เธอกลับมาพร้อมกับ *พ่อหนุ่มแก๊สบี้ คนหนึ่งท่าทางสุภาพ หน้าตาดี และการพบกันสามตัวละครมันได้เปิดเผยตัวตน ที่บ้านพระเอกนั่นเอง พ่อหนุ่มแก๊สบี้หิ้วหญิงสาวมาที่บ้าน หลังจากเมามายได้ที่พระเอกพาหญิงสาวไปที่เตียง เดินกลับมานั่งข้างเคียงกับพ่อหนุ่มแกสบี้ บทสนทนาที่ไม่ใช่สาระอะไร จึงเริ่มต้น
"บางทีผมก็เผาโรงนา"
งานอดิเรกของพ่อหนุ่มแกสบี้ คือ การเป็นมือเพลิงเผาโรงนาของคนอื่นเล่น
"ผมจะเผาโรงนาประมาณสองเดือนครั้ง"
"ผมจะเผาโรงนาเน่าๆ หลังหนึ่ง รับรองตำรวจไม่อยากเคลื่อนขยับหรอกครับ"
"โรงนาพวกนั้น กำลังรอคอยให้ถูกเผา"
"ตอนนี้คุณเลือกโรงนาไว้สำหรับการเผาในครั้งหน้ารึยัง" พระเอกถาม
"ผมหมายตาไว้แล้ว เป็นโรงนาที่ยอดเยี่ยม โรงนาหลังแรกที่ควรค่าแก่การเผาทิ้งในรอบหลายปี ที่จริงน่ะผมเพิ่งจะไปตรวจสอบมันมาวันนี้นี่เอง" มือเพลิงบอกแผนการณ์อย่างหมดเปลือก
หลังจากนั้นพระเอกก็ซื้อหาแผนที่ละแวกนี้ หาโรงนาที่เข้าข่าย ตั้งแผนวิ่งสำรวจทุกเช้าเพื่อดูว่าโรงนาไหนจะถูกเผา
จนเวลาผ่านไป ก็ไม่มีโรงนาไหนในแถวบ้านของพระเอกถูกเผาสักหลัง
พระเอกเจอมือเพลิงอีกครั้งโดยบังเอิญ ในช่วงฤดูหนาว นั่งคุยกันสักพักจึงได้ความว่า
"ผมเผามันไปเรียบร้อยแล้ว น่าจะสักสิบวันหลังผมไปหาคุณที่บ้าน"
"เท่าที่ผมบอกได้คือ คณพลาดไปถนัด มันเกิดขึ้นแล้ว คุณก็รู้บางทีเราก็มองข้ามสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวครับ" เขาเยาะเย้ย
"ว่าแต่พักหลังมานี่คุณได้พบเธอบ้างมั้ยครับ" พระเอกถาม
"ไม่เลยครับ"
มือเพลิงกล่าวประโยคสุดท้ายก่อนจากไป
"ผมเชื่อว่าเธอไว้ใจคุณ นี่ไม่ได้พูดตามมารยาทนะครับ ผมเชื่อว่าคุณเป็นคนพิเศษของเธอ พิเศษพอจะทำให้ผมอิจฉาเลยทีเดียวละ ผมคนที่ไม่เคยอิจฉาใครมาก่อน"
ไม่มีหลักฐานใดที่บ่งบอกว่าโรงนาถูกเผา แต่สิ่งที่ปรากฎขึ้นจริงคือหญิงสาวคนนั้น คนที่เล่นละครใบ้ด้วยการกินส้มจีน เธอได้หายสาปสูญ
สรุปคือในเรื่องสั้น ไม่มีเกิดเหตุฆาตกรรม หญิงสาวก็แค่หายไปดื้อๆ อย่างนั้น จบแบบปลายเปิดให้ผู้อ่านกลับไปคิดเอาเองว่ามันเกี่ยวโยงกันยังไง แต่ที่ผนึกฝังแน่นในหัวของผมก็คือ มันก็สร้างความค้างคาใจกับพระเอก(และคนอ่านก็ค้างคาใจเช่นกัน)
เท่าที่ผมตีความคือ
หญิงสาวมันหมดรักในตัวพระเอก นั่นแหละ แต่ทำไงได้ พระเอกมันมีภรรยาแล้ว (แต่ถ้าในหนังพระเอกโสด มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับหญิงสาว) สังเกตตอนนั้นที่พระเอกบอกว่าลองไปเที่ยวแอลจีเรียดูสิ คุณเธอไปแบบไม่ได้วางแผนอะไรทั้งสิ้น ซึ่งมันก็เหมือนอาการคนอกหัก เที่ยวไปให้อกแตกตายไปเลยนั่นแหละ แต่ด้วยความที่พระเอกรู้ตัวช้า(มากกก) ส่วนมือเพลิงรู้ถึงความสัมพันธ์ของคนทั้งสอง จึงบอกใบ้ก่อนที่จะชิงฆ่าเธอเสีย แล้วทำให้หายสาปสูญไป นั่นแหละคือความหมายของโรงนาที่รอคนเป็นเจ้าของมารื้อฟื้น
หรือถ้าตีความอีกแบบนึงคือ คนที่ขาดไร้ที่พึ่งพิงทางจิตใจ จึงเหมือนโรงนาที่ถูกทิ้งร้าง เธอพร้อมที่จะสาปสูญเสมอ ขอให้ใครช่วยลงมือ
อ่านจบไม่แปลกใจที่ต้องเอามาทำเป็นหนัง
เมื่อเทียบกับเนื้อหาในหนัง กับ ในเรื่องสั้น ในหนังทำออกมาเป็นรูปธรรมชัดเจนที่สุดแล้ว แต่จะรู้สึกได้ว่า เราหงุดหงิดพระเอกพอสมควร พี่จะรออะไรอยู่ละครับรีบทำอะไรได้แล้ว ก่อนที่มันจะสายเกินไป...
หมายเหตุ *พ่อหนุ่มแกสบี้ หมายถึง คนหนุ่มเจ้าสำราญ ในลุคมาดเนี้ยบไร้ที่ติ ตามยุคสมัยนิยมอเมริกันดรีม มักมาพร้อมกับรถหรู พร้อมเปย์เสมอให้สาวที่สนใจ แต่ไม่สามารถบอกได้อย่างชัดเจนว่าทำมาหากินอะไร อ้างอิงจากนิยายที่ผมเคยอ่านเรื่อง The Great Gatsby(เดอะ เกรท แกสบี้) ของ เอฟ สกอต ฟิตเจอร์รัลด์
โฆษณา