ทุกคนต่างพากันตกใจ และเศร้าโศกเสียใจกันทั่วหน้า พระยายมราชก็มาคุมตัวนางวันทอง ไปที่ตะแลงแกง ทุกคนก็ติดตามไป คร่ำครวญอาลัยในหมู่ญาติ นางวันทองครวญกับพระไวยว่า
...วันนี้แม่จะลาพ่อพลายแล้ว จะจำจากลูกแก้วไปสูญสิ้น
พอบ่ายก็จะตายลงถมดิน ผินหน้ามาแม่จะขอชม
เกิดมาไม่เหมือนกับเขาอื่น มิได้ชื่นเชยชิดสนิทสนม...
...ร่ำพลางนางกอดพระหมื่นไวย น้ำตกไหลซบเซาไม่เงยหน้า
ง่วงหงุบฟุบลงกับพสุธา กอดลูกยาแน่นิ่งไม่ติงกาย ฯ
พระไวยก็รำพันถึงนางวันทองผู้เป็นแม่
...โอ้เจ้าประคุณของลูกเอ๋ย แม่เคยเลี้ยงลูกแล้วสั่งสอน
ผูกเปลเห่ช้าให้ลูกนอน ป้อนข้าวอาบน้ำให้กินนม...
...ขอตายแทนตัวของมารดา อย่าให้แม่ข้านี้บรรไลย
เป็นเพราะกูรับแม่กลับมา ท่านจึงลงอาญาเป็นข้อใหญ่
ว่าพลางกลิ้งเกลือกเสือกไป สะอื้นไห้อยู่ที่ตีนของมารดา
ขุนแผนครวญกับนางวันทอง ที่ได้ตกระกำลำบากมาด้วยกันช้านาน
ขุนแผนแสนโศกสงสารน้อง นิ่งนั่งฟังวันทองให้อัดอั้น
นางหันมากอดเท้าเข้าจาบัลย์ ขุนแผนนั้นซบหน้ากับหลังเมีย
สะท้อนสะทึกสะอึกสะอื้นให้ ออกปากน้ำตาไหลลงราดเรี่ย
เสียแรงทรมานตัวทั้งผัวเมีย เขี่ยดินเลี้ยงกันเหมือนหนึ่งนก...
...ถึงสุดแสนลำบากยากไร้ เจ้าสู้ทนได้ไปกับผัว
จนพฤกษาหายากกินรากบัว ชั้นชั่วข้าวสักเม็ดไม่พานพบ
แปดเดือนเรือนชานมิได้เห็น แสนเข็ญพาน้องวันทองหลบ...
...เหมือนเจ้าตายจากพี่ทีหนึ่งแล้ว ต้องคลาดแคล้วพี่ตั้งแต่เศร้าหมอง
อยู่ในคุกทุกข์ถึงคะนึงตรอง สองทุกข์สามทุกข์เข้าทับใจ...
...ได้พบผัวพูดกันแต่กลางคืน พอนอนตื่นไม่ทันตะวันสาย
ก็เกิดความลามวุ่นขุ่นระคาย ลงปลายน้องรักจักวายชนม์...
...คนอื่นหมื่นแสนก็คุ้มรอด ยอดรักคนเดียวไม่คุ้มได้
จำเพาะเด็ดดวงจิตปลิดเอาไป ช่างกระไรพ้นที่จะป้องกัน...
...ขุนแผนฟังคำที่ร่ำว่า ไม่ออกปากพูดจาต่อไปได้
สุดคิดอัดอั้นให้ตันใจ สุดอาลัยล้มผางลงกลางดิน
นางแก้วกิริยา กับนางลาวทองก็เข้าไปขอสมา นางวันทองก็รับสมาจากทั้งสองนาง นางสร้อยฟ้ากับนางศรีมาลา ก็เข้าไปขอขมา นางวันทองรับขมา จากนั้นก็เข้าไปขมานางทองประศรี
นางวันทองน้องเรียกเอาดอกไม้ คลานเข้าไปไหว้กราบทองประศรี
ลูกจะลามารดาในวันนี้ ขออภัยอย่าให้มีซึ่งโทษทัณฑ์
แต่ลูกอยู่กับพ่อขุนแผน ให้แม่แค้นอย่างไรที่ไหนนั่น
จนถึงเวลาเขาฆ่าฟัน สิ้นเวรกรรมกันเถิดแม่คุณ