เคยรู้จัก ธุรกิจ POD ไหม print on demand โดยเราไปผูกกับบริษัทที่รับทำและจัดส่ง เราเพียงแต่ เปิดหน้าร้าน และออกแบบ เพื่อขาย
ป้าน้ำรู้จักประมาณเดือน ตุลาปีที่แล้ว ก็ศึกษามาเรื่อยๆ เข้ากลุ่ม เขามีเปิดสอน แต่ไม่มีทุนเรียน ก็เรียนรู้เอง จากกลุ่ม ยูทูป เพียงแต่ใช่เวลามาก
เริ่มเปิดร้าน ออกแบบขายเสื้อยืด บนหน้าเวปที่ขายเสื้อ เราแค่ออกแบบ ถ้ามีคนชอบแบบและเขาซื้อเราก็จะได้เปอร์เซนต์ จากการขายเสื้อที่เราขายแค่ดีไซน์ แต่บริษัทจะพิมพ์ลงเสื้อและส่งให้ลูกค้า โดยที่เราไม่ต้องทำอะไรเลย ฟังดูง่ายดีนะ แต่
มีหน้าเวปหลากหลาย ที่เราสามารถเปิดร้าน ลงดีไซน์ของเรา โดยไม่มีค่าลงใดๆ เราสามารถ ใส่ดีไซน์ของเราลงบนเสื้อยืด แก้ว สติกเกอร์ เคสโทรศัพท์ หน้ากาก สมุด โปสเตอร์ การ์ด อื่นๆอีกหลากหลาย
บางหน้าเวป ต้องจ่ายค่าลงดีไซน์ เช่น Etsy จ่ายค่า list ละ 0.20 ต่อ 4 เดือน ถ้าขายได้ก็จ่ายใหม่
เข้าใจว่า ถ้าออกแบบดีๆก็น่าจะขายได้ แต่มันมีมากกว่านั้น
1 ออกแบบตามใจฉัน อาจไม่ตรงกับความต้องการของลูกค้า ลูกค้าส่วนใหญ่ต้องการตามเทรนนิยม ตามเทศกาล ดังนั้นเราต้องทำวิจัย หาว่าอะไรที่คนสนใจมีความต้องการมาก แต่มีของน้อยอยู่ เพื่อที่จะทำให้ของเราขายได้ ส่วนการวิจัย ใช้เวลามาก สอดส่องดูของคนอื่นบ้าง ใช้โปรแกรมที่ช่วยให้หาเทรน สินค้าขายดี ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
2. การจ่ายโฆษณา เพื่อดึงลูกค้าเข้าร้าน เนื่องจากมีคนทำธุรกิจนี้ทั่วโลก ดังนั้นจึงมีจำนวนมาก ลูกค้าอาจหางานของเราไม่พบ ดังนั้นจึงต้องจ่ายค่าโฆษณา เพื่อให้ระบบดันงานของเราไปหน้าแรกให้ลูกค้าได้เห็น ทำให้มีโอกาสขายได้
3 การทำงานตามเทรน เช่น วาเลนไทน์ คนส่วนใหญ่ก็จะทำกันมาก การออกแบบต้องโดดเด่นกว่าคนอื่นๆ ในขณะเดียวกันมีงานออกแบบมากโอกาสขายก็มีมากกว่า แต่ก็ไม่เสมอไป เกี่ยวข้องกับ ชื่อสินค้า tag keyword ที่สอดคล้องกับส่วนที่ลูกค้าค้นหา ถ้าตรงหรือใกล้เคียงโอกาสลูกค้าเห็นงานของเราก็มีมาก ต่องทำความเข้าใจ และใส่ให้ได้จรงที่สุด หากใส่แบบไม่เกี่ยวข้องก็ปิดโอกาสงานของตนเอง เพราะลูกค้าจะไม่เห็นเลย
4เราอาจไม่จำเป็นต้องทำตามเทรนเสมอไป อาจทำงาน evergreen คือเรื่องทั่วไปที่นิยมตลอดปี เช่น เรื่องสุนัข แมว ครอบครัว อาชีพ เป็นต้น แต่ก็ยังต้องแยกย่อยออกไปได้อีกซึ่งก็จะมีอีกมากมาย
5 การตั้งราคา ที่ไม่ถูกหรือแพงเกินไป รวมถึงการคิดหักค่า%ของการโอนรับเงิน ค่าส่งสินค้า ภาษีบางประเทศ ต้องมาคำนวนทั้งหมด ดูว่าคนส่วนใหญ่ขายราคาเท่าไร จากที่ดูมา ถ้าลูกค้าชอบราคาไม่ใช่ปัญหา แต่ก็มีส่วนใหญ่ ราคาก็เป็นปัจจัย การคิดค่าส่งเนื่องจากขายทั่วโลก ค่าส่งฐานอยู่ในอเมริกา ดังนั้นแต่ละที่จะต่างกันไป
ป้าน้ำเปิดร้านตั้งแต่ธันวา ลงงานประมาณ 50 มีทั้งแก้ว หน้ากาก เสื้อ ยังขายไม่ได้เลย เพราะไม่ได้วิจัยจริงจัง ถึงแม้จะเจอบ้างแต่ก็ใช่ว่าเข้าตามเทรนแล้วจะขายได้ แม้เราจะชอบงานของเรามากก็ตาม อีกงานที่เห็นคนอื่นขายได้ดีจนเป็นงานประจำก็คืองาน digital file แค่ออกแบบ ขาย ลูกค้าก็แค่โหลดไฟล์งานไปใช้เท่านั้นเอง ทุนก็แค่เวลาในการออกแบบและวิจัยให้ตรงกับลูกค้าต้องการ
ป้าน้ำศึกษา ทุกวันทั้งคนไทย และต่างชาติ ป้าน้ำมีความสุขในการออกแบบ แม้จะทำจนหลังแข็งออฟฟิศซินโดรมก็ตาม เวลาที่ลงงาน ก็เพราะเราพอใจในงานนั้น และรอจะมีคนชอบงานของเราบ้าง งานส่วนใหญ่เป็น ทั่วไป ไม่ตามเทรนสักเท่าไร ในEtsy มีฐานลูกค้าที่ใหญ่มาก รองจากอเมซอน คนจึงเปิดร้านกันมาก บางร้านก็ถูกคนก้อปปี้ไปขายในราคาถูกกว่า แค่มีคนเข้าร้านวันละคนก็ดีใจแล้ว แม้จะขายไม่ได้เลยก็ตาม ลูกค้าส่วนใหญ่ก็ดูจากรีวิวก่อนตัดสินใจซื้อ การจะได้รีวิวก็มาจากที่ลูกค้าเข้ามาซื้อก่อน หรือบางคนเจอลูกค้าซื้อไปแล้วขอคืน ปัญหามีหลากหลาย นอกจากนี้เราเองก็ต้องพยายามใช้social media ต่างๆ pinterest instagram Facebook twistter และอื่น ที่จะช่วยให้คนเห็นงานของเรา และลิ้งค์ไปที่ร้านเรา ซื่งจะช่วยการมองเห็นเพิ่มขึ้น
ดูเหมือนง่าย แต่ไม่ง่าย บางคนทำได้ รายได้ดีมาก แต่บางคนทำยังไงก็ยังขายไม่ได้ ลองดูสักปีก็พยายามต่อไป มีงานสักพัน จะขายได้บ้างไหม หรือว่าเราจะทำอะไรไม่ได้แล้ว
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
