น่าคิดและจำเป็นต้องคิด !! โควิดระลอก 3 ของไทย จะมีความรุนแรงมากน้อยเพียงใด โรงพยาบาลจะพอรองรับหรือไม่ ความกว้างขวางของการระบาดจะขนาดไหน ผู้ติดเชื้อมีโอกาสถึงระดับ 100,000 คนหรือไม่
คำถามดังกล่าวข้างต้น เป็นสิ่งที่ประชาชนคนไทยทุกคน ไม่ว่าจะมีข้อมูลมากน้อยเพียงใด จะมีความรู้ความเข้าใจเรื่องโรคโควิดมากน้อยเพียงใด
ก็ล้วนแต่เกิดคำถามดังกล่าวขึ้นในใจทุกคน
วันนี้เราจะลองพยายาม ใช้ความรู้ทางการแพทย์ ร่วมกับการใช้ตัวเลขสถิติต่างๆ มาประกอบกัน เพื่อที่จะบอกแนวโน้ม
ให้ความรู้สึกวิตกกังวล หรืออาจจะเป็นความหวัง มีโอกาสใกล้เคียงความจริงมากยิ่งขึ้น
แยกเป็นสองประเด็นดังนี้
1) ความรุนแรงของโรค เมื่อพูดถึงความรุนแรงของโรคโควิด หมายถึง ผู้ที่ติดเชื้อแล้วมีอาการมากจนต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล อาจต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ หรือไปจนกระทั่งถึงจำนวนผู้เสียชีวิต
2) ความกว้างขวางของโรค หมายถึง อัตราการติดเชื้อใหม่รายวัน การแพร่เชื้อและจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด
ในสองประเด็นดังกล่าว คงมาไล่เรียงดูไปทีละประเด็นคือ
ประเด็นเรื่องความรุนแรงของโรค ในการระบาดระลอก 3 นับตัวเลขจากวันที่ 1-22 เมษายน 2564
จะพบว่ามีผู้ติดเชื้อ ซึ่งมีอาการป่วยจนต้องนอนโรงพยาบาลมากถึง 15,642 ราย
โดยในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยที่มีอาการหนักจำนวน 352 ราย และหนักมากจนต้องใช้เครื่องช่วยหายใจจำนวน 91 ราย
ตัวเลขผู้ป่วยหนักแล้วต้องใช้เครื่องช่วยหายใจดังกล่าวนี้ จะเป็นตัวเลขที่คาดคะเนได้ว่า จะมีผู้ที่จะเสียชีวิตจำนวนเท่าใด
นั่นแปลได้ว่า ตลอดสัปดาห์หน้า เราจะเห็นตัวเลขยอดจำนวนผู้เสียชีวิตที่มีโอกาสจะเป็นตัวเลขสองหลักได้และผู้ติดเชื้อซึ่งเพิ่งเข้าโรงพยาบาล จะมีจำนวนหนึ่งที่จะมีพัฒนาการของโรคที่อาการหนักขึ้นเป็นลำดับ ค่าเฉลี่ยที่พบในขณะนี้ใช้เวลาประมาณ 6-12 วันนับจากวันตรวจพบการติดเชื้อจนถึงวันที่เสียชีวิต
ประเด็นเรื่องความกว้างขวางของโรค ก็จะสังเกตหรือวิเคราะห์ได้จาก จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มใหม่รายวัน จากเดิมเป็นเพียงหลักสิบ ขยับมาเป็นหลักร้อย และในช่วง 10 วันที่ผ่านมาเป็นระดับหลักพัน
วันนี้เป็นวันแรก ที่รายงานตัวเลขเกินสองพันคือ 2070 ราย ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้นรวมเป็น 21,320 ราย
ซึ่งเป็นตัวเลขที่เกือบจะเท่ากับการระบาดในระลอก สอง ซึ่งกินเวลากว่าสามเดือน แต่ระลอกนี้ใช้เวลาเพียงสามสัปดาห์
เมื่อเทียบกับรอบที่หนึ่ง ต้องใช้เวลาราว 10 เดือน
ถึงจะมีผู้ติดเชื้อ 4000 คนเศษ
จึงพอกล่าวได้ว่า ความกว้างขวางของการระบาดของโควิดในระลอกที่สาม มีความกว้างขวางมาก และความรุนแรงของโรคโควิดก็มีความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นชัดเจนด้วย
แต่ตัวเลขความรุนแรง(จำนวนผู้เสียชีวิต) ยังไม่สะท้อนความรุนแรงที่แท้จริง จนกว่าผู้ติดเชื้อที่ทยอยเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล จะมีอาการของโรคคือปอดอักเสบ จึงจะบอกความรุนแรงที่แท้จริงได้
ถ้าเราใช้ตัวเลขผู้เสียชีวิตในอดีตที่ผ่านมา ของระลอกที่ 1 ที่ 1.40% คำนวณกับผู้ติดเชื้อในขณะนี้ 21,320 ราย ก็เป็นตัวเลขที่ประมาณ 298 ราย
แต่ถ้าใช้ค่าเฉลี่ยการเสียชีวิตของโลกเรา ที่ประมาณ 2% ตัวเลขผู้เสียชีวิตก็จะขยับเพิ่มขึ้นเป็น 426 ราย
ตัวเลขผู้เสียชีวิตดังกล่าวจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ถ้าระบบสุขภาพของไทย(ซึ่งดีมากอยู่แล้ว) ได้มีโอกาสทำงานอย่างครบถ้วนสมบูรณ์
กล่าวคือจำนวนผู้ป่วยไม่ล้นเตียง
ไม่เกินกำลังที่บุคลากรของเราจะดูแลรักษาไหว
ดังนั้นสิ่งที่เราจะช่วยกัน ทำให้ผู้เสียชีวิตมีจำนวนน้อยลงจากที่คาดคะเนไว้ จึงประกอบด้วย
1) ผู้ที่ยังไม่ติดเชื้อ จะต้องป้องกันตนเองให้เต็มที่ให้ดีที่สุด อย่าให้เกิดการติดเชื้อ ซึ่งจะไปเพิ่มภาระ และกระทบกับศักยภาพของโรงพยาบาลทันที(เตียงไม่พอ)
2) ผู้ที่ติดเชื้อแล้ว แต่มีอาการน้อย จะต้องทำความเข้าใจว่า ควรจะไปรับการดูแลที่โรงพยาบาลสนาม เพื่อไม่ให้กระทบคุณภาพการดูแลผู้ป่วยอาการมากในโรงพยาบาลหลัก
3) ผู้ที่มีศักยภาพ ไม่ว่าจะเป็นกำลังทรัพย์ กำลังสติปัญญา ที่จะช่วยกันทำให้ระบบสุขภาพของเรามีความพร้อม ก็ควรจะเข้ามาช่วยกัน
4) เรื่องการให้กำลังใจ การเห็นอกเห็นใจ ต่อบุคลากรที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติหน้าที่ ไม่ให้เกิดความน้อยเนื้อต่ำใจ การเสียกำลังใจ
5) ต้องไม่ปกปิดข้อมูล ซึ่งจะทำให้เป็นปัญหาสูญเสียบุคลากรทางการแพทย์ ที่จะต้องไปกักตัวเองกลายเป็นกลุ่มเสี่ยง ทำให้กำลังของบุคลากรทางการแพทย์ไม่เพียงพอที่จะดูแลรักษาผู้ป่วย
หวังว่า เราจะผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ ไป โดยมีความสูญเสียน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ครับ
Reference
ศบค.
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
- 12
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
