25 เม.ย. 2021 เวลา 12:33 • หุ้น & เศรษฐกิจ
BONUS#1: Trading Journal: บันทึกการเทรด (Cryptocurrency และ ทองคำ)
ในมุมมองของผมนั้นการเทรดตราสารต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหุ้น ทองคำ หรือ Cryptocurrency ก็คือ Money Games ที่ผู้เล่นทุกคนต่างก็ต้องชิงไหวชิงพริบเพื่อที่จะเป็นผู้ชนะในเกมส์นั้นและได้มาซึ่งเงินจำนวนมหาศาล
ผู้เล่นในแต่ละเกมส์มีทั้งรายใหญ่และรายเล็ก โดยรายใหญ่จะมีทั้งเงินทุนจำนวนมหาศาล มีความสามารถในการเข้าถึงข้อมูลต่างๆได้ก่อน และ ยังเป็นผู้เขียนข่าว บทวิเคราะห์ หรือ แม้แต่สร้างเครื่องมือทางเทคนิคต่างๆให้รายย่อยอย่างพวกเราใช้
รายย่อยจะมีโอกาสชนะได้น้อยมากภายใต้สถานการณ์แบบนี้ ซึ่งความน่าจะเป็นในการชนะของรายย่อยจะมีไม่ถึง 50%(หรืออาจน้อยกว่า 30% สำหรับคนส่วนใหญ่) และมีความเสี่ยงสูงมากที่จะเสียเงิน
สิ่งที่จะช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสชนะของรายย่อยก็คือ Mindset, ระบบเทรด และ วินัยในการเทรด ซึ่ง Mindset ที่สำคัญก็คือเราต้องรักษาเงินต้นไว้ให้ได้ เพื่อเพิ่มโอกาสในการแก้มือครั้งต่อไป
ระบบเทรดมีไว้เพื่อ กำหนด Lot size หรือ จำนวนเงินที่จะใช้ลงทุนในแต่ละรอบ ซึ่งจะมีความเชื่อมโยงกับรูปแบบของราคาของตราสารนั้นๆ
ถ้าเราสามารถกำหนด Lot size ได้อย่างเหมาะ และเข้าเทรดในจังหวะที่ถูกต้องก็จะทำให้มีโอกาสชนะมากกว่าแพ้ ซึ่งบางท่านอาจเคยได้ยินคำว่า Risk Reward ratio(RR) และ Win Rate
แน่นอนว่าเราไม่สามารถชนะการเทรดทุกครั้ง แต่ถ้าทุกครั้งที่ชนะเราได้ RR ที่สูง ในขณะที่มี RR ต่ำในรอบที่แพ้ นั่นย่อมหมายความว่า เราจะมีเงินหน้าตักเหลือเพียงพอที่จะสู้ในรอบต่อๆไป
จุดคุ้มทุนของเทรดเดอร์อยู่ที่ RR = 1:4 หรือ ต้องทำ Win rate ให้อยู่ที่ 50% (ที่มา Forexia)
สำหรับจังหวะในการเทรดนั้น เราสามารถใช้ความรู้ทางเทคนิคซึ่งก็คือ แนวโน้ม(Trend), แนวรับแนวต้าน(Support Resistance), รูปแบบของราคา (Price pattern) และ Indicator ต่างๆเข้าช่วย เพื่อเพิ่ม Win Rate ให้สูงขึ้น
แนวโน้ม(Trend): ใช้ทฤษฎี Dow เพื่อดูแนวโน้มก่อนเข้าเทรดทุกครั้ง
ทฤษฎี Dow (ที่มาBrokerforexreview)
แนวรับแนวต้าน(Support Resistance): ใช้ดูกรอบการเคลื่อนไหวของราคาและใช้ทำงานร่วมกับ Price pattern ต่างๆ
แนวรับ(Support) แนวต้าน(Resistance) (ที่มาPriceaction.com)
รูปแบบของราคา (Price pattern): รูปแบบราคาและแท่งเทียนที่ควรจำให้ได้ และเป็นส่วนหนึ่งที่ใช้ในการหาจังหวะเทรด
ตัวอย่างรูปแบบราคาที่ควรจำให้ได้ (ที่มา Monfx)
Candlestick pattern(รูปแบบแท่งเทียน)
ตัวอย่างรูปแบบแท่งเทียนที่ควรจำให้ได้(ที่มาTraderdost)
Indicator: ใช้ดูความสัมพันธ์ระหว่างราคาและแรงส่งต่างๆ เพื่อช่วยยืนยันจังหวะในการเข้าเทรด
ตัวอย่าง Indicator ใช้ดูรูปแบบ Divergence ของราคา( ที่มาMedium.com)
สิ่งสุดท้าย(ไม่ท้ายสุด) ก็คือวินัยในการเทรดซึ่งเราต้องตอบคำถามให้ได้ว่าเราจะขายตอนไหน แน่นอนว่าการ Cut loss ถือเป็นหนึ่งในวินัยการเทรดที่เราต้องให้ความสำคัญ ซึ่งถ้าเรามีความรู้ทางเทคนิคที่เพียงพอก็จะทำให้สามารถเลือก Stop loss ได้ดี และเสียน้อยในรอบที่เราแพ้
สิ่งสุดท้ายที่สำคัญ(จริงๆ) ก็คือประสบการณ์ครับ
จึงเป็นที่มาของซีรีย์ Trading Journal ที่ผมตั้งใจทำขึ้น ซึ่งจะเป็นการ Update และแชร์มุมมองการเคลื่อนไหวของราคาของทองคำ และ Cryptocurrency ด้วยระบบเทรดที่มีพื้นฐานจากการวิเคราะห์ทางเทคนิคด้วยการอธิบายแบบง่ายๆและไม่เครียด ทั้งนี้เพื่อที่เราจะได้อยู่ด้วยกันไปนานๆและพัฒนาทักษะในการเทรดไปด้วยกัน
ฝากกดแชร์กดติดตามเป็นกำลังใจให้กันด้วยนะครับ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา