25 เม.ย. 2021 เวลา 06:14 • ประวัติศาสตร์
ชาวแอฟริกันยิวแห่งเอธิโอเปีย ชนชาติที่เรามักจะไม่นึกถึงเมื่อพูดถึงคนยิว
เมื่อพูดถึงคนยิว ลักษณะหน้าตาที่คนส่วนใหญ่นึกถึงคงเป็นฝรั่งผิวขาวจมูกโด่งใส่หมวกยิวแน่นอน ซึ่งก็ไม่ผิดจากความจริงนักเพราะคนยิวในปัจจุบันส่วนใหญ่คือคนยิวอัชเคนาซี คือคนยิวจากเยอรมัน โปแลนด์ รัสเซีย ลิทัวเนียและประเทศยุโรปตะวันออกต่างๆ ประมาณ 75% บวกกับคนยิวเซฟาร์ดิก(คนยิวจากคาบสมุทรไอบีเรีย) อีกส่วนหนึ่งที่หนีการไต่สวนศรัทธา(Spanish Inquisition) ไปลาตินอเมริกาและฝรั่งเศส ปัจจุบันเป็นประชากรประมาณ 15%-20% นอกจากคนยิวเชื้อสายยุโรปก็ยังมีคนยิวมิซราฮี(คนยิวในตะวันออกกลางดั้งเดิม)ในอิหร่าน เลบานอน อิรักและอิสราเอล-ปาเลสไตน์ ซึ่งสามารถวัดประชากรได้ค่อนข้างยากเพราะส่วนใหญ่ได้ย้ายเข้าอิสราเอลและมีลูกหลานกับกับคนยิวยุโรปกันไปเป็นส่วนใหญ่แล้ว แต่ยังมีคนยิวอีกกลุ่มหนึ่งที่คนมักจะไม่ค่อยนึกถึงเพราะมีประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมและความเชื่อต่างไปจากคนยิวกลุ่มอื่นๆมาก คนกลุ่มนั้นคือคนเบต้าอิสราเอลหรือคนยิวจากเอธิโอเปีย
4
คนเบต้าอิสราเอล(Beta Israel)หรือที่ในภาษาอารามาอิกเรียกว่าฟาลาช่า(Falasha) ซึ่งแปลว่าคนนอก การเคลื่อนไหวหรือลี้ภัย พวกเขามีที่มาที่ยังไม่แน่ชัด แต่มีอยู่ 4 ทฤษฎีหลักๆคือ 1.คนเบต้าสืบเชื้อสายมาจากเผ่ายิวดาน หนึ่งใน 10 เผ่าศักดิ์สิทธิ์ที่ปรากฏอยู่ในคำภีร์ไบเบิล 2. คนเบต้าอิสราเอลสืบเชื้อสายจากกลุ่มคนยิวที่แยกตัวลงใต้ เพื่อให้คนยิวอียิปต์ข้ามทะเลแดงไปเยรูซาเลมได้ 3.คนเบต้าอิสราเอลเป็นผู้อพยพมาจากเยเมน และ 4.ตามการกล่าวอ้างของพวกเขาเอง ชาวเบต้าอิสราเอลสืบเชื้อสายมาจากเมเนลิกที่ 1ซึ่งเป็นลูกราชินีเชบาและกษัตริย์โซโลมอน
ไม่ว่าพวกเขาจะมาจากไหน คนเบต้าอิสราเอลก็ได้สร้างครอบครัวกับคนท้องถิ่นและอาศัยอยู่ในเอธิโอเปียอย่างสงบเรียบร้อย จนกระทั่งราชวงศ์อัคซุมเปลี่ยนไปนับถือศาสนาคริสต์ในศตวรรษที่ 4 ทำให้พวกเขาเจอการกดขี่อย่างหนัก จนต้องลี้ภัยไปอยู่ที่ทะเลสาบทานาทางตอนเหนือของเอธิโอเปีย ซึ่งต่อมาพวกเขาได้สร้างอาณาจักรเบต้าอิสราเอลที่แข็งแกร่งที่นั้น พร้อมประชากรอีกเกือบราวแสนคน อาณาจักรเบต้าอิสราเอลของพวกเขาอยู่มาได้นานถึงศตวรรษที่ 17 ก็ถูกจักรพรรดิ์ซุเซนยอสแห่งราชวงศ์โซโลมอนิคปราบจนราบคาบ ทำให้ต้องสูญเสียที่ดินและภาษาอะเกาดั้งเดิมที่ใช้มาเป็นพันปี
ในศตวรรษที่ 19 ชาวเบต้าอิสราเอลต้องเผชิญกับภาวะขาดแคลนอาหาร โรคระบาดและการบังคับให้เปลี่ยนมานับถือคริสต์ ทำให้จำนวนประชากรลดลงมาเหลือเพียง 60,000 คน
ในปีค.ศ.1867 โจเซฟ ฮาเลวี(Joseph Halevi) นักประวัติศาสตร์ชาวยิวฝรั่งเศสได้มาเยี่ยมหมู่บ้านเบต้าอิสราเอล นับเป็นครั้งแรกที่มีหลักฐานว่าชาวยิวยุโรปรับรู้ถึงการมีอยู่ของชาวยิวเอธิโอเปีย ต่อมาในปี 1932 ชาควิส เฟตโลวิช(Jacques Faitlovich) ลูกศิษย์ของโจเซฟได้เข้ามาช่วยชาวเบต้าอิสราเอลโดยการเปิดโรงเรียนให้พวกเขาในเมืองแอดดิส อาบาบา เมืองหลวงเอธิโอเปียและสร้างสายสัมพันธ์กับชุมชนชาวยิวทั่วโลกให้ นับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ศตวรรษที่ 4 ที่พวกเขากลับมาติดต่อชาวยิวภายนอกอีกครั้ง
1
ดร.ชาควิส เฟตโลวิช
ในปีค.ศ.1984 รัฐบาลอิสราเอลได้เริ่มปฎิบัติการโมเสสและปฎิบัติการโซโลมอนเพื่อช่วยอพยพชาวเบต้าอิสราเอลประมาณ 45,000-60,000 คนจากภัยสงครามและความลำบากยากแค้น โดยเหลือคนเบต้าอิสราเอลในเอธิโอเปียประมาณ 4,000 พันคนเท่านั้นในปัจจุบัน
ชาวเบต้าอิสราเอลที่ได้ย้ายมาอิสราเอลประสบปัญหาในการปรับตัวเป็นอย่างมากจากหลายเหตุผลเช่นการต้องย้ายจากสังคมชนบทที่ทำเกษรตกรรมในแอฟริกามาสังคมเมืองแบบตะวันตก ปัญหาด้านภาษาที่ต้องใช้ภาษาฮิบรูว์ที่ซึ่งชาวเบต้าอิสราเอลไม่รู้เพราะคำภีร์โทราห์ของพวกเขาเขียนด้วยภาษา Ge’ez ภาษาเก่าแก่ในเอธิโอเปีย ปัญหาการเหยียดผิวเหยียดเชื้อชาติและปัญหาด้านศาสนาอีกด้วยเพราะการแยกตัวออกจากสังคมยิวอื่นๆทำให้นิกายยิวเฮย์มาน็อต(Haymanot)ของพวกเขาค่อนข้างแตกต่างกับยิวนิกายอื่นที่ได้รับอิทธิพลจากทางยุโรป เพราะปัญหาทางด้านสังคมเหล่านี้ส่งผลให้สถานะทางเศรษฐกิจของพวกเขาต่ำกว่าค่าเฉลี่ย มีการอยู่กระจุกกันในแหล่งเสื่อมโทรมของตัวเมืองและอัตราการว่างงานที่สูง มีงานวิจัยในปี 2011 ออกมาว่าเด็กมัธยมปลายชาวเบต้าอิสราเอลเพียง 13% เท่านั้นที่รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนอิสราเอลจริงๆ ยังไงก็ตามจากการที่ชาวเบต้าอิสราเอลไปเข้าร่วมการเป็นทหารจำนวนมากก็ทำให้ได้ใกล้ชิดกับชาวยิวกลุ่มอื่นๆ มากขึ้นและอาจทำให้พวกเขาได้รับการยอมรับในสังคมมากขึ้นในอนาคตก็เป็นได้
1
โฆษณา