ปรับระบบเผาผลาญ ลดน้ำหนักง่ายๆ แค่กินอาหารตามกรุ๊ปเลือด
หลายๆ คนอาจจะไม่เคยรู้ ว่ากรุ๊ปเลือดที่ต่างกันจะส่งผลให้ระบบการทำงานภายในร่างกายแตกต่างกันไปตามกรุ๊ปเลือด ซึ่งการจะลดน้ำหนัก หรือเลือกกินอาหาร นั้น ควรเลือกให้เหมาะหรือสมดุลกับกรุ๊ปเลือด เพราะจะช่วยให้ร่างกายมีความสมดุลมากขึ้นด้วย แถมน้ำหนักยังลดได้ด้วย!!!
โดยในร่างกายเรามีกลุ่มเลือดหลักอยู่ คือ เอ บี โอ และเอบี โดยในเม็ดเลือดของเราจะมีโปรตีนแอนติเจน (Antigen) และในหมู่เลือดของมนุษย์จะมีหมู่เลือดที่เราคุ้นเคยและรู้จักกันดีอยู่ 2 ระบบ คือ
ระบบ ABO (เอบีโอ) คือหมู่เลือดที่แบ่งเป็นเอ บี โอ และเอบี ซึ่งคนไทยส่วนมากจะอยู่ในหมู่เลือดโอ
ระบบ Rh (อาร์เอช) จะแบ่งเป็น Rh (+) (อาร์เอชบวก) และ Rh (-) (อาร์เอชลบ) ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่ที่มีหมู่เลือดอาร์เอชบวก มีเพียงประมาณ 03% ของประชากรทั้งหมดที่จะมีหมู่เลือดอาร์เอชลบ
การกินอาหารตามกรุ๊ปเลือด
เป็นการศึกษาของ Dr.Perer J.D'Adammo ซึ่งได้รับรางวัลแพทย์ธรรมชาติบำบัดยอดเยี่ยมจากอเมริกา ปี 1990 เขาใช้เวลาในการศึกษาเรื่องนี้มานานกว่า 30 ปี จนได้ข้อสรุป และเขียนเป็นหนังสือ Eat Right for your Type
ซึ่งเขาได้อธิบายว่า เลือดแต่ละกรุ๊ปมีสารเคมีในเลือดแตกต่างกัน แต่จะมี Antigen เป็นตัวกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ซึ่งอาหารทุกชนิดล้วนมีโปรตีนซึ่งเป็นอนุมูลอิสระ มีคุณสมบัติเหนียว สามารถจับเกาะติดเลือดเรียกว่า "เล็คติน" ถ้าการกินอาหารที่มีเล็คตินไม่เหมาะสมกับเลือดเรา เล็คตินเหล่านั้นยังเข้าไปรบกวนการทำงานของระบบย่อยอาหาร การสร้างอินซูลิน การเผาผลาญอาหาร และความสมดุลของฮอร์โมน
หลายคนที่เอาหลักการนี้ไปแล้วลองทำอาหารทานเองต่างบอกว่า เขาน้ำหนักลดลง ไปกินอาหารนอกบ้านก็ไม่ลำบาก เพราะเราสามารถเอาหลักการกินตามกรุ๊ปเลือดไปปรับใช้
กรุ๊ป A นักมังสวิรัติดีๆ นี่เอง
คนเลือดกรุ๊ปนี้ส่วนใหญ่จะมีกรดในกระเพาะต่ำ ทำให้ระบบการย่อยไม่ค่อยดี ระบบภูมิคุ้มกันก็ไม่ดี มีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ และมะเร็ง
อาหารที่เหมาะกับกรุ๊ปเลือด
กินปลาอาทิตย์ละ 3-4 ครั้งเพื่อเสริมโปรตีน หลีกเลี่ยงปลาเนื้อขาว เช่น ปลาตาเดียว หรือปลาจะละเม็ด เพราะมีเล็คตินรบกวนระบบการย่อย หลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์ต่าง ๆ อาจกินได้นิดหน่อย เลือกดื่มนมถั่วเหลือง นมแพะ หรือโยเกิร์ตไขมันต่ำ แทนนมวัว กินไข่ได้บ้างเป็นครั้งคราว บรรดาตระกูลถั่วต่าง ๆ อาทิ เมล็ดฟักทอง เมล็ดทานตะวัน ถั่วลิสงที่มีเยื่อหุ้มบาง ๆ และถั่วเหลือง เหมาะกับคนเลือดกรุ๊ปนี้ สามารถกินข้าวกล้องหรือซีเรียลได้วันละ 1-2 ครั้ง ผักทั้งสด และสุกกินแล้วดีโดยเฉพาะหอมหัวใหญ่ และบร็อคโคลี มีสารแอนติออกซิแดนท์สูง แครอท ฟักทอง ผักโขม และกระเทียม ช่วยกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกัน
กินผลไม้แทบทุกชนิด ยกเว้นแตงโม แคนตาลูป มะม่วง มะละกอ กล้วย ส้ม เพราะย่อยยาก
พวกชาสมุนไพรจะไปเพิ่มกรดในกระเพาะ ไวน์แดงดื่มได้ แต่ควรเลี่ยงเบียร์ และน้ำอัดลม
เลือดของคนกรุ๊ปเอค่อนข้างเหนียวข้น เมื่อรับประทานเนื้อสัตว์และไขมันเข้าไปจะยิ่งเพิ่มความข้นของเลือดทำให้เลือดไหลเวียนช้า หัวใจก็ทำงานหนักมากขึ้น และมีโอกาสเสี่ยงสูงต่อการเป็นโรคหัวใจ มะเร็งและเบาหวาน นอกจากนี้กระเพาะของคนกรุ๊ปเอยังมีกรดต่ำ รับประทานโปรตีนแล้วไม่ย่อย ถ้าจะให้ดีควรเป็นนักมังสวิรัติเพื่อลดน้ำหนักและสร้างภูมิต้านทานให้ร่างกายแข็งแรง
กรุ๊ป B อ้วนง่าย
คนที่มีเลือดกรุ๊ปนี้ ส่วนใหญ่มีปัญหากับไวรัส และภูมิคุ้มกันบกพร่อง ระบบประสาทไม่ค่อยดี ชอบปวดตามข้อ ซึ่งไม่ใช่อาการของเกาต์หรือรูมาตอยด์ มีโอกาสเกิดโรคแผลในสมอง (sclerosis) หรือโรคแพ้ภูมิตัวเอง
อาหารที่เหมาะกับกรุ๊ปเลือด
เนื้อกระต่าย กวาง แกะ ไก่งวง ควรกินปลาน้ำลึก เช่น ปลาหิมะ และปลาเนื้อขาว อย่างปลาจะละเม็ด ปลาตาเดียว หลีกเลี่ยง เนื้อหมู ไก่ หอยเชลล์ กุ้ง ปู หอยแครง เพราะจะรบกวนระบบในร่างกาย สามารถกินนม เนย ไข่ ในปริมาณที่เหมาะสมได้ ข้าวโอ๊ต และข้าวกล้องดีต่อคนเลือดกรุ๊ปนี้
ขณะที่แป้งสาลี ถั่วลิสง และโฮลวีท ไม่ดีต่อระบบเผาผลาญของร่างกายทำให้อ้วนและไม่ดีต่อเลือด อาจเป็นสาเหตุของโรคเส้นโลหิตแตกควรลองแป้งสเปลท์ (spelt) ซึ่งเป็นแป้งที่มีคุณค่าทางสารอาหาร และมีไฟเบอร์สูง
ผักใบเขียวทุกชนิดกินดีหมด เพราะมีแมกนีเซียมช่วยป้องกันอาการผื่นคัน
แต่ถ้าอยู่ระหว่างไดเอ็ทควรหลีกเลี่ยงมะเขือเทศ และข้าวโพด เพราะมีผลต่อการสร้างอินซูลิน และระบบเผาผลาญ
กินผลไม้ได้แทบทุกชนิด ยกเว้น ลูกพลับ ทับทิม และลูกแพร์ ชาสมุนไพรที่ให้ประโยชน์คือ ขิง เปปเปอร์มิ้นต์ โสม ชาเขียว
เลือดคนกรุ๊ปบี มีความสมดุล คือไม่ข้นหรือเหลวเกินไป จึงสามารถเลือกรับประทานอาหารได้หลากหลายครอบคลุมทุกหมู่ รวมทั้งสามารถดื่มนมได้ไม่มีปัญหา และไม่มีแนวโน้มจะเป็นโรคมะเร็งหรือโรคหัวใจเหมือนกรุ๊ปเอ
อย่างไรก็ดี คนกรุ๊ปบีจำเป็นต้องเลิกกินข้าวโพดของโปรดเพราะเป็นตัวการทำให้น้ำหนักขึ้นง่ายกว่าอาหารอย่างอื่น
กรุ๊ป O High Protein
ปัญหาของคนเลือดกรุ๊ปนี้คือ กระเพาะมีความเป็นกรดสูง สามารถย่อยอาหารจำพวกเนื้อได้ดีกว่าเลือดกรุ๊ปอื่น แต่ระบบการเผาผลาญไม่ค่อยดี ระดับฮอร์โมนไทรอยด์ไม่ค่อยคงที่ จึงทำให้อ้วนง่าย ตามติดมาด้วยปัญหาเลือดแข็งตัวช้า
อาหารที่เหมาะกับกรุ๊ปเลือด
คนเลือดกรุ๊ปโอสามารถเลือกกินเนื้อได้ตามใจชอบ กินอาหารทะเลได้เป็นประจำ เพื่อป้องกันโรคเลือดไม่แข็งตัว และไทรอยด์
แต่ระวังเรื่องไขมันและโคเรสเตอรอลด้วย กินนม เนย ไข่ในปริมาณที่พอเหมาะ ถ้าอยากผอมต้องเลี่ยงแป้งสาลี ข้าวโอ๊ต และบรรดาถั่วต่าง ๆ ผัก กินได้แทบทุกชนิด โดยเฉพาะบร็อคโคลี ผักโขม มีวิตามินเคสูง ช่วยให้เลือดแข็งตัว
ส่วนผักตระกูลกะหล่ำควรหลีกเลี่ยงเพราะมีผลต่อไทรอยด์ เห็ดหอมและมะกอกดองทำให้เกิดอาการแพ้ มะเขือยาว และมันฝรั่งทำให้ปวดข้อ
ผลไม้กินได้แทบทุกชนิดโดยเฉพาะตระกูลเกรปฟรุต ตระกูลเบอร์รี่ (ยกเว้นแบล็คเบอร์รี่) ช่วยลดน้ำหนัก ควรเลี่ยงแคนตาลูป มะพร้าว ส้ม และสตรอเบอร์รี่ เพราะมีกรดสูงเกินไป ชา สมุนไพรที่ดีต่อสุขภาพ อาทิเปปเปอร์มินท์ Licorice Tea Parsley ฯลฯ ไม่ควรดื่มเบียร์ ชา กาแฟ เพราะจะเพิ่มกรดในกระเพาะให้หนักเข้าไปอีก
บางคนอาจจะเข้าใจมาตลอดว่าผักเท่านั้นที่เป็นหนทางสู่การเป็นเจ้าของรูปร่างที่ดีแต่แท้จริงแล้วคนเลือดกรุ๊ปโอเหมาะกับอาหารจำพวกเนื้อสัตว์เป็นอย่างยิ่ง คนเลือดกรุ๊ปโอนั้น จะมีระบบย่อยเนื้อแดงที่ดีมากเพราะมีความเป็นกรดสูง ทำให้ย่อยเร็วและดูดซึมดี และสามารถให้ประโยชน์สูงสุดต่อส่วนต่างๆของร่างกาย
ส่วนอาการเลือดไหลไม่หยุดเวลาเกิดแผล เป็นเพราะเลือดกรุ๊ปโอค่อนข้างเหลว การรับประทานอาหารที่มีวิตามินเค เช่น ตับ ไข่แดง คะน้า สปินิช ผัก Swiss chard และแป้งสเปลท์แทนแป้งสาลี จะสามารถช่วยปัญหาเลือดแข็งตัวช้าได้
นอกจากนี้ยังมีปัญหาระดับฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำ ซึ่งส่งผลกระทบต่อระบบเมแทบอลิซึมโดยตรงจึงทำให้น้ำหนักเธอถึงขึ้นง่ายกว่าคนอื่น
กรุ๊ปโอเป็นกรุ๊ปเลือดที่มีวิตามินมากพออยู่แล้ว เพียงแต่อาจจะมีปัญหาที่จะเกี่ยวกับระบบ metabolism บ้าง จึงควรรับประทานอาหารที่มีไวตามินบี เช่น เนื้อ ตับ เซี่ยงจี๊ ไข่ 5ฟอง/อาทิตย์ ผลไม้ ผักใบเขียวและถั่ว ซึ่งเป็นชนิดที่เหมาะกับเลือดกรุ๊ปโอ หรือเสริมด้วย ไวตามิน บี-คอมเพล็กซ์
ระบบย่อยของคนเลือดกรุ๊ปโอ ไม่รับแคลเซียมจากผลิตภัณฑ์นม จึงต้องหาแคลเซียมจากที่อื่นทดแทนซึ่งนั่นก็ได้แก่ ปลาซาร์ดีน หรือ ปลาแซลมอนกระป๋องทั้งก้าง บร็อคโคลี่ และผักcollard green
สำหรับเด็ก ที่อายุ 2-5 ขวบ และ 9-16 ขวบ รวมทั้งผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนอาจต้องเพิ่มแคลเซียมเสริม 600-1,100 มิลลิกรัม และเพื่อเป็นการป้องกันการอักเสบในส่วนต่างๆของร่างกายด้วย
อาหารอีกชนิดที่คนเลือดกรุ๊ปโอจะต้องรับประทานคือ อาหารทะเล เพราะอาหารทะเลนั้นจะให้ไอโอดีน เป็นการเพิ่มผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ซึ่งจะช่วยทำให้ควบคุมน้ำหนักของคนเลือดกรุ๊ปนี้ให้คงที่ เพราะถ้าหากไทรอยด์ไม่คงที่จะทำให้อ้วนได้ง่าย
น้ำผลไม้ที่ดี คือ น้ำสับปะรด จะช่วยอุ้มน้ำของเซลล์ในร่างกาย หรือน้ำแบลคเชอรี่ ถือว่าเป็นน้ำที่ดีกับเลือดกรุ๊ปโอมาก เพราะเป็น High alkaline juice ทำให้ลดการระคายเคืองของกระเพาะได้
กรุ๊ป AB มังสวิรัติ และคาร์โบไฮเดรต
กรุ๊ปนี้เป็นการผสมผสานระหว่างกรุ๊ปเลือด A กับ B ดังนั้นวิธีการกินที่เหมาะสมกับคนกรุ๊ปนี้เป็นการผสมผสานการกินมังสวิรัติหน่อย ๆ กับการกินแบบกรุ๊ปบีนิด ๆ คนที่มีเลือดกรุ๊ปนี้มีจุดอ่อนเรื่องสุขภาพอยู่ที่ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ และกรดในกระเพาะต่ำ
อาหารที่เหมาะกับคนกรุ๊ปเอบี
ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง และเต้าหู้ สามารถกินเนื้อแกะ กวาง กระต่าย และไก่งวงได้นิดหน่อย ไม่ควรกินปลาเนื้อขาว และแซลมอนรมควัน เพราะย่อยยากและเป็นพิษต่อระบบทางเดินอาหาร
สามารถกิน นม เนย ไข่ และโยเกิร์ตไขมันต่ำได้ จำพวกข้าว ข้าวโอ๊ต ข้าวไรย์มีประโยชน์ต่อร่างกาย
แต่ควรงดเว้นการกินถั่วแดง งา เมล็ดฟักทอง เมล็ดทานตะวัน ข้าวโพด เพราะจะชะลอการทำงานของอินซูลิน ทำให้น้ำตาลในเลือดลดลงเฉียบพลัน ผักสดกินได้แทบทุกชนิด ช่วยป้องกันมะเร็ง และโรคหัวใจ
ผลไม้กินได้ดีเป็นบางอย่าง อาทิ องุ่น พลัม ตระกูลเบอร์รี่ สับปะรด ส้มโอ ฯลฯ เพราะช่วยสร้างความสมดุลของกรดในเนื้อเยื่อ ไม่ควรกินกล้วย มะม่วง ฝรั่ง ส้ม
เลือดกรุ๊ปเอบีเป็นพวกลูกผสม จึงคล้ายกับกรุ๊ปเอ ตรงที่มีกรดในกระเพาะต่ำ ต้องรับประทานผักมาก ๆ แต่ในขณะเดียวกันก็เหมือนกรุ๊ปบี ตรงที่รับประทานเนื้อสัตว์ได้ ยกเว้นไก่แต่ต้องไม่บ่อยนัก
ระหว่างไดเอ็ท สามารถรับประทานข้าวและขนมปังได้บ้าง เพราะไม่ส่งผลให้น้ำหนักขึ้นง่ายเหมือนอย่าง กรุ๊ปโอ
อย่างไรก็ตาม หากใครต้องการจะดูแลสุขภาพโดยการกินอาหารตามแต่ละกลุ่มเลือดที่แนะนำให้ก็ไม่ใช่เรื่องน่าเสียหาย เพราะล้วนอยู่ในอาหารหลัก 5 หมู่ แต่ควรรับประทานตามความเหมาะสม ไม่มาก หรือน้อยจนเกินไป
Write With Proud💚
- 64
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
