25 เม.ย. 2021 เวลา 12:19 • ไอที & แก็ดเจ็ต
[SPARK REVIEW] รีวิว RK61 – Mechanical Keyboard ที่คุ้มค่าเกินราคา!
บทความที่แล้วผมได้รีวิว Mechanical Keyboard ตัวแรกไป เอาไว้ประจำใช้งานที่ออฟฟิศเวลาทำงาน และฟีลลิ่งในการพิมพ์และใช้งานดีมาก ไป ๆ มา ๆ เลยงอกมาอีกอันเอาไว้ใช้ที่บ้าน XD เนื่องจากตัวเดิมที่รีวิวไปของ Logitech นั้นเป็นแบบที่มีสาย รอบนี้ก็เลยอยากได้ทีเ่ป็นแบบไร้สายมาไว้ลองสักหน่อย ซึ่งก็เล็งๆไว้อยู่หลายตัว สุดท้ายมาจบที่ Royal Kludge 61 ซึ่งคะแนนรีวิวการใช้งานโอเค
ตัว Keyboard ที่ผมสั่งมาเป็นสีขาวแบบ Brown Switch คุณภาพงานประกอบดูแน่นหนาไม่ก๊อกแก๊ก และเนื่องจากเป็น Brown Switch เลยทำให้เสียงในการพิมพ์และความรู้สึกในการพิมพ์ต่างจากตัว Logitech Pro X อยู่พอสมควร ตัว Switch สามารถถอดเปลี่ยนได้ (Hot-Swappable) เป็น Gateron Mechanical Switch สามารถใส่กับ Cherry MX ได้เช่นกัน ผมลองสลับ Switch ใช้งานกับ Logitech Pro X ก็สามารถใช้งานได้ไม่มีปัญหา ในกล่องมีที่แกะ Keycap และ Switch มาให้พร้อมกับ Switch spare อีก 4 ตัว, เอกสารคู่มือการใช้งาน และสาย USB Type C
ด้านล่าง Switch เป็นไฟ LED ที่สามารถเปลี่ยน Pattern ได้หลากหลายตามชอบ สามารถกดปุ่ม Fn กับ “\” เพื่อเปลี่ยน Pattern หรือสามารถโหลด Software จาก Royal Kludge เพื่อตั้งค่าจากโปรแกรมได้ ตั้งค่าได้ทั้งไฟ LED และปุ่มมาโคร
ด้านล่างเป็นปุ่มเปิด-ปิด Bluetooth การตั้งค่าเชื่อมต่อ Bluetooth ก็ทำได้ง่ายมาก แค่เปิดสวิทช์ด้านล่างแล้วกด Fn + Q หรือ W หรือ E เพื่อเชื่อมต่อได้ (สามารถเชื่อมต่อได้สูงสุด 3 device คือ Q/W/E ทีละอัน) บริเวณด้านบนของ Keyboard เป็น Port USB Type C ที่เอาไว้ชาร์จแบตหรือเชื่อมต่อ Keyboard แบบสายได้
ไฟ LED สวยงาม ชัดเจน ข้อสังเกตอย่างนึงของรุ่นนี้คือเป็น Keyboard แบบ 60% ซึ่งไม่มีทั้ง Arrow Key และ Num Pad แต่บริเวณมุมล่างขวา มี Arrow Key ซ่อนอยู่ ซึ่งสามารถกดใช้งานได้เลย แล้วเวลาจะพิมพ์เครื่องหมาย Slash “/” ก็ทำได้โดยการกด Fn ด้วย (Layer 2)
ระยะเวลาการใช้งานใน mode Bluetooth ผมยังไม่ได้ลองทดสอบ ประเด็นนี้หลังจากทดสอบใช้งานไประยะเวลาหนึ่งแล้วเดี๋ยวจะมาอัพเดทให้ทราบกันครับ
โดยรวมแล้วถือว่าเป็น Keyboard ที่คุ้มราคา คุณภาพวัสดุและงานประกอบแพงเกินราคา ถึงแม้ว่าจะเป็น Layout แบบที่ไม่มี Num Pad และ Arrow Key แต่ก็เป็น Layout มาตรฐานของ Laptop 13 นิ้ว ทำให้ปรับตัวกันได้ไม่ยากเลย (ผมใช้ Laptop 17 นิ้วที่มี Num Pad เลยใช้จนชิน ต้องใช้เวลาปรับตัวนิดหน่อย)
ใครที่ตัดสินใจที่จะซื้อ ถ้าอยากได้แบบ Hot-Swappable (ถอดเปลี่ยน Switch ได้) ก็ต้องดูดี ๆ หน่อยนะครับ เพราะรุ่นนี้มีทั้งแบบที่ถอด Switch ได้และถอดไม่ได้ แต่ถ้าไม่ซีเรียสเรื่องนี้ก็จัดได้เลยครับ
อยากทราบข้อมูลอะไรเพิ่มเติมสอบถามใน comment ได้เลยคร้าบบ
โฆษณา