25 เม.ย. 2021 เวลา 13:16 • ไอที & แก็ดเจ็ต
[SPARK REVIEW] รีวิว SIMBOX – เพื่อนรัก นักเดินทาง
เพื่อนๆหลายคนอาจจะเคยไปเที่ยวต่างประเทศ แล้วต้องปวดหัวกับการจัดการติดต่อสื่อสารกลับประเทศไทย ที่จะต้องทำการเปิด Roaming หรือโทรผ่าน App ต่างๆ (เช่น โทร Line) ซึ่งสร้างความลำบากขณะเดินทางพอสมควร แถมถ้าเปิด Roaming แล้ว ตอนรับสายก็ยังเสียเงินค่ารับสายในต่างประเทศอีก โดนทั้งคนโทร โดนทั้งคนรับสาย เจ็บๆทั้งสองฝ่าย…
วันนี้เราจึงขอนำเสนอเจ้าอุปกรณ์ที่จะมาแก้ปัญหานี้ นั่นก็คืออุปกรณ์ที่เรียกว่า GlocallMe SIMBOX!! อุปกรณ์นี้ทำให้เราเข้าถึง Sim Card ของเราได้ผ่าน Internet โดยผ่าน App ใน iOS และ Android ซึ่งสามารถที่จะทำการโทร รับสาย รับ-ส่ง ข้อความ ได้เหมือนเสียบ Sim อยู่ในเครื่องมือถือเราเลย!
นั่นก็แปลว่า ขอแค่เราสามารถต่อ Internet จากมือถือเราได้ ไม่ว่าจะเข้าถึง Internet จากทางไหน (Wifi, Mobile Data) จากที่ไหนบนโลก ก็สามารถโทรออก หรือรับสาย ได้เหมือนอยู่ในไทย! โดยอัตราค่าโทรคิดตามปกติเหมือนอยู่ในไทยเลย!
แผนภาพแสดงการทำงานของ SIMBOX
ซึ่งการใช้เจ้าเครื่องนี้ เราต้องเอาเครื่อง SIMBOX นี้ไว้ที่บ้าน และต้องมีไฟเลี้ยงตลอดเวลา และมี Internet ผ่านสาย LAN เพื่อให้เครื่องนี้ต่อ Sim ของเราเข้าสู่ Internet ได้ครับ
มาดูหน้าตาของตัวเครื่องกันก่อน ตัวเครื่องนี้ชื่อ SIMBOX เปิดกล่องมาก็จะเจอ
- คู่มือ ภายในมีถาดแปลงจาก nanoSim เป็น microSim 4 อัน
- ตัวเครื่อง SIMBOX
- Power Adapter พร้อมสาย Micro USB
- สาย LAN
มาเป็นกล่องกระดาษแข็ง เป็นภาษาจีนหมดเลย
คู่มือก็มาเป็นภาษาจีนครับ มี quick manual ภาษาอังกฤษให้หนึ่งแผ่น
ตัวเครื่อง SIMBOX มาพร้อมกับ Sim Slot 4 ช่อง, 1 Port MicroUSB สำหรับเสียบไฟเลี้ยง และ 1 Port RJ45 สำหรับต่อ Internet ผ่านสาย LAN เข้าตัวเครื่อง
วิธีการใช้ก็ไม่ยาก ให้ทำการโหลดแอป GlocalMe Call ก่อนครับ ผ่านทาง App Store หรือ Play Store หรือจะ Scan QR Code จากคู่มือที่ให้มาก็ได้เช่นกัน
จากนั้นก็สมัคร account โดยใช้เบอร์มือถือเราครับ ทำการเลือกรหัสประเทศเรา ประเทศไทยคือ 66 และกรอกเบอร์ โดยไม่ต้องใส่ 0 เช่นถ้าเบอร์ 0899999999 ก็กรอกแค่ 899999999 จากนั้นเมื่อกดสมัครจะมี SMS OTP มายืนยันให้เรากรอกตัวเลขที่ได้รับจากข้อความลงไปในแอปตอนสมัคร เพื่อยืนยันว่าเป็นเบอร์ของเราจริงๆ
เสร็จแล้วก็ปิดมือถือ จัดแจงเอา Sim card ออกมาใส่เครื่อง SIMBOX และทำการต่อไฟและต่อสาย Internet LAN เพื่อให้เครื่อง online ซึ่งเครื่องจะมีสัญญาณไฟ LED บอก ถ้าต่อไม่ได้ก็จะเป็นสีแดง ถ้าต่อสำเร็จก็จะเป็นสีเขียว
เสร็จแล้ว ก็ทำการเชื่อมต่อ account เราเข้ากับตัวเครื่อง โดยเปิดแอปแสกนผ่าน QR Code ที่ติดอยู่ใต้กล่อง SIMBOX ของเรา หรือจะกรอก Serial ของเครื่องเองแบบ Manual ก็ได้เช่นกัน
ใต้เครื่องจะมี Serial Number ของ SIMBOX อยู่ ทำการ scan QR Code จากในแอปเพื่อเชื่อมต่อได้ทันที
เสร็จแล้ว!!
เมื่อทำการเชื่อม account เราเข้ากับ SIMBOX ได้สำเร็จ ก็จะปรากฏเบอร์ของเราอยู่ในแอป โดยเราสามารถทำการโทรออก รับสาย รับ-ส่งข้อความผ่าน App GlocalMe Call ได้เหมือนกับใช้แอปในเครื่องเลย
หาก Sim สามารถต่อและใช้งานได้ตามปกติก็จะขึ้น SIM enabled และโชว์ระดับสัญญาณ
หน้าจอของ App ขณะทำการโทรออก/รับสาย
เข้ามาใน contact ตอนแรก สำหรับบางคนอาจพบว่ารายชื่อผู้ติดต่อในแอปยังว่างอยู่ เนื่องจาก App ดึงรายชื่อผู้ติดต่อจาก Sim card หากเราไม่เคยคัดลอกข้อมูลไปไว้ใน Sim card ก็จะทำให้ไม่มีข้อมูลตรงนี้ แต่เราสามารถทำการ import รายชื่อเข้ามาใน App ได้ครับ เพื่อความสะดวกในการใช้งาน
โดยเครื่อง SIMBOX นี้สามารถใส่ SIM ไว้ได้สูงสุด 4 Sim แต่สามารถทำการ Standby ได้พร้อมกัน 2 Sim รวมกับในเครื่องมือถือเราอีก 1 Sim ทำให้เราสามารถใช้งานได้พร้อมกันสูงสุด 3 Sim ครับ
จากที่ทดลองใช้มาประมาณสองอาทิตย์ พบว่ามีข้อดีและข้อสังเกตอยู่หลายอย่างดังนี้ครับ
ข้อดี
- สามารถโทรออกและรับสายได้ผ่าน Internet
- สามารถ Standby ได้ 2 Sim พร้อมกัน หรือถ้าต้องการมากกว่านั้น ซื้อเครื่องเพิ่มและ bind device เพิ่มได้
- ถ้าโทรศัพท์หาย ไม่ต้องกลัวเบอร์จะหายไปด้วย ไม่ต้องเสียเวลาไปขอ Sim ใหม่
- สามารถบันทึกเสียงสนทนาได้ผ่าน App
ข้อสังเกต
- มีอาการ delay ของเสียงระหว่างสนทนาอย่างสังเกตได้
- ถ้าที่บ้านที่เอากล่องวางไว้ไฟดับหรือเน็ตหลุด จะไม่สามารถติดต่อผ่าน Sim ที่ใส่ไว้กับเครื่องได้เลย
- USSD Code ยังไม่สามารถใช้งานได้ เช่น *121# เพื่อเช็คยอดเงินคงเหลือของ AIS 12Call
- ถ้า Internet ของเครื่อง Simbox หรือของมือถือเราไม่ดี สัญญาณเสียงจะขาดหายไปบางช่วง
- ถ้าใช้ smartwatch เวลามีสายเข้าจะไม่แจ้งเตือน (ทดสอบด้วย Huawei Band 3 Pro , Xiaomi Amazfit Pace)
สรุป
เครื่อง SIMBOX นี้น่าจะเหมาะกับคนที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศเป็นประจำ และจำเป็นต้องมีการติดต่อกลับประเทศอยู่บ่อยๆในระหว่างที่เดินทาง โดยสามารถรับสายได้ด้วย ส่วนใครที่ไม่ได้เดินทางบ่อยขนาดนั้น การเลือกใช้มือถือ 2 Sim หรือ App ในการโทรของ Operator จะตอบโจทย์มากกว่าหากต้องการใช้หลายๆเบอร์พร้อมกัน
โฆษณา