26 เม.ย. 2021 เวลา 01:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ
“มือใหม่” บริหารเงินลงทุนอย่างไร ให้ไม่เจ็บตัว!
จากโพสต์ก่อนๆเรื่อง
“5Mindset ที่นักลงทุนต้องมี”
ผมมาสะดุดในเรื่องของ
“การจัดการเงินเท่าไหร่ดีเพื่อมาลงทุน??”
.
ก็เลยอยากทำโพสต์นี้ขึ้นมา
เล่าให้ลึกลงไปอีกครับว่า..
“ทำไมเราควรให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ให้มากๆ”
.
มือใหม่หลายคน
รวมถึงผมเมื่อก่อนจะมีความคิดที่ว่า
ถ้าเรามีเงินต้นสักล้านนึง
แล้วทำกำไรให้ได้แค่ 4%
เราก็ได้เงินแล้วตั้ง 40,000บาทแหนะ
.
ก็เลยหาวิธีที่จะเก็บเงินต้น
ให้ได้เยอะที่สุดเท่าที่จะเยอะได้
เพื่อเหตุผลเดียวคือ..
“ยิ่งมีเงินต้นเยอะเท่าไหร่ ยิ่งกำไรมากเท่านั้น”
.
จนลืมคิดอีกด้านหนึ่งไปว่า..
แล้วถ้าขาดทุนล่ะ??
.
จากที่จะได้กำไร 4เปอร์เซนต์ 40,000
กลายเป็นว่าขาดทุนหายไป 40,000 ซะงั้น
.
มากกว่านั้นคือ..
เมื่อเห็นแล้วว่าพอร์ตจะขาดทุน 40,000 แล้ว
แต่ไม่ยอม Cut Loss เพราะคิดว่า เดี๋ยวราคาก็กลับขึ้น
แค่เท่าทุนก็ยังดี กลับกลายเป็นว่า
ขาดทุนเพิ่มไปอีกเป็น 10% หายไป 100,000!
.
สุดท้ายเจ็บหนัก ท้อเพราะขาดทุน
แล้วหายออกไปจากตลาดในที่สุด
.
นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่า
ทำไมเราถึงต้องมีความรู้ก่อน
ถึงค่อยเริ่มลงทุนจริง
.
วิธีแก้นะครับ..
ถ้าจะเริ่มลงทุน ให้แบ่งเงิน 10%
จากรายได้ต่อเดือนเท่านั้น
ย้ำนะครับ “จากรายได้ต่อเดือนเท่านั้น”
.
ไม่ว่าคุณจะมีเงินเดือนน้อย หรือมาก
ก็ต้อง 10% เท่ากัน
และห้ามนำเงินเก็บ ที่เก็บมาทั้งชีวิต
เข้ามาเสี่ยงในขณะที่เรายังเป็นมือใหม่ “เด็ดขาด”
.
ให้เรามองในมุมที่ขาดทุน ก่อนการทำกำไร
ถ้าสมมุติว่าถ้า 10% นั้นหมดไป (ซึ่งแทบจะไม่เกิด)
เราก็ยังมีอีก 90% นั้นเลี้ยงชีพต่อ
โดยแทบไม่ได้รับผลกระทบใดๆ
.
คำถามคือ
“ทุนน้อยขนาดนี้ ละเมื่อไหร่มันจะรวย??”
ขอถามกลับว่า..
“คุณมั่นใจหรือยังว่าความรู้ที่มี
สามารถดูแลเงินที่เยอะมากกว่านี้ได้??”
..
ถ้ารู้ตัวแล้วว่ายังไม่มีความรู้
ให้หาความรู้อย่างตั้งใจและรู้จริง
และลองลงทุนแบบกระดาษ หรือเดโม่ก่อน
(ลงทุนเงินจำลอง)
.
เมื่อเริ่มเกิดทักษะแล้ว
ค่อยเริ่มแบ่งเงิน 10% จากเงินเดือนมาลงทุนจริง
แล้วตั้งโจทย์ให้กับตัวเองว่า
“ทำยังไงถึงจะขาดทุน ให้ได้น้อยที่สุด?”
.
แน่นอนว่า การขาดทุนในช่วงแรก
เป็นเรื่องปกติที่เราทุกคนต้องเจอ
(ถ้าไม่เจอก็ไม่น่าใช่การลงทุนแน่ๆ”
.
ให้เราคิดว่านั้นคือค่าคอร์สเรียน
ที่ได้จากประสบการณ์จริงครับ
.
เมื่อเราฝึกจนเกิดทักษะแล้ว
จาก “ขาดทุน” จะเริ่มกลับมา “เท่าทุน”
และเมื่อเราเกิดทักษะขึ้นอีก
จาก “เท่าทุน” จะกลายเป็น “กำไร”
.
แล้ว Step ถัดไปก็ขยายเงินทุน
ให้ค่อยๆใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
แบบค่อยๆก้าวไปทีละ Step
.
สรุปคือ..
อย่ารีบอยากรวยเร็ว เพราะถ้าเราจะรวยเร็ว
อีกด้านนึงก็สามารถ “จนเร็ว” ได้เช่นกัน
.
คนที่คิดจะเริ่มลงทุนเชื่อไหมว่า
เรา “รวย” ตั้งแต่เริ่มคิดแล้ว
ขอแค่ค่อยๆเป็น ค่อยๆไป
จะดีกับฐานะเราในระยะยาวมากกว่าเยอะครับ
.
กว่าเราจะเรียนจบ มาทำงานในที่ดีๆได้
เราต้องใช้เวลาเรียน สอบ ฝึกงาน
รวมแล้วใช้เวลา 4ปี
.
การลงทุนก็เช่นกัน
ถ้าเราไม่รีบ และศึกษาอย่างตั้งใจ
ยังไงปลายทางคุณสำเร็จได้แน่นอนนะครับ
.
หวังว่าโพสต์นี้จะเป็นประโยชน์ และเป็นกำลังใจ
กับเพื่อนๆมือใหม่ หรือคนที่เคยเจ็บหนักมาก่อน
.
ถ้าเห็นว่าบทความนี้เป็นประโยชน์
ฝากกดไลค์ และแชร์โพสต์นี้
ให้คนที่เราอยากให้เขามีความสุข
กับการลงทุนมากขึ้นนะครับ
.
แล้วเจอกันในโพสต์ต่อๆไปครับ
#Dinvestors
โฆษณา