26 เม.ย. 2021 เวลา 12:30 • กีฬา
เจาะลึก!! สูตรสำเร็จที่อาจจะทำให้ “เรือใบสีฟ้า” คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยที่ 7 ให้กับสโมสรในฤดูกาลนี้
Credit : https://thestandard.co/man-city-lift-epl-trophy-as-huddersfield-gain-precious-point/
รั้งไม่หยุดฉุดไม่อยู่จริงๆกับฟอร์มการเล่นอันร้อนแรงของแมนเชสเตอร์ซิตี้ในตอนนี้ ด้วยการเก็บชัยชนะอย่างต่อเนื่อง และการคว้าแชมป์คาราบาวคัพจากการชนะท็อตแน่มฮอทสเปอร์สด้วยสกอร์ 1-0 เมื่อคืนนี้ จนเป็นผลดีต่อทีมต้นสังกัด และยังทำให้นักเตะสามารถเล่นด้วยความมั่นใจได้อีกด้วย ซึ่งในพรีเมียร์ลีกตอนนี้ถือว่าพวกเขาแทบจะการันตีถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยที่ 7 ให้กับสโมสรไปแล้วก็ว่าได้ เพราะด้วยผลคะแนนที่นำห่างจากอันดับ 2 ไปมากพอสมควร และไม่มีมีท่าว่าฟอร์มการเล่นของพวกเขาจะแผ่วลงแม้แต่น้อย ซึ่งเหลืออีกเพียงไม่กี่นัดเราก็จะได้ทราบกันแล้วว่าทีมใดจะสามารถคว้าถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีกไปครองได้สำเร็จ แล้วด้วยเหตุผลใดทำไมพวกเขาถึงสามารถเล่นได้ยอดเยี่ยมขนาดนี้ วันนี้เราจะมาไขความลับสูตรสำเร็จในการเป็นตัวเต็งการคว้าแชมป์ของพวกเขากันครับ จะมีอะไรบ้าง ไปรับชมกันเลยครับ
ข้อแรกคือ “สมดุลของทีม” เรือใบสีฟ้าในตอนนี้นับว่าเป็นทีมที่มีสมดุลของทีมดีที่สุดในลีก ณ ตอนนี้เลยก็ว่าได้ ด้วยตัวผู้เล่นในแต่ละตำแหน่งที่มีความครบเครื่อง ประสบการณ์สูง และมีนักเตะในแต่ละตำแหน่งให้เลือกใช้ได้หลากหลาย ตั้งแต่ตำแหน่งของผู้รักษาประตูที่มีนายหน้าด่านสุดแกร่งจากบราซิลอย่าง Ederson Santana de Moraes ที่มีดีกรีเป็นถึงหนึ่งในผู้รักษาประตูของทีมชาติบราซิล และยังมีรางวัลติดตัวมากมาย เช่น การทำสถิติของGuinness World Recordsเตะบอลได้ระยะไกลที่สุด และเขาเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ทีมชาติบราซิลคว้าแชมป์ Copa América2019 อีกทั้งยังเป็นกำลังสำคัญในการคว้าชัยต่างๆให้กับเรือใบสีฟ้า ด้วยจังหวะการเข้าสกัดและการเซฟที่ยอดเยี่ยมของเขาทำให้เรือใบสีฟ้าในตอนนี้ไม่อาจขาดเค้าคนนี้ไปได้เลย หรือจะเป็นนายทวารมือ 2 อย่าง Zack Steffen ก็สามารถทำผลงานได้ดีเช่นกันในยามที่ Ederson ไม่อยู่
ต่อมาคือตำแหน่งของกองหลัง ตอนนี้แมนเชสเตอร์ซิตี้นั้นเต็มไปด้วยกองหลังที่เปี่ยมคุณภาพมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Kyle Walker, Rúben Dias, John Stones, Aymeric Laporte, Benjamin Mendy, João Cancelo, Eric García เป็นต้นซึ่งหลายๆคนมีดีกรีระดับเวิร์ลคลาส และมีประสบการณ์ในเวทียุโรปมามากมายเลยทีเดียว และพวกเขาเหล่านี้ก็มีส่วนสำคัญมากที่ช่วยให้ทีมเก็บชัยชนะมาได้ในหลายๆครั้ง ซึ่งด้วยกองหลังที่มีคุณภาพ และมีให้เลือกใช้หลายหลาก ทำให้ทีมไม่ต้องประสบปัญหาเมื่อมีกองหลังคนใดคนหนึ่งบาดเจ็บ ผิดกับหลายๆทีมที่กองหลังทำผลงานได้ไม่ดี และมีอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่บ่อยครั้งจนทำให้ฟอร์มการเล่นไม่คงเส้นคงวา และทำให้เสียโอกาสในการคว้าชัยชนะไปในที่สุด และตำแหน่งต่อมาคือตำแหน่งของเหล่ากองกลางที่คอยเป็นตัวขับเคลื่อนให้กับทีม ไม่ว่าจะเป็นเกมรับหรือเกมรุกพวกเขาเหล่านี้ก็สามารถทำมันได้ดีและทำได้อย่างสม่ำเสมออีกด้วย ซึ่งแดนกลางของเรือใบสีฟ้านั้นประกอบไปด้วยนักเตะคุณภาพดี ดีกรีทีมชาติ และยังมีดาวรุ่งฝีเท้าดีอีกหลายคน อาทิ İlkay Gündoğan, Phil Foden, Fernandinho, Bernardo Silva, Rodri, Oleksandr Zinchenko รวมไปถึงเพลย์เมคเกอร์คนสำคัญของทีมที่แอสซิสอย่างถล่มทลาย และเป็นตัวขับเคลื่อนเกมรุกของทีมในทุกๆฤดูกาลอย่าง Kevin De Bruyne พวกเขาเหล่านี้เป็นส่วนสำคัญของทีมอย่างมากด้วยแดนกลางที่กัดไม่ปล่อย คอยสกัดเกมรุกฝ่ายตรงข้ามได้อย่างแม่นยำ อีกทั้งเกมสวนกลับหรือเกมรุกนั้นพวกเขาก็สามารถจ่ายบอลได้อย่างแม่นยำ และประสานงานกันได้เป็นอย่างดี ทำให้พวกเขาเหล่านี้เป็นกำลังสำคัญในการป้องกันประตู อีกทั้งยังช่วยผลิตประตูให้กับทีมไปไม่น้อยเลยทีเดียว
และสุดท้ายคือตำแหน่งศูนย์หน้า ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งปีก หรือกองหน้าตัวเป้า แม้ทีมจะขาดกองหน้าคนสำคัญอย่าง Sergio Agüero ไปนานหลายเดือน แต่ด้วยศักยภาพของนักเตะในทีม และด้วยการประสานงานของแนวหน้า รวมถึงเคมีที่เข้ากันของคนในทีม ทำให้พวกเขาสามารถสร้างสรรค์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมแม้ว่าจะขาดกองหน้าคนสำคัญไปก็ตาม ด้วยแข้งที่มากประสบการณ์และเต็มไปด้วยทักษะฟุตบอลอันยอดเยี่ยม ทำให้พวกเขาสามารถผลิตสกอร์ให้กับทีมอยู่ตลอดเวลาที่ได้ลงเล่นให้กับต้นสังกัด ไม่ว่าจะเป็น Raheem Sterling, Gabriel Jesus, Ferran Torres และ Riyad Mahrez แม้ไม่มีStrikerคนสำคัญ แต่พวกเขาเหล่านี้ก็ยังสามารถทำหน้าที่ของตนเองได้ดี สามารถเจาะทะลวงปราการหลังของทีมต่างๆและทำประตูไปมากมาย และทั้งหมดที่กล่าวมานั่นคือส่วนหนึ่งของเหตุผลที่ว่าทำไมแมนเชสเตอร์ซิตี้ถึงอาจจะสามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในสมัยนี้ไปครองได้อีกหน
1
ข้อต่อมาคือ ผู้จัดการทีมหรือโค้ชที่มีประสบการณ์สูง และมีผลงานการคุมทีมอันยอดเยี่ยมของชายที่ชื่อว่า “เปป กวาร์ดิโอลา (Pep Guardiola)” ด้วยประสบการณ์การคุมทีมต่างๆ และการที่เขาเคยเป็นนักเตะแดนกลางผู้คอยเชื่อมเกมให้กับทีมต่างๆมาอย่างยาวนาน ทำให้เซ้นบอลของเขาไม่ว่าจะเป็นการมองรูปเกม การเลือกแท็คติก การเลือกนักเตะ รวมถึงไหวพริบ และการตัดสินใจได้อย่างเฉียบขาดของเขา นั่นเป็นส่วนสำคัญมากที่ทำให้ชายคนนี้พาทีมยักษ์ใหญ่คว้าแชมป์มาครองนับครั้งไม่ถ้วนไม่ว่าจะเป็น บาร์เซโลนา หรือบาเยิร์นมิวนิก ที่ตลอดระยะเวลาการคุมทีมของเขานั้นเขาได้ทำผลงานช่วยให้ทีมเหล่านี้คว้าชัยชนะและเป็นแชมป์ในรายการต่างๆมามากมายกันเลยทีเดียว และนับตั้งแต่ที่เขาย้ายมาคุมทีมแมนเชสเตอร์ซิตี้ เขาก็ไม่เคยทำให้แฟนบอล หรือนักเตะ รวมไปถึงบอร์ดบริหารผิดหวังเลยแม้แต่น้อย ด้วยบุคลิกสุขุมรอบคอบของเขา และไหวพริบในด้านฟุตบอล ทำให้เขาประสบความสำเร็จกับเรือใบสีฟ้าได้อย่างรวดเร็ว ด้วยการพาเรือใบสีฟ้าคว้าถ้วยรางวัลในรายการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น แชมป์พรีเมียร์ลีก ในปี 2017-2018 และ2018-2019, อีเอฟแอลคัพ ชนะเลิศในปี 2017-2018, 2018-2019 และ2019-2020, เอฟเอคัพ ชนะเลิศ 1 สมัย เมื่อปี2018-2019 และเอฟเอคอมมิวนิตี้ชิลด์ ชนะเลิศ 2 สมัยคือปี 2018 และ 2019 และยังมีรางวัลส่วนตัวอีกมากมายตั้งแต่สมัยเป็นนักเตะหรือตอนที่เขาดำรงตำแหน่งผู้จัดการทีมอยู่ก็ตาม เช่น รางวัลโค้ชฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปี 1 สมัยในปี 2011,รางวัลผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมประจำเดือนพรีเมียร์ลีกในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2017, กันยายน ค.ศ. 2017, ตุลาคม ค.ศ. 2017, พฤศจิกายน ค.ศ. 2017 และเดือนธันวาคม ค.ศ. 2017 และยังมีรางวัลผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลพรีเมียร์ลีกปี 2017–18 อีกด้วย นับเป็นสิ่งยืนยันความสำเร็จในอาชีพผู้จัดการทีมของเขาเลยก็ว่าได้ และปัจจุบันนี้เขาก็ยังคงสร้างผลงานอันยอดเยี่ยมกับเรือใบสีฟ้า และยังทำผลงานได้ดีไม่มีทีท่าจะผ่อนหรือแผ่วลงเลยแม้แต่น้อย ด้วยสไตล์การคุมทีมของเขาที่สามารถปรับแท็คติกเพื่อรับมือคู่แข่งได้ทุกทีม เกมรุกบุกได้ดุเดือด แดนกลางเชื่อมเกมได้ดีและตัดจังหวะบุกของคู่แข่งได้อย่างแม่นยำ ปราการหลังที่มีประสิทธิภาพ หรือมือประตูที่เหนียวหนึบ ทุกอย่างของพวกเขาในตอนนี้ลงตัวกันไปหมด บวกกับนักเตะที่มากฝีมือมากประสบการณ์ และสามารถทำตามแผนของเปปได้เป็นอย่างดี ทำให้เรือใบลำนี้กำลังติดลม และมีแนวโน้มจะแล่นเช้าเส้นชัยไปได้อย่างง่ายดายเลยทีเดียว
Credit : https://www.vbetnews.com/manchester-city-manager-pep-guardiola-speaks-out-on-title-race/
ข้อที่สามคือ การสนับสนุนจากเจ้าของทีมที่มีเงินถุงเงินถังมากมายล้นมืออย่าง “ชีค มานซูร์ บิน ซาเยด อัล นาห์ยาน”นักการเมืองของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ผู้มีทรัพย์สินมากกว่า สี่หมื่นล้านปอนด์ ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญของทีม เพราะเขาคนนี้คอยสนับสนุนทีมในการซื้อนักเตะมาใช้อย่างไม่ขาดมือ เฉพาะนับตั้งแต่ที่ กวาร์ดิโอล่า เข้ามาเป็นกุนซือเมื่อปี 2016 ก็มีการทุ่มซื้อนักเตะรวมมากกว่า 500 ล้านปอนด์เข้าไปแล้ว โดยเปปได้พูดถึงเรื่องนี้ว่า “เรามีเงินมากมายสำหรับซื้อยอดนักเตะเข้าทีม เราไม่สามารถทำแบบนี้ได้หากขาดนักเตะที่มีคุณภาพ ผู้เล่นของเรามีความมหัศจรรย์และมีความสัมพันธ์ที่ยอดเยี่ยมต่อกัน พวกเขาเล่นในแต่ละเกมโดยคิดแค่ว่าจะเอาชนะให้ได้” ซึ่งมันก็จริงอย่างที่เปปพูด เพราะถ้าหากขาดเม็ดเงินจากสโมสรหรือเจ้าของทีม ต้นสังกัดเองก็ไม่มีเงินมากพอที่จะคว้าตัวนักเตะยอดฝีมือหลายๆคนมาได้ เพราะนักเตะที่ทำผลงานได้ดีนั้นมักมีค่าตัวที่สูงตามมาด้วย ถ้าหากขาดการสนับสนุนจากผู้ใหญ่ใจดี ทีมคงไม่อาจเสริมนักเตะฝีเท้าดี และทีมคงไม่อาจประสบความสำเร็จไปได้หากขาดนักเตะที่ยอดเยี่ยม ผู้จัดการทีมที่มากความสามารถและประสบการณ์
 
สุดท้ายที่เราไม่ควรมองข้ามเลยก็คือความสัมพันธ์อันดีของตัวนักเตะ ผู้จัดการทีม รวมไปถึงโค้ชที่ทำการฝึกซ้อมให้ในแต่ละวัน เพราะว่าการที่ตัวนักเตะจะเล่นเข้าขากันได้ดีเป็นปี่เป็นขลุ่ย และทำตามแผนการเล่นของผู้จัดการทีมได้ดีนั้น พวกเขาเหล่านี้ก็ต้องมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน ความสนิทสนมเป็นสิ่งจำเป็นในหลายๆเรื่อง รวมถึงเรื่องฟุตบอลด้วยเช่นกัน หากนักเตะและกุนซือขาดความรักใคร่กลมเกลียวเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันแล้ว ทีมก็ไม่อาจเดินหน้าไปสู่ความสำเร็จได้ตามที่หวัง เพราะฉะนั้น กุญแจที่จะพาเรือใบสีฟ้าลำนี้มุ่งไปสู่ความสำเร็จได้ จะต้องอาศัยทุกสิ่งที่ได้กล่าวมานี้ ผนวกรวมเข้าด้วยกัน จึงจะสามารถสร้างขุมกำลังอันแข็งแกร่งอย่างที่พวกเขาเป็นอยู่ตอนนี้ขึ้นมาได้ และทำให้พวกเขามีโอกาสในการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยที่ 7 มาให้กับทางสโมสรโดนไร้ข้อกังขา แล้วเพื่อนๆล่ะครับคิดว่ามีเหตุผลใดอีกที่จะทำให้แมนเชสเตอร์ซิตี้คว้าแชมปีลีกให้กับทางสโมสร หรือเหตุผลที่ทำให้ขุมกำลังของพวกเขาในตอนนี้นั้นแข็งแกร่ง สามารถติชมกันได้เต็มที่เลยครับ สุดท้ายนี้ขอให้ทุกคนสนุกเพลิดเพลินไปกับการดูเกมการแข่งขันฟุตบอล และขอให้ทุกคนโชคดี ไว้พบกันใหม่คราวหน้าครับ
เขียนและเรียบเรียง : AoF FalCoN จากStoryกีฬา
โฆษณา