เพลงส่วนใหญ่ในอัลบั้มถูกเขียนขึ้นที่บ้านของสมาชิกแต่ละคนในช่วงฤดูร้อนของปี 1998 นักร้องนำ Anthony Keidis และมือกีต้าร์ John Frusciante ใช้เวลาด้วยกันทั้งวันเพื่อเริ่มโครงสร้างเพลง ริฟฟ์กีต้าร์ และเนื้อร้อง ส่วนของเบสและกลองนั้นเกิดจากการแจมในห้องซ้อมของ Flea และ Chad Smith
John Frusciante พัฒนาไลน์กีต้าร์ของเขาด้วยการใช้โน้ตเพียงสองโน้ตมาสร้างริทึ่มเท่ๆในเพลง "Scar Tissue" เขาค้นพบเทคนิคนี้ตอนทำอัลบั้มเดี่ยว "Niandra Lades and Usually Just a T-Shirt" ในปี 1994 Frusciante นั้นบอกว่า "Scar Tissue" คือ "ตัวอย่างของการใช้เทคนิคง่ายๆ แต่ผมคิดว่ามันได้สำเนียงในแบบของผมเอง" เขาเล่นสไลด์ในท่อนโซโล่ของเพลงนี้ด้วย
"Get on Top" เพลงที่โดดเด่นด้วยท่อนริฟฟ์กีต้าร์ที่ใช้วาห์เพดัล เกิดขึ้นจากการแจมมันถูกแต่งขึ้นอย่างรวดเร็วหลังจากที่ Frusciante ได้ฟังงานของวง Public Enemy "ผมได้ริฟฟ์นี้มาก่อนจะเข้าห้องซ้อม ที่ผมทำก็แค่กระทืบวาห์วาห์แล้วเล่นมันออกมา" สำหรับท่อนโซโล่ในช่วงกลางเพลงนั้นถือว่าแปลกไปจากเดิมที่ปรกติเขาจะเล่นแบบดุเดือด Frusciante เปลี่ยนวิธีคิดหลังจากได้ฟังท่อนโซโล่ของ Steve Howe จากเพลง "Siberian Khatru" ของวง Yes "พวกเขามีซาวด์ที่ซับซ้อนอลังการและเล่นด้วยความรวดเร็ว พอมีท่อนโซโล่โดยใช้เสียงคลีนโผล่เข้ามา มันสวยงามมากเลย โดดเด่นเหมือนวางไว้บนหิ้ง สำหรับ 'Get on Top' ผมเลยอยากให่ฝ้เกิดความแตกต่างระหว่างโซโล่กับกีต้าร์ที่เล่นเป็นแบ็คกราวด์"
อัลบั้มนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงสไตล์เพลงของ Red Chilli Peppers โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับอัลบั้มก่อนหน้านั้น One Hot Minute ซึ่งมีส่วนผสมของเฮฟวีเมทัลและไซคีเดลิค(มือกีต้าร์คือ Dave Navarro) ถึงแม้ว่าอัลบั้ม Californication จะเต็มไปด้วยเพลงฟังค์ร็อค (เช่น "Around the World", "Get on Top", "I Like Dirt", "Purple Stain" และ "Right on Time") แต่ก็มีเพลงที่มีเมโลดี้ไพเราะ ("Scar Tissue" และ "Otherside) ด้วย พวกเขาเริ่มโฟกัสที่รายละเอียดของเพลงนอกเหนือจากการแจมเหมือนที่ผ่านมา