Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
นานาสาระ by Dr. TC
•
ติดตาม
28 เม.ย. 2021 เวลา 12:43 • ท่องเที่ยว
ต้นพระศรีมหาโพธิ์ พุทธคยา ดินแดนตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ปัจจุบันเป็นต้นที่ 4 แล้วนะ
เมื่อกล่าวถึง ประเทศอินเดีย ผู้เขียนจะนึกถึงว่าเป็นแดนพุทธภูมิ ที่ก่อเกิดศาสนาพุทธ และนึกต่อไปถึง สังเวชนียสถานที่สำคัญทั้ง 4 แห่ง คือ สถานที่พระพุทธเจ้าประสูติ ตรัสรู้ แสดงปฐมเทศนา และ ปรินิพพาน (สำหรับสถานที่ประสูติ สวนลุมพินีวัน ปัจจุบัน คือ ประเทศเนปาล ส่วนอีก 3 แห่งอยู่ในประเทศอินเดีย)
ผู้เขียนได้มีโอกาสได้ไปทัศนศึกษาที่ประเทศอินเดีย เมื่อหลายปีก่อน และได้ไปเยี่ยมชมสถานที่สำคัญหลายแห่งในอินเดีย รวมถึง สังเวชนียสถานบางแห่ง และเห็นความเป็นอยู่ของชาวอินเดีย ต้องบอกว่า อินเดียแดนมหัศจรรย์ จริงๆค่ะ
สำหรับพุทธคยา นั้น เป็นสถานที่ตรัสรู้ของพระสัมมาพุทธเจ้า โดยมี “ต้นพระศรีมหาโพธิ์” เป็นต้นไม้ที่พระพุทธเจ้าเคยประทับ และตรัสรู้
ณ ที่แห่งนี้ ผู้เขียนในฐานะพุทธศาสนิกชนรู้สึกตื่นเต้น ปิติ เมื่อได้มาถึง เนื่องจาก เป็นเวลากว่า 2,500 ปีแล้วที่สถานที่แห่งนี้เป็นศูนย์รวมของจุดหมายแสวงบุญของชาวพุทธผู้มีศรัทธาทั่วโลก
ปัจจุบันพุทธคยามีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “วัดมหาโพธิ์” ตั้งอยู่ที่จังหวัดคยา รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย ห่างจากริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา 350 เมตร และได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก UNESCO ให้เป็นมรดกโลก ประเภทมรดกทางวัฒนธรรม เมื่อปี พ.ศ. 2545
เครดิตภาพ: Dr. TC
“ต้นพระศรีมหาโพธิ์” เป็นต้นไม้แห่งการตรัสรู้ ณ ที่แห่งนี้ รวมทั้งหมดมี 4 ต้น และทั้ง 4 ต้นนี้ได้เจริญเติบโตทดแทนกันมาเรื่อยๆ จากที่เดิม มีประวัติความเป็นมาอันยาวนาน นับเป็นอนุสรณ์สถานที่มีคุณค่า ของชาวพุทธและมวลมนุษยชาติทั่วโลก
ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ต้นที่ 1
เป็นต้นไม้คู่พระบารมีและเป็นสหชาติของพระโพธิสัตว์ เกิดขึ้นพร้อมกับวันที่พระโพธิสัตว์ประสูติ ตามพระพุทธประวัติกล่าวว่า สหชาติมี 7 ประการ (สัตตสหชาติ) คือ พระนางพิมพา, พระอานนท์พุทธอนุชา, นายฉันนะ, อำมาตย์กาฬุทายี, ม้ากัณฐกะ, ขุมทรัพย์ 4 มุมเมือง และต้นอัสสัตถพฤกษ์หรือต้นโพธิ์
ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ต้นที่ 1 นี้ เป็นต้นที่พระพุทธเจ้าทรงประทับตรัสรู้พระสัมมาสัมโพธิญาณ พระองค์ได้รับการถวายหญ้ากุสะจำนวน 8 กำ จากโสตถิยะพราหมณ์ เพื่อปูเป็นที่ประทับเมื่อใกล้รุ่งของวันเพ็ญ เดือน 6 จึงตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
และพระองค์ตรัสว่า ต้นพระศรีมหาโพธิ์เป็นต้นไม้แทนพระพุทธองค์ หากใครได้ไหว้ได้สักการะต้นพระศรีมหาโพธิ์ก็เท่ากับว่าได้ไหว้สักการะพระพุทธองค์ และหลังจากที่พระพุทธองค์เสด็จดับขันธปรินิพพานแล้ว มีผู้เลื่อมใสศรัทธามากราบไหว้ต้นพระศรีมหาโพธิ์เป็นจำนวนมาก
ในสมัย พระเจ้าอโศกมหาราช พระองค์ทรงเป็นองค์เอกอัครศาสนูปถัมภ์ ทำให้พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองเป็นอันมาก เช่น ทรงสร้างพระเจดีย์ถวายเป็นพุทธบูชาจำนวนถึง 84,000องค์ ซึ่งทำให้พระเจ้าอโศกมหาราชไม่สนพระทัยในความสุขส่วนพระองค์เหมือนเช่นเคย เมื่อว่างเว้นจากราชกิจก็มาปฏิบัติธรรมใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ไม่กลับวังที่ประทับ จึงเป็นเหตุให้เหล่าพระมเหสีนางสนมทั้งหลายต่างพากันโกรธแค้นอิจฉาต้นพระศรีมหาโพธิ์
พระมเหสีองค์ที่ 4 ของพระเจ้าอโศกมหาราช นามว่า มหิสุนทรี (พระนางติษยรักษิต) ได้รับสั่งให้นางข้าหลวงนำยาพิษและน้ำร้อนแอบไปรดที่โคนต้นพระศรีมหาโพธิ์ จนทำให้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ตายไปในที่สุด นับเป็นการล้มตายลงไปหลังสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เสด็จเข้าสู่ปรินิพพานล่วงไปแล้ว 200 ปี
เครดิตภาพ: Dr. TC
ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ต้นที่ 2
เป็นต้นที่แตกหน่อมาจากต้นแรก การที่พระเจ้าอโศกมหาราชได้เผยแผ่พระพุทธศาสนาไปทั่วโลก จึงมีการนำต้นพระศรีมหาโพธิ์ไปปลูกในประเทศต่างๆ ด้วย เช่น พระโสณะเถระและพระอุตตรเถระ เดินทางไปยังดินแดนสุวรรณภูมิ และ พระมหินทเถระ พระนางสังฆมิตตาเถรี เดินทางไปยังประเทศศรีลังกา เป็นต้น โดยพระภิกษุและพระภิกษุณีเหล่านี้ได้นำต้นหรือกิ่งของต้นพระศรีมหาโพธิ์ไปด้วย
ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ต้นที่ 2 ถูกทำลายจนล้มตายอีกครั้งในสมัย พระเจ้าปรณวรมา แคว้นมคธของพระองค์ได้ถูกรุกรานโดย พระเจ้าสาสังการ แห่งฮินดู จากแคว้นเบงกอล พระเจ้าสาสังการได้ทรงรับสั่งให้ตัดต้นและขุดราก ใช้ฟางอ้อยสุม ใช้น้ำมันราด และเผาต้นพระศรีมหาโพธิ์ซึ่งมีอายุราว 871-891 ปี จนล้มตาย 7วันหลังจากนั้น พระเจ้าสาสังการทรงอาเจียนเป็นพระโลหิต และสิ้นชีพตักษัยที่พุทธคยา
ซึ่งพระเจ้าปรณวรมาเสด็จมาพอดี จึงตีทัพของเบงกอลแตกพ่ายไป และทรงให้ชาวบ้านรีดนมโค 1,000 ตัว เอาน้ำนมที่ได้เทราดบริเวณต้นโพธิ์ที่ถูกเผา พระเจ้าปรณวรมาทรงนอนคว่ำหน้าลงกับพื้น พร้อมอธิษฐานตามแบบพระเจ้าอโศกมหาราช ซึ่งภายหลังต้นพระศรีมหาโพธิ์ก็แตกหน่องอกขึ้นมาใหม่อีกครั้งหนึ่ง จึงได้นับหน่อนี้เป็นต้นที่ 3
เครดิตภาพ: Dr. TC
ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ต้นที่ 3
ในปี พ.ศ.2418 นายพลโทเซอร์ อเล็กซานเดอร์ คันนิ่งแฮม (Sir Alexander Cunningham) ชาวอังกฤษ หัวหน้าคณะสำรวจพุทธสถานในช่วงอังกฤษปกครองประเทศอินเดีย ผู้ค้นพบสถานที่ตรัสรู้ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้เดินทางไปที่เมืองพุทธคยาเป็นครั้งที่ 2 พบว่าต้นพระศรีมหาโพธิ์ทรุดโทรมมาก ประชาชนชาวฮินดูในบริเวณนั้นได้ตัดกิ่งก้านไปทำเชื้อเพลิง
ครั้นเมื่อประมาณปี พ.ศ.2421-2423 ได้เกิดพายุใหญ่ เป็นเหตุให้ต้นพระศรีมหาโพธิ์เบียดกับพระเจดีย์พุทธคยา กระทั่งหักโค่นล้มลงไปทางทิศตะวันตกและล้มตายไปเอง ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ต้นที่ 3 นี้มีอายุยืนประมาณ 1258-1278 ปี
ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ต้นที่ 4
เป็นต้นที่ยังคงยืนต้นอยู่ที่พุทธคยาในปัจจุบัน เป็น 1 ใน 2 หน่อที่แตกขึ้นมาจากต้นพระศรีมหาโพธิ์ ต้นที่ 3 ที่ล้มตายไป โดย ท่านเซอร์คันนิ่งแฮม ได้บำรุงดูแลหน่อที่เกิดมานั้นเมื่อปี พ.ศ. 2423 และนำอีกหน่อหนึ่งไปปลูกไว้ด้านทิศเหนือของพระเจดีย์พุทธคยา ห่างจากต้นเดิมประมาณ 50 เมตร ซึ่งปัจจุบัน “ต้นพระศรีมหาโพธิ์” ทั้ง 2 ต้นนี้ยังคงยืนต้นอยู่ มีอายุยืนยาวจวบถึงทุกวันนี้
ผู้อ่านทุกท่านที่มีศรัทธา เลื่อมใส สามารถเดินทางไปสักการะได้ด้วยตนเอง เมื่อโอกาสและเวลาเหมาะสม
ณ โอกาสนี้ ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยขจัดปัดเป่าโรคโควิด-19 ออกไป ให้ชาวโลกปลอดภัยด้วยเทอญ
อ้างอิง:
1.
https://th.wikipedia.org/wiki/ต้นพระศรีมหาโพธิ์
2.
http://dhamma.serichon.us/ประวัติต้นพระศรีมหาโพธ/
3.
https://www.newtv.co.th/news/20745
1
บันทึก
4
2
2
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
เยือนอินเดีย กราบสังเวชนียสถาน ชมพระราชวัง ป้อมปราการ แสนสวย
4
2
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย