รายได้ Apple โต 54% โตระเบิดในทุกธุรกิจ
เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา Apple ได้รายงาน
ผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ปี 2021
ครอบคลุมตั้งแต่เดือนมกราคม ถึงเดือนมีนาคม
ผลปรากฏว่าบริษัทขายดีถล่มทลาย สามารถทำรายได้และกำไร
ได้ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์เอาไว้จนดันมูลค่าบริษัท Apple
พุ่งขึ้นทันที +2.4% คิดเป็นมูลค่าที่เพิ่มขึ้นมา 1.6 ล้านล้านบาท
แล้ว Apple ขายดีขนาดไหน ? มาดูกัน
เริ่มกันที่ผลประกอบการบริษัท Apple ไตรมาสที่ 2 ปี 2021
รายได้ 2.8 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 54%
กำไร 7.4 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 110%
จะเห็นได้ว่ากำไรของบริษัทเพิ่มขึ้นในอัตราที่เร็วกว่ารายได้
เป็นส่วนสำคัญมาจากบริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงถึง 42.5%
ซึ่งถือเป็นอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2012
สำหรับการเติบโตในแต่ละธุรกิจของ Apple แบ่งออกเป็น
-iPhone 1.5 ล้านล้านบาท เติบโต 66%
ในไตรมาสนี้ iPhone ยังคงขายดีต่อเนื่องมาจากไตรมาสก่อน
โดยเฉพาะในซีรีส์ iPhone 12 ที่แม้จะไม่แถมหัวชาร์จ
แต่ถือเป็นรุ่นแรกของบริษัทที่รองรับเทคโนโลยี 5G ที่เป็นที่ต้องการของตลาด
-Mac 2.8 แสนล้านบาท เติบโต 70%
-iPad 2.4 แสนล้านบาท เติบโต 79%
ทั้ง 2 กลุ่มนี้ ถือเป็นกลุ่มที่ขายดีถล่มทลายมากที่สุด
เนื่องจากได้รับประโยชน์ต่อเนื่องมาตั้งแต่ในช่วงล็อกดาวน์ปีที่แล้ว
นอกจากนี้ธุรกิจกลุ่ม Mac ยังได้รับกระแสตอบรับที่ดี จากการเปลี่ยนมาใช้ชิปที่ออกแบบเองอย่าง M1 ที่มีระยะเวลาการใช้งานยาวนานกว่าชิปเซตรุ่นก่อนที่ออกแบบและผลิตโดย Intel
การเติบโตดังกล่าวยังไม่ได้รวมผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ทางบริษัทเพิ่งประกาศว่าจะเปิดตัว ภายในปีนี้
ซึ่งก็ครอบคลุมตั้งแต่ Mac รุ่นใหม่รวมไปถึง iPad Pro ที่ปรับมาใช้ชิปเซต M1 เช่นกัน
-Wearables เช่น Apple Watch และ AirPod 2.4 แสนล้านบาท เติบโต 24%
-Services 5.3 แสนล้านบาท เติบโต 27%
ธุรกิจกลุ่มนี้ก็ครอบคลุมตั้งแต่ธุรกรรมทางการเงิน และการสมัครสมาชิก
ที่เกิดขึ้นบน App Store, Apple Music, Apple TV+ รวมถึง AppleCare
ทั้งนี้ ทางบริษัทก็ได้รายงานว่าล่าสุดมี Paid Subscriptions
หรือยอดสมาชิกที่สมัครบริการของทางบริษัทเกินกว่า 660 ล้านบัญชี
อย่างไรก็ตาม ธุรกิจกลุ่มนี้ยังคงได้รับความกดดันจากประเด็นการผูกขาด
ตั้งแต่กรณี Epic Games เจ้าของ Fortnite ได้ตัดสินใจนำแอปพลิเคชันออกจาก App Store
หากเรามาดูการเติบโตในแต่ละภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา เติบโต 35%
ยุโรป เติบโต 56%
จีน (รวมไต้หวันและฮ่องกง) เติบโต 87%
ญี่ปุ่น เติบโต 49%
เอเชียแปซิฟิก เติบโต 27%
ส่วนใหญ่จะเป็นการฟื้นตัวจากฐานที่ต่ำเพราะได้รับผลกระทบจากวิกฤติโรคระบาดในปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะที่ประเทศจีน
ในขณะเดียวกัน Apple ก็ได้รายงานว่าจะมีการเพิ่มมูลค่าเงินปันผลราว 7%
อยู่ที่ 0.22 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อหุ้น รวมถึงประกาศซื้อหุ้นคืนอีก 90,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
คิดเป็น 2.8 ล้านล้านบาท ซึ่งสูงกว่าในปีที่ผ่านมาเกือบเท่าตัว
ทั้งนี้ Apple ได้หยุดรายงาน Guidance
หรือการคาดการณ์รายได้ของบริษัทตั้งแต่เผชิญวิกฤติ
แต่หลังจากรายงานผลประกอบการล่าสุด
ที่เกินการคาดการณ์จากที่นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์เอาไว้
หุ้นของบริษัท Apple ก็ได้มีแรงซื้อเข้ามาทันที
ดันให้มูลค่าบริษัท +2.4% หลังรับรู้ผลประกอบการ
คิดเป็นมูลค่าที่เพิ่มขึ้นมากถึง 1.6 ล้านล้านบาท..
- 16
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
