ความเสียสละที่จะยอมทำงานเหนักกว่าผู้อื่น เสียสละความสบายเพื่อเผชิญหน้ากับความท้าทายใหม่ๆ หรือเสียสละภาพลักษณ์ที่ Perfect ของเราที่จะกล้าล้มเหลวเพื่อแลกกับประสบการณ์ใหม่ หรือเสียสละเวลาในการฝึกทำสิ่งต่างๆ ที่เราไม่ถนัดเพื่อความคุ้มค่าในระยะยาว ล้วนเป็นปัจจัยที่จะช่วยให้เราเติบโต 🌳
.
นี่คือคุณลักษณะของทัศนคติที่เรียกว่า Growth Mindset
.
ขณะเดียวกันคนทีหวงแหนความสบาย หรือคนที่มี Fixed Mindset จะมองว่าทักษะและความสามารถตัวเองเป็นสิ่งที่ตายตัวมาแต่เกิด เปลี่ยนแปลงได้ยาก เวลาเกิดความผิดพลาดในการทำสิ่งใหม่ๆ ก็จะมองว่าตัวเองเป็นคนล้มเหลวทันที จึงมักหลีกเลี่ยงการทำอะไรที่ท้าทาย และทำแต่ในสิ่งเดิมๆ
.
การอยู่แต่ใน Comfort Zone ไม่ใช่เรื่องที่ผิดอะไร แต่หากเราต้องการจะขยับขยายพาตัวเองไปสู่จุดที่สูงขึ้น เราต้องกล้าละทิ้งความสบายเหล่านั้น ด้วยการนำแนวคิดแบบ Growth Mindset ไปใช้ เช่น..
.
📍มองชีวิตให้เป็นการเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา
📍เชื่อว่า skill ของเราสามารถพัฒนาได้
📍มองว่าความเชี่ยวชาญเกิดจากการฝึกฝนซ้ำแล้วซ้ำเล่า
📍มอง feedback จากผู้อื่นเป็นสิ่งมีค่าที่เราสามารถนำไปพัฒนาตัวเอง
📍กล้าเผชิญกับความท้าทายใหม่ๆ
📍มองความสำเร็จของผู้อื่นเป็นแรงบันดาลใจไม่ใช่ความอิจฉา
.
เมื่อเรามีทัศนคติสำหรับการเติบโตที่ถูกต้องแล้ว ก็ขอให้เริ่มลงมือทำกันเลยค่ะ
.
การจะเริ่มทำในสิ่งใหม่ๆ มีความคล้ายกับการโดดหอ ก่อนจะกระโดดเรามักจะกลัวจนขาสั่น คิดเรื่องราวอะไรต่ออะไรมากมาย แต่พอกระโดดลงไปแล้ว ไม่นานความกลัวทั้งหมดก็หายไป
.
กลายเป็นความสบายใจและความสนุกเข้ามาแทนที่แทน ✅
.
วันนี้ให้เริ่มจากการโดดหอ และเมื่อเราแข็งแรงขึ้นแล้ว เป้าหมายต่อไปก็คือการโดด Bungee Jump นะคะ
.
Tim Ferriss เจ้าของหนังสือ The Four-Hour Work Week กล่าวว่า “สิ่งที่เราต้องทำมากที่สุด ก็คือสิ่งที่เรากำลังกลัวมากที่สุดนั่นเอง”
.
วันนี้จงกล้าทำในสิ่งที่เรายังไม่คุ้นเคย เพราะอย่างที่ภาพนี้ได้เขียนเอาไว้ว่า..ความสบาย กับ การเติบโต เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นพร้อมกัน
.
ช่วงนี้เป็นโอกาสดีที่เราจะได้ทดลองสิ่งใหม่ๆ กันนะ 😊