30 เม.ย. 2021 เวลา 04:27 • ประวัติศาสตร์
น้าค่อม ชวนชื่น
วันนี้หลายคนน่าจะช็อคกับข่าวการจากไปของน้าค่อม ชวนชื่น
1
ผมเองนั้นเห็นข่าวอาการของน้าค่อมมาหลายวัน ถึงแม้ผมจะไม่ใช่แฟนตัวยง แต่ก็ภาวนาขอให้น้าค่อมปลอดภัย และพอแกจากไป ก็อดที่จะรู้สึกใจหายไม่ได้
นึกย้อนกลับไป ผมก็รู้จักและคุ้นเคยกับผลงานของน้าค่อมก็เป็น 10 ปีแล้ว
ภาพยนตร์เรื่องแรกที่น้าค่อมแสดงและผมได้ดู ถ้าจำไม่ผิด น่าจะเป็นเรื่อง “7 ประจัญบาน” ซึ่งตอนนั้น ผมก็ยังเด็กๆ น่าจะอยู่ประมาณม.1
1
หลังจากนั้นก็ไม่ได้ติดตามหรือสนใจ จนผ่านไปหลายปี พ.ศ.2553 ผมจำได้แม่นว่าตอนนั้นภาพยนตร์เรื่อง “น้ำ ผีนองสยองขวัญ” ออกฉาย
ผมไม่ได้คิดจะดูภาพยนตร์เรื่องนี้เลย แต่แฟนผมในตอนนั้น ชอบดูหนังตลก ซึ่งโดยส่วนตัว ผมไม่ชอบดูเลย คิดว่าไม่ใช่แนวของตัวเองเลย โดยเฉพาะตลกโบ๊ะบ๊ะ มาถึงก็ด่ากัน เอาถาดตีหัว นอกจากไม่ตลกแล้วผมยังรู้สึกเบื่อและคิดว่า “มันตลกตรงไหน”
แฟนผมอยากดูภาพยนตร์เรื่องนี้ ผมจึงต้องเข้าไปดูอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ตลอดการดูภาพยนตร์เรื่องนี้ ผมก็รู้สึกเฉยๆ เหมือนหนังตลกทั่วไปที่เคยเห็นผ่านๆ
แต่น้าค่อมคือสีสันของหนังที่ทำให้ผมพอยิ้มออกมาได้ และต้องยอมรับว่าถ้าขาดน้า หนังจืดสนิทจริงๆ
จากนั้นผมก็ได้ชมผลงานของน้าค่อมอีกครั้งจาก “สุดเขตสเลดเป็ด” และ “ส.ค.ส. สวีทตี้” และก็เช่นเดิม ผมถูกแฟนลากไปดูเหมือนเดิม
ทั้งสองเรื่องนี้ น้ายังคงทำหน้าที่นักแสดงได้อย่างเต็มที่ และทำให้ผม ซึ่งไม่ได้หัวเราะง่ายๆ ก็หัวเราะออกมาได้
ที่เป็นความพิเศษอีกอย่างของน้าค่อม คือผมคิดว่าน้าน่าจะเป็นตลกเพียงคนเดียวเลยก็ว่าได้มั้งที่พูดคำหยาบแล้วคนไม่ดราม่า ไม่คิดว่าหยาบคาย กลายเป็นดูน่ารัก
ในวันนี้ น้าค่อมจากไปแล้ว และคงไม่มีเสียงหัวเราะจากน้าอีกต่อไป
ขอให้น้าค่อมไปสู่ภพภูมิที่ดี การจากไปของน้า ทำให้ผมนึกถึงร้อยกรองบทหนึ่ง
“นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา”
R.I.P.
โฆษณา