Elon Musk กับเรื่องราวสุดแหวกแนว
หากใครเคยได้ตามอ่านบทสัมภาษณ์ หรืออัตตชีวประวัติของมหาเศรษฐีระดับโลกอย่าง ‘อีลอน มัสก์’ (Elon Musk) ก็คงจะพอทราบว่า Techno King คนนี้มีชีวิตที่สุดแหวกแนว บางเป้าหมายอาจจะดูหลุดโลกไปหน่อยในมุมของคนทั่วไป แต่เราก็ปฏิเสธกันไม่ได้ว่าแนวคิดต่างๆนั้นทำให้เค้าประสบความสำเร็จไม่ใช่น้อย
✅ อีลอน มัสก์ไม่ได้ก่อตั้ง Tesla Motors แต่กลายเป็นผู้ถือหุ้นเพียงหนึ่งเดียวและประธานบริษัท
เรื่องมันเริ่มขึ้นเมื่อ J.B. Straubel, Martin Eberhard และ Marc Tarpenning ร่วมมือกันพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า ในปี 2003 Eberhard และ Tarpenning ได้ก่อตั้ง Tesla Motors ที่ซึ่ง Straubel มาร่วมวงด้วยทีหลัง
Tesla หมายมั่นปั้นมือว่าจะสร้างเทคโนโลยีที่ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าวิ่งได้เร็วยิ่งกว่าเฟอร์รารี่ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้นักลงทุนคล้อยตามสักเท่าไรนัก ในทางตรงกันข้าม มัสก์ได้ลงทุนในบริษัทไป $6.5 ล้าน เลยกลายเป็นผู้ถือหุ้นเพียงหนึ่งเดียว พ่วงด้วยตำแหน่งประธานบริษัท มุมมองของมัสก์ที่มีต่อโปรเจ็กต์นี้คือการปฏิวัติรถยนต์ไฟฟ้าให้เป็นที่นิยมและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยลดปัญหามลภาวะบนโลก
✅ อยากสร้างจรวดที่ไม่แพง
ในปี 2001 มัสก์ย้ายถิ่นฐานมาอยู่ LA ใกล้ๆ ศูนย์กลางของอุตสาหกรรมอวกาศ
มัสก์ตัดสินใจเริ่มแผนบุกอวกาศด้วยการวางแผนสร้างจรวดที่ใช้ต้นทุนต่ำกว่า ในปี 2002 บริษัท SpaceX หรือ Space Exploration Technologies จึงได้ถือกำเนิด
ตอนแรกแผนของมัสก์คือการยิงจรวดภายใน 15 เดือนหลังบริษัทก่อตั้ง แต่เอาเข้าจริงก็ต้องใช้เวลาเตรียมตัวพัฒนาจรวดถึง 4 ปี แม้จะรู้ว่าโอกาสล้มเหลวมีมาก แต่เค้าก็ไม่ยอมแพ้ ความพยายามของเค้าไม่สูญเปล่าเมื่อ SpaceX กลายเป็นบริษัทแรกที่ยิงจรวด Dragon ขึ้นไปบนอวกาศและสามารถกลับมาได้อย่างปลอดภัย
✅ ใช้ชีวิตในวัยเด็กส่วนมากที่ห้องสมุด
ชีวิตที่โรงเรียนของมัสก์ก็ไม่ค่อยสนุกสักเท่าไรเพราะเค้ามักจะโดนเพื่อนแกล้งอย่างหนัก เค้าจึงหลบหนีจากความวุ่นวายด้วยการอ่านหนังสือและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เค้าสามารถอ่านสารานุกรม 2 เล่มจนจบและจำได้ทุกรายละเอียด
The Hitchhiker’s Guide to the Galaxy คือหนังสือที่เป็นแรงบันดาลใจให้มัสก์ จุดประกายให้เค้ารู้ว่าการตอบคำถามน่ะง่าย แต่การถามคำถามที่ถูกต้องน่ะยาก
✅ มีเป้าหมายคืออพยพมนุษย์ไปอยู่บนดาวอังคาร
เพราะเค้าเห็นว่าโลกเรานี้มีความเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นการถูกชนจากอุกกาบาต หรือการที่ทรัพยากรร่อยหรอลงเรื่อยๆ ความทะเยอทะยานที่ชัดเจนนี้ส่งผลให้มัสก์ตั้งเป้าหมายอันยิ่งใหญ่ ที่ดูเหมือนว่าจะยิ่งใหญ่เกินไปจนไม่น่าเป็นจริงได้ แต่เค้าเชื่อมั่นในสิ่งที่ตัวเองทำ เค้าสามารถอัดตารางงานชนิดแน่นเอี๊ยด วันจันทร์ถึงคืนวันอังคารเขาอยู่ที่ SpaceX ใน LA จากนั้นนั่งเครื่องบินไปซิลิคอน วัลเลย์เพื่อทำงานที่ Tesla ในวันพุธและพฤหัสฯ จากนั้นก็บินกลับ LA
✅ อยู่เบื้องหลังเทคโนโลยีของ PayPal
มัสก์นำเงินส่วนหนึ่งที่ได้มาจากการขาย Zip2 ให้ Compaq มาสร้างบริษัทใหม่ นั่นก็คือ X.com ซึ่งเป็นบริษัทธนาคารออนไลน์แห่งแรกของโลก เพิ่มความน่าเชื่อถือด้วยการมีคู่ค้าเป็น Barclays แต่แล้วคู่แข่งก็ถือกำเนิดขึ้น เมื่อ Max Levchin และ Peter Thiel ก็กำลังพัฒนาระบบการจ่ายเงินที่ Confinity ก่อนที่จะสร้างเวอร์ชั่นแรกของ PayPal ขึ้นมา
แข่งกันไปได้สักพัก ทั้ง 2 บริษัทก็ตัดสินใจควบรวมกันในปี 2000 เพราะต่างฝ่ายต่างก็มีดีในแบบของตัวเอง ถ้าเอามารวมกันมันก็จะดียิ่งขึ้น แต่ต่อมามัสก์ก็ประสบปัญหาเมื่อ Thiel กับ Levchin สละเรือ แม้เพื่อนร่วมงานของมัสก์จะชอบ PayPal แต่มัสก์อยากไปโฟกัสที่ X.com มากกว่า ระหว่างนั้นระบบเว็บไซต์ก็ล่มอยู่บ่อยครั้ง
ยังไม่จบแค่นั้น เพราะระหว่างที่มัสก์กับภรรยากำลังจะไปฮันนีมูนกัน กลุ่มผู้บริหารระดับสูงก็ได้ขอให้ Thiel กลับมาเป็น CEO แล้วลดตำแหน่งของเค้าให้เหลือแค่ที่ปรึกษาแทน บริษัทเปลี่ยนชื่อจาก X.com เป็น PayPal ซึ่งภายหลังถูกขายให้ eBay ในปี 2002 ด้วยมูลค่า $1.5 พันล้าน ส่วนมัสก์ได้เงินมา $250 ล้าน
A LITTLE STORY TELLER
- 10
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
