ผมเป็น covid สายพันธุ์อังกฤษ
อาการคือ ไม่แสดงอาการ
ผมบอกตัวเองและคนรอบข้างเสมอตั้งแต่การระบาดรอบแรกในสยามประเทศนี้ว่า
จงตระหนัก แต่อย่าตระหนก
หมายถึงต้องเรียนรู้ว่ามันคืออะไร
ทำอะไรได้บ้าง
มีขอบเขตแค่ไหน
ผมเลยไม่กลัว Covid
เพราะมั่นใจใน พลังป้องกันของตัวเอง
ผมใส่แมสเสมอ
ผมพ่นแอลกอฮอล์ล้างมือบ่อยกว่าใคร
ผมเปลี่ยนพฤติกรรมพยายามไม่ลูบจับใบหน้า
และผมรอดมา 2 รอบการระบาด (ที่ไม่ว่ารัดบานจะใช้คำว่าอะไรก็ตาม)
และผมติด ในการระบาดรอบที่ 3 ทองหล่อคลัสเตอร์ สายพันธุ์อังกฤษ
อาการของสายพันธุ์อังกฤษคือ ไม่แสดงอาการชัดเจนสักอย่าง
และนี่คือการสร้างความเสียหายให้จิตใจอย่างที่สุด
กูเป็นรึยังวะ
เป็นได้ยังไง
ตัวผมประมาทอย่างที่สุด เพราะผมไปทำงานที่เบตง เมืองที่สงบ สะอาด
และไม่มีผู้ติดเชื้อ ทั้งทางสถิติและทางทฤษฏี
ผมเลยประมาทเหมือนอยู่บ้าน
ล้างมือน้อยลง
ถอดแมสบ่อยขึ้น
แต่แล้วผลตอบแทนของความประมาทก็คือ
ผู้ติดเชื้อกลับมาเชงเม้ง และพักโรงแรมเดียวกับผม แม้จะคนละชั้น แต่ผมไม่มีความระวังแม้แต่นิดเดียว
พื้นที่ส่วนกลางทั้งหมด ล็อบบี้ ห้องอาหาร ลิฟท์ ราวบันได มีโอกาสทั้งหมด ที่จะจู่โจมผมที่ไม่สวมแมสและไม่ล้างมือ
แต่ติดแล้ว ไม่ได้วิตกอะไร กลัวแค่ตัวเราจะเป็นพาหะไปติดใคร
ขั้นแรก
กลับถึงกทม. วันที่ 7
ภรรยาขับรถมารับ ผมไม่ถอดแมส และพยายามไม่หยิบจับอะไร
ถึงบ้าน แยกมานอนห้องทำงาน เริ่มตนการกักตัว
โดยอยู่แต่ในห้อง ออกมาแค่ตอนอาบน้ำ
และทุกครั้งที่ออกจากห้องสวมแมสตลอด พ่นแอลกอฮอล์ ล้อมหน้าล้อมหลัง
กลัวภรรยาจะติดไปด้วย
แต่ผมยังไม่ตรวจ และยังไม่รู้ว่าเป็นหรือไม่
วันที่ 8 ร่างกายมีบางอย่างไม่ปกติ (บางเบามากต้องจดจ่อกับตัวเองจริงจัง)
1. แม้อุณหภูมิปกติ แต่ร่างกายเหมือนมีไข้ (รู้สึกได้)
2. ท้องเสียอ่อนๆ ถ่ายเหลว
3. คันคอ คอตีบเหมือนมีอะไรติดคอตลอดเวลา
4. ลมพิษขึ้น (ปกติแพ้ฝุ่นอยู่) แต่อยู่ในห้องมาสองวัน เลยคิดว่าไม่เกี่ยวกับฝุ่น และตุ่มขึ้นเต็มหลัง เห่อไปหมด
วันที่ 11 ตัดสินใจ ไปตรวจ โดนนับจากวันที่คาดว่าจะได้รับเชื้อ (5 เมษา) ก็ครบ 7 วันพอดี คิดว่าถ้าเป็นก็ตรวจพบแน่นอน ในใจยังคาดหวังให้ไม่ใช่ Covid
วันที่ 13 ผลตรวจออกมาว่าติด ไม่ตกใจเท่าไรนัก เพราะวิเคราะห์จากสัญญาณต่างๆที่เกิดขึ้น มีโอกาสสูงมากที่จะติด
ติดแล้ว ยังไงต่อ
ยังคงกักตัวที่ห้องทำงานเหมือนเดิม ไม่ออกจากห้องยกเว้นเวลาอาบน้ำ
ให้รรยาไปตรวจวันวันถัดไป และรู้ผลวันถัดมาว่าผลเป็นลบ โล่งไปเปราะนึง
เอาหล่ะมา focus ที่ตัวเองเต็มที่
ขอผลตรวจจาก รพ. ซึ่งค่อนข้างยุ่งยาก
1.รพ. โทรมาของบัตรประชาชน ให้ส่ง Email ไปให้
2. รพ. ส่งEmail หนังสือมาให้เซ็นต์ว่ายินยอมรอเตียง เพราะขณะนั้น เตียงเต็ม ล้นพิกัดไปไกล
3. รพ. ให้ Email ใบเซนต์ยินยอมกลับไป
4. รพ. ส่ง Email ใบรับรองผลตรวจกลับมา
ซึ่งตามอยู่ 1 วันเต็มๆ
จากนั้นยังไงต่อ
รพ. แจ้งเรื่องให้รอเตียง 2-3 วัน
ระหว่างนั้นให้กักตัวที่บ้าน (มีพยาบาลโทรมาถามอาการ 1 ครั้ง )
3 วันผ่านไป รพ. โทรมาบอกว่ายังไม่ได้เตียง ขอเวลาอีก 3 วัน
เอาหล่ะ คิดว่ารอไป ไม่เวิร์คละ
เลยโทรหา 1668 ประสานเรื่องเตียง
1668 ให้เบอร์ รพ.คลองสามวามาให้โทรไปถามเอง
ผมไม่ได้โทรไป รอของฝั่ง รพ. ที่ไปตรวจละกัน
3 วันผ่านไป รพ. โทรมาบอกยังไม่มีเตียง น่าจะได้วันที่ 21-22
ซึ่งก็คือ อีก 3 -4 วัน
เนื่องจากผมไม่มีอาการอะไร แสดงออกมา เลยคุยขออยู่ที่บ้านจนครบ 14 วันละกัน
เพราะถ้าได้เตียง 21 แปลว่า ผมกักตัวอยู่บ้าน 10 วัน ไป รพ. สนามอีกแค่ 4 วัน
ไม่เห็นประโยชน์อะไร
รพ. ก็ตอบไม่เต็มปาก ก็คือจริงๆมันผิดกฏแหละ ทุกคนต้องไปรพ.สนาม ตามการกดดันของผู้ใหญ่ฝ่ายรัดบาน ให้ รพ. ที่รับตรวจ ประสาน รพ. สนามให้ด้วย
ผลเป็นไง รพ.เอกชนส่วนใหญ่เลย ไม่รับตรวจไง บอกน้ำยาหมดซะเลย
1668 โทรมาหาผม สอบถามไทม์ไลน์ ซึ่ง จะ 10 วันละ ยังไม่มีใครถามผมเลย นี่เป็นครั้งแรก
และแนะนำความเข้าใจต่างๆ ละเอียดพอสมควร พร้อมบอกว่าจะประสาน หาเตียงให้โดยเร็ว
เพราะอยู่บ้านไม่ได้มันผิดกฏ
2 วันต่อมา
รพ. เอกชนอีกแห่งโทรมา ว่ามีเตียงแล้ว จากการประสานของ 1668 ซึ่งถือว่าเร็วใช้ได้ ในภาวะที่ รพ. ที่ผมไปตรวจ ใช้เวลามา 8 วันแล้ว
แต่ !!!!!
เป็น Hospitel นอนห้องละสองคน
ผมไม่โอเค เพราะผมไม่นอนร่วมห้องกับคนที่ไม่รู้จัก 2-2 เลยปฏิเสธไป
บอกว่าจะรอเตียงจาก รพ. ที่ไปตรวจแทน
และแล้ว ผมก็ได้เตียง
หลังจากที่ กักตัวอยู่บ้าน 10 วัน
ทำไมผมถึงไปนะหรือ
1. ห้องเดี่ยวนอนคนเดี่ยว เอาจริงๆประเด็นไม่ใช่อยากได้ห้องเดี่ยว รวมหลายคนก็ไม่มีปัญหา แต่ไม่ใช่ 2 คน กับใครไม่รู้ 4 คน 10 คน ไม่มีปัญหา แต่นี่ได้ห้องเดี่ยวก็ถือว่าเกินคาด
2. รพ. จะตรวจปอดให้ นี่คือที่ต้องการที่สุด ต้องการกว่าได้เตียงซะอีก
22 กพ.
รพ. บอกเจอกันที่ รพ. 09:00 ซึ่งหมายความว่าเดินทางไปเอง
คือปกติผมขับมอไซค์อยู่แล้ว ก็ไม่ลำบากอะไร แถมผมไม่มีอาการ
แต่ ติดตรงนี่โรคระบาดร้ายแรงที่ผู้เสี่ยงสัมผัสใกล้ชิดต้องใส่ชุด PPE จริงอ่ะ
ผมขับมอไซค์ไป รพ. จอดไว้ที่ลานจอด ตั้งแต่ 08:30
กว่าจะได้ตรวจปอด วัดความดัน วัดออกซิเจนในเบือด (สำคัญมากๆ)
ก็ปาไป 09:45 จากนั้นนั่งรอหมอมาแจ้ง สอบถามอาการก็ 11:00 เข้าไปละ
กว่าจะได้เข้าห้องพัก 12:30
พรุ่งนี้จะมาต่อ ง่วงละ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
