ประวัติสั้นๆๆของอุสตาซหนุ่มชื่อดัง
USTAZ ABDULSOMAD BATUBARA
อุสตาส อับดุุลซอมัด บาตูบารา (Lc.Ma)
หรือที่รู้จักในกันในนาม อุสตาส อับดุุลซอมัด
เกิดที่ ซิโลลามา อาสาฮัน เกาะสุมาตราเหนือ
SILOLAMA RHASAN NORT SUMATRA วันที่ 18 มีนาคม ปี 1977 อายุ 41ปี ท่านคือ ดาอีย์ และเป็นอุลามะอฺอินโดนิเซีย ที่ตอบปัญหาต่างๆทางศาสนา โดยเฉพาะ วิชาฮาดิษ และวิชาฟิกฮฺ และอื่นๆ
และท่านก็มักจะพูดถึงเรื่อง ความรักต่อประเทศชาติบ้านเกิด และปัญหาในยุคปัจจุบัน ซึ่งกำลังพูดถึงในสังคม
ชื่อของท่านเป็นที่รู้จัก อย่างกว้างขวาง เนื่องจาก ความรู้ และ ความแม่นยำในการยกหลักฐานจากอัลกุรอ่าน ฮาดิษ อีกทั้งระบุชื่อกีตาบต่างๆ ได้อย่างชัดเจน และใช้คำพูดที่เข้าใจง่ายในการดาวะฮฺ และในการบรรยาย ซึ่งมักจะถ่ายทอดผ่านทาง ยูทุป และถ่ายทอดสดทางเฟสบุ๊ค
ปัจจุบัน ท่านเป็นอาจารย์ประจำ ณ มหาวิทยาลัย อิสลาม นาเฆอรี ซุลฏอน ชารีฟ กอซิม ณ จังหวัด เรียว เกาะสุมาตรา
การสอน การบรรยาย
ได้รับความสนใจจากผู้คนอย่างมากมาย เพราะด้วยการตอบที่ชัดเจน ให้ความเข้าใจลึกซึ้ง และยกหลักฐานได้อย่างละเอียด พร้อมระบุแหล่งที่มา จากตำรับตำรา ได้อย่างแม่นย่ำ ด้วยเหตุนี้เอง จึงทำให้การบรรยายของท่านแต่ละครั้งคนติดตามเป็นหมื่นๆ จนบางครั้ง ถึงแสนๆคน และมีหลายๆคนที่ได้รับทางนำผ่านทางท่าน และท่านเป็นบุคคลที่ถ่อมตน แต่งตัวเรียบง่าย ไม่ถือตัว
ท่านเคยเล่าถึงตัวเองว่า :””ตอนเด็กๆเวลาก่อนไปละหมาดวันศุกร์ แม่จะบอกเสมอว่า วันนี้ต้องเอาเรื่องที่ได้ฟังจากคุตบะฮ์ มาเล่าให้แม่ฟังนะ หลังจากนั้นเป็นต้นมาท่านจะตั้งใจฟังเป็นพิเศษ พอกลับมาบ้านท่านก็จะเล่าสิ่งที่ท่านได้ยินจากคุตบะฮ์ ให้แม่ฟังเป็นประจำ สิ่งเหล่านี้เองที่ทำให้ท่านกลายเป็นวันนี้ เป็นนักบรรยาย
การศึกษา
ท่านเป็นบุคคลที่อัลลอฮ์ทรงประทานความรักในวิชาความรู้ตั้งแต่เยาว์วัย โดยเฉพาะความรู้ศาสนา แม่ของท่านเล่าว่า :ตอนเด็กๆท่านชอบเก็บเศษกระดาษที่ใว้ห่อของ ซึ่งมีภาษาอาหรับเขียนอยู่โดยท่านมักจะพูดว่า อย่าเหยียบกระดาษเหล่านี้เชียวนะ เพราะถ้าเหยียบแล้ว บาปแน่นอน!!
ความรักในวิชาความรู้ของท่าน สามารถรับรู้ได้ จากคำบอกเล่าของแม่ท่าน คือ ตอนเด็ก อุสตาส อับดุุลซอมัด มักจะขอต่อแม่เสมอ ให้พาท่านไปโรงเรียน โดยท่านรบเร้าอยู่เป็นประจำ ถึงความต้องการของท่าน โดยกล่าวว่า MA NGAJI MA NGAJI อยากเรียน อยากเรียน
ในที่สุดแม่ของท่านก็พาท่านไปเรียน และท่านก็สามารถอ่านอัลกุรอ่านได้อย่างคล่องแคล้ว
ท่านเริ่มศึกษาแบบทางการ คือ ระดับอิบติดาอียฺ ผ่าน ระบบโรงเรียนฮาฟิสอัลกุรอ่าน ท่านจบจาก โรงเรียน อัลวาซีลียะอฺ เมดัน ปี 1990 ค.ศ หลังจากนั้นก็เข้าศึกษา ต่อ มัดรอษะษาวียะฮฺ มุอัลลีมีน อัลวาซีลียะฮฺ เมดาน หลังจากนั้นก็จบในปี ค.ศ 1993 และเข้าศึกษาต่อ ปอเนาะดารุ้ลอารอฟะฮฺ เดอลีเซอรดัง เกาะสุมาตรา ตอนเหนือ
ท่านเล่าใว้ว่า :ตอนที่ท่านเรียนอยู่สถาบันนี้จะใช้ภาษาอาหรับในการสื่อสารตลอด ซึ่งเป็นกฏของปอเนาะ และใครก็ตามที่พูดภาษาอื่นๆจะโดนลงโทษ
โดยจะมีสายลับจับตามอง และท่านเป็นคนหนึ่งที่ไม่ค่อยโดนลงโทษ มีคนถามว่าทำไม่?? เพราะฉันไม่พูด ฉันนิ่งเงียบ แต่อย่างไรก็ตาม มีเหตุการณ์ที่ท่านโดนเรียกชื่อ ข้อหาพูดภาษาอินโด ท่านจึงขึ้นไปรายงานตัว ต่อฮากิม ของปอเนาะ โดยฮากิมกล่าวว่า :هل تكلمت باللغة الاندونسية ท่านตอบด้วยความั่นใจว่า لا
ฮากิมส่วนตอบไป:انت كاذب
แล้วก็ระบุ ตำแหน่งเวลา คำพูดที่ใช้ ท่านจึงนึกขึ้นได้ โอ้ยาวๆ คือ ขณะที่กำลังอาบน้ำอยู่ แต่สบู่ดันเข้าตา ท่านเลยพูดขึ้นว่า kayung kayung ขัน-ขัน ท่านไม่นึกไม่ฝันแม้แต่ในห้องน้ำยังมีสายลับ ท่านหัวเราะ...ในขณะที่เล่า
อยู่ที่นี้1ปี ท่านก็ย้ายไปศึกษาต่อที่มัดรอษะฮ์ อาลียะฮฺ นูรุ้ลฟาละฮฺ ณ เมืองเรียว และสำเร็จการศึกษาในปี ค.ศ 1996 โดยหลังจากนั้นท่านได้เข้าศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัย อูอิน ซุลตอน ชาริฟ กอซิม เรียนในสาขา ตัรบียะฮฺ เรียนได้ประมาณ2ปี ท่านก็ได้รับจดหมายจากเพื่อนคนหนึ่ง โดยมีใจความว่า
MAD DATANG KE MEDAN ADA TES BEASISWA KE MESIR SAHABATMU ABDUL HALLIM
ความว่า มัด มาที่เมืองเมดานด่วน มีสอบชิงทุนไปอียิปต์ เพื่อนท่าน อับดุลฮาลีม
ท่านไม่คิดอะไรมาก ตัดสินเดินทางไปเมดัน เพื่อสอบชิงทุนไปอียิปตฺ ระยะทางระหว่างเปอกันบารู ไปเมดัน เดินทางโดยรถบัส ใช้เวลาประมาณ 10 ช.ม เมื่อสอบเสร็จปรากฏว่าท่านเป็น1ใน100 คนที่ได้รับทุนการศึกษา ซึ่งในครั้งนั้นมีผู้เข้าร่วมสอบชิงทุนถึง900 คน
ท่านเล่าใว้ว่า ตอนสอบสัมภาษณ์ ชัยค์จากอัล-อัซฮัร อิยิปต์ ได้ถามว่าท่านท่องจำอัลกุรอ่านหรือ ท่านก็นิ่งเงียบ ชัยค์จึงบอกให้ท่านลองต่ออายะฮฺต่อไปนี้ ด้วยกับดุอาของแม่ ชัยค์อ่านอายะฮฺซึ่งท่านใช้อ่านในละหมาดเป็นประจำเมื่อเป็นอีหม่าม...
เมื่อได้รับทุนการศึกษา ท่านก็เดินทางไปจาการ์ตาเป็นระยะ6 เดือน เพื่อไปเข้าเคมป์เตรียมภาษาอาหรับกับเพื่อนๆที่ได้ทุน
และท่านก็เดินทางไปอียิปต์
โดยได้รับทุนฟรีทุกอย่าง ท่านไม่เคยขอเงินจากที่บ้านเลย ท่านเคยทำงานเป็นพนักงานตักข้าวที่มักกะฮฺให้ฮุจญาตอีกด้วย
ท่านเล่าว่า ตอนไปสมัครงานสอบถามว่าได้ค่าจ้างเท่าไร เขาบอกว่าให้วันละ300บาท ท่านก็ดีใจ แต่ท่านไม่รู้ว่าเลยว่า วันหนึ่งต้องตักข้าวให้คนหลายพันคน
ท่านเรียนมหาวิทยาอัล-อัซฮัร ในคณะอุซุลุดดีน สาขา ตัฟซัรอัลกุรอ่าน ท่านสำเร็จการศึกษาในปี 2002 โดยศึกษาที่นั้นเป็นระยะเวลา 3ปี10เดือน กลับมาบ้านท่านก็ไม่รู้จะทำอะไร งานก็ไม่มีทำ แม่ก็บ่น คนข้างๆบ้านก็ว่า กลับมาจะทำอะไร ท่านเลยเข้าสวนเป็นระยะเวลาหนึ่ง
หลังจากนั้นจึงเดินทางไปมาเลเซีย เพื่อศึกษาต่อในระดับปริญญาโท ที่มหาวิทยาลัย kebangsaan malaysia (ukm) ซึ่งมหาวิทยาลัยแห่งนี้สามารถผ่อนจ่ายค่าเทอมได้ ท่านอยู่ได้หนึ่งเทอม วันหนึ่งท่านเข้าไปห้องสมุดที่มีอินเตอร์เน็ต แล้วค้นหาทุน
ท่านจึงพบข้อมูลทุนการศึกษา
ที่ประเทศโมร็อกโค จึงลองส่งข้อมูล ใบผลคะแนน ไม่นานนักจากวันนั้น ท่านได้รับการตอบรับจากสถาบัน ดารุ้ลฮาดิษ อัลฮาซานียฺ ซึ่งสถาบันแห่งนี้จะรับนักศึกษาปีละ20 คน โดยแยกเป็นชาวโมร็อกโค 15 คน ชาวต่างชาติ แค่5 คนเท่านั้น โดยท่านใช้เวลาศึกษาอยู่ที่นี้ 1ปี 11 เดือน สำเร็จการศึกษาปี2008 โดยท่านเขียนวิทยานิพนธ์ ภายใต้หัวข้อ
-Tesis yang berjudul رجال الموطأ والصحيحين الذين ضعفهم النسائي في كتاب الضعفاء والمتروكين: جمعا ودراسة
#ผลงานด้านวิชาการ
-ด้านการแปล
* Perbuatan Maksiat Penyebab Kerusakan Rumah Tangga (Judul Asli: Al-Ma’ashi Tu’addi ila Al-Faqri wa Kharab Al-Buyut), Penulis: Majdi Fathi As-Sayyid. Diterbitkan oleh Pustaka Al-Kautsar, Jakarta, Maret 2008.
* 55 Nasihat Perkawinan Untuk Perempuan, (Judul Asli : 55 Nashihat li al-banat qabla az-zawaj), Penulis: DR. Akram Thal’at, Dar at-Ta’if, Cairo. Diterbitkan oleh Penerbit Cendikia Sentra Muslim-Jakarta, April-2004.
* 101 Kisah Orang-Orang Yang Dikabulkan Doanya (Judul Asli: 101 Qishash wa Qishah li Alladzina Istajaba Allah Lahum Ad-Du’a’, Majdi Fathi As-Sayyid. Diterbitkan oleh Pustaka Azzam – Jakarta, Desember 2004.
* 30 Orang Dijamin Masuk Surga (Judul Asli: 30 al-mubasysyarun bi al-jannah), DR.Mustafa Murad, Dar al-Fajr li at-Turats,Cairo. Diterbitkan oleh Cendikia Sentra Muslim-Jakarta, Juli-2004.
* 15 Sebab Dicabutnya Berkah (Judul Asli: 15 sabab min asbab naz’ al-barakah), Penulis: Abu Al-Hamd Abdul Fadhil, Dar ar-Raudhah-Cairo. Diterbitkan oleh Cendikia Sentra Muslim-Jakarta, Agustus-2004
* Indahnya Seks Setelah Menikah (Judul Asli : Syahr al-‘asal bi la khajal), DR. Aiman Al-Husaini, diterbitkan oleh Penerbit Pustaka Progresif, Jakarta, September 2004.
* Beberapa Kekeliruan Memahami Pernikahan (Judul Asli: Akhta’ fi mafhum az-zawaj, Muhammad bin Ibrahim Al-Hamd, diterbitkan oleh Penerbit Pustaka Progresif- Jakarta, September 2004.
* Sejarah Agama Yahudi (Judul Asli: Tarikh ad-Diyanah al-Yahudiyyah), diterbitkan oleh Pustaka al-Kautsar, Jakarta, Desember 2009.
ผลงานการเขียน
99 PERTANYAAN BAB SHOLAT
99 คำถาม เรื่องละหมาด
33 TANYA JAWAB SEPUTAR QURBAN
33 คำถาม-ตอบ เกี่ยวกับเรื่อง กุรบาน
37 MASALAH POPELUR
37 ปัญหาทางศาสนาที่แพร่หลาย
(ท่านถือในมัสฮับชาฟีอีย์ มีอากีดะอฺ อาชาอีเราะฮฺ)
MAZHAB SAFIE'E AKIDAH ASAEROH
ท่านเป็นหนึ่งในทีมงานที่แปล ตำรา มัจมัวะชัรฮุลมุฮัซซับ ของอีหม่ามนาวาวีย์ ซึ่งแปลเป็นภาษาอินโดแล้ว มีจำนวนถึง 32 เล่ม
ปัจจุบันท่านเป็นอาจารย์สอนที่มหาวิทยาลัย
อุอินซุลตอน ชารีฟ กอซิม เมืองเรียว สุมาตรา
อินโดนิเซีย
และเป็นนักบรรยายธรรม ดาอียฺ แห่งอินโดนิเซีย ซึ่งท่านมีคิวการบรรยายยาวถึงปีหน้า
บรรดาอุลามะฮฺ ฮาบาอิบ ต่างกล่าวเชยชมถึงความถ่อมตนและความอาเลมของท่าน แท้กระทั่งซัยยิด อะหมัด บินมูฮำหมัด อาลาวีย์ ก็ได้กล่าวชมท่าน โดยมอบอียาซะฮฺ หนังสือ และการโผกสระบันให้กับท่าน ครั้งที่ท่านไปทำอุมเราะฮฺที่มักกะฮฺ
คำกล่าวหนึ่งของท่าน
KEBAHAGIAN DALAM ISLAM ADALAH KETIKA KAU MELIHAT SAUDADANYA BAHAGIA KAU PUN IKUT BAHAGIA.
“ความสุขในอิสลาม คือ ในขณะที่ท่านเห็นพี่น้องของท่านมีความสุข ท่านเองก็มีความสุขตามไปด้วย”
ونفعنا الله بعلومه في الدارين اللهم آمين
ส่วนหนึ่งจากหนังสือ USTAZ ABDUL SOMAD
عبد الصمد
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
