10 พ.ค. 2021 เวลา 13:09 • การศึกษา
"เผยความลับ วิธีคิดให้สำเร็จใน 5นาที"
หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า Mindset (ไมด์เซ็ต) หรือในความหมายของบางตำราเรียกว่า วิธีคิด
ใครก็ตามที่มีการจัดการ mindset ที่ดี มีแนวโน้มสูงที่ชีวิตจะมีความสุขและประสบความสำเร็จมากกว่าคนที่มี mind set ที่ไม่ดี
เนื่องจากคนที่มีวิธีคิดที่ดีมักจะมีสิ่งที่เรียกว่า Attitude แล้วเจ้า attitude นี่แหละคือ Key of Problem Solving หมายถึง ปัจจัยหลักของกระบวนการแก้ไขปัญหา ซึ่งตัว Attitude(ทัศนคติที่ดี) นี่ก็เปรียบได้กับ Positive thinking หรือความคิดในแง่บวกนั่นเอง
ทำไมคนที่มองโลกในแง่บวกมักมีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จมากกว่า นั่นก็เพราะว่าคนที่มองโลกในแง่บวก ส่วนใหญ่แล้วจะมองปัญหาว่ามาจากอะไร จากใคร จากแหล่งไหน ปัจจัยใดที่ทำให้เกิดปัญหา แต่จะไม่โทษสิ่งเหล่านั้น กลับกันเขาจะใช้กระบวนการคิดเดียวกันนี้ ในการหาต้นตอของปัญหา เพื่อจัดการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นขั้นเป็นตอน
เห็นไหมว่า วิธีการสืบหาปัญหาคล้ายๆกันแต่ได้คำตอบไม่เหมือนกัน วิธีคิดที่ดี จะนำพาไปสู้ทางแก้ปัญหาที่ถูกจุด กลับกันถ้าคนเราไม่มี mindset ที่ดี การแก้ไขปัญหาอาจจะสะเปะสะปะ(ไม่ตรงเป้า) ทำให้เสียเวลา เสียอารมณ์ และอาจทำให้ปัญหาบานปลายมากกว่าเดิม
คนที่มี mindset ที่ดี นอกจากจะมี attitude และ excellent in problem solving แล้วก็มักจะเป็นคนที่ใจเย็น เพราะคนที่ใจเย็นนั้นเมื่อเจอปัญหามักจะนิ่งและเยือกเย็นพอที่จะคิด ตัดสินใจ ก่อนจะพูดหรือลงมือกระทำอะไรลงไป จึงค่อนข้างยากที่จะเกิดความผิดพลาดที่ร้ายแรง อีกสิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือ การขจัดความเครียด เพราะคนที่เต็มไปด้วยความเครียด และมีอารมณ์ที่ขุ่นมัว สมองจะสั่งงานในการแก้ปัญหาได้ไม่ดี เนื่องจากคลื่นไฟฟ้าในสมองถูกรบกวน เหมือนหลอดไฟที่ไฟลัดวงจร ติดๆดับๆ แต่สมองของคนที่มีวิธีคิดที่ดี มีความใจเย็น จะสามารถขจัดความเครียดได้เร็ว เนื่องจากคลื่นสมองจะมีความต่อเนื่องคงที่ ส่งผลให้มีความคิดสร้างสรรค์ ผลิตไอเดียใหม่ๆและแก้ปัญหาได้ดี
เมื่อเรามองย้อนลำดับคุณสมบัติของบุคคลที่มี mindset ที่ดี จะสังเกตุเห็นได้ว่า จริงๆแล้ว mindset ที่ดี ส่วนใหญ่มักจะเริ่มต้นจาก การควบคุมอารมณ์
เพราะเมื่อไหร่ที่ควบคุมอารมณ์ได้ ก็จะควบคุมสถานการณ์ได้ ซึ่งความสามารถในการควบคุมอารมณ์ที่ดีนี่แหละฝรั่งเขาเรียกกันว่า EQ(Emotional Quotient) หรือ ความฉลาดทางอารมณ์
สำหรับคนที่สมัครงาน ไม่ว่าจะคนจบใหม่ หรือโดยเฉพาะคนทำงานมานานแล้วตำแหน่งงานสูงๆ มักจะเห็นคุณสมบัติของผู้ว่าจ้างที่ลงไว้ในใบสมัครงาน โดยคุณสมบัติที่แทบทุกองค์กรต้องการเหมือนกันก็คือ 1. สามารถทำงานภายใต้แรงกดดันได้ 2. สามารถจัดการกับปัญหาได้ดี 2ข้อนี้ แทบจะมีทุกที่โดยเฉพาะตำแหน่งงานที่สูงขึ้น นั่นหมายถึงองค์กรต้องการบุคคลที่มี EQ มาร่วมงานนั่นเอง
สิ่งเหล่านี้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น EQ, Attitude, Problem Solving มันก็คือสิ่งที่ก่อให้เกิดกระบวนการคิดในแง่บวก หรือ Route of Growth Mindset ซึ่งตามตำราเขาจะแบ่ง Mindset จะแบ่งเป็นสองลักษณะ คือ Growth Mindset กับ Fixed Mindset แต่ในที่นี้ทั้งหมดที่ว่ามาผมจะกล่าวถึงแค่ สิ่งที่ทำให้เกิด Mindset ที่ดี เนื่องจากไม่อยากตัดสินว่าแบบไหนดีกว่า มันขึ้นอยู่กับว่าผู้อ่าน อ่านแล้วอยากมี Mindset แบบไหน เพราะว่าบางคนที่มีความคิดแบบ Fixed Mindset ก็ไม่ได้หมายความว่าความคิดของเขาผิด ตราบใดที่เขายังมีความสุขในแบบของเขา
ผมจะจำกัดความให้สั้นๆ ระหว่าง Growth Mindset กับ Fixed Mindset สำหรับผู้ที่ยังไม่รู้ แปลง่ายๆแบบตรงตัวก็คือ วิธีคิดแบบก้าวหน้า กับวิธีคิดตามกรอบแนวความคิดเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ดังนั้นผมจึงไม่ตัดสิน ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลว่าจะเลือกทางไหน ถ้าเรามีวิธีคิดที่ดี ที่ก้าวหน้า เราก็จะก้าวหน้า ถ้าเราเปลี่ยนทัศนคติมุมมองใหม่ๆ เราก็จะเห็นหนทางใหม่ๆ ซึ่งคุณสมบัติต่างๆของบุคคลที่มี Mindset ที่ดีตามที่ผมได้กล่าวไว้ทั้งหมดด้านบน ล้วนเป็นปัจจัยที่จะนำพาไปสู่ชีวิตที่ประสบความสำเร็จ
ทั้งหมดนี้ไม่มีถูกไม่มีผิด มีแต่คนที่ก้าวนำและคนที่ย่ำอยู่กับที่ ลองเลือกเอาครับว่าอยากเป็นคนไหน
ในบทความต่อไปผมจะลงดีเทล พูดถึงวิธีการสร้าง Growth Mindset กันครับ ว่าทำอย่างไร ฝึกอย่างไรจึงจะมี Mindset ที่ดีได้ วิธีการดูตัวเองและฝึก"พลังจิต" เพื่อสะกดจิตตัวเองให้เปลี่ยนวิธีคิด จะทำอย่างไรนั้น โปรติดตามตอนต่อไป
ถ้าชอบบทความที่ผมเขียน ฝากกดติดตามด้วยนะครับถ้าผู้ติดตามเกิน100 ผมจะสามารถลงเป็นวีดีโอได้ อาจจะมีบางตอนที่คัดมาทำกราฟฟิกและพากษ์เสียงในอนาคตครับ
โฆษณา