3 พ.ค. 2021 เวลา 03:42 • ความงาม
การดูดไขมันต้องดมยาสลบหรือไม่
สวัสดีครับ หมอกก นพ.ปริญ ทัศนาวิวัฒน์นะครับ
หลายคนมาปรึกษาเรื่องดูดไขมันมัก มีคำถามว่าทำไมต้องดมยาสลบล่ะ การดูดไขมันในหลายๆคลินิคไม่ได้ดมยาสลบ แถมกลับบ้านได้เลยไม่ต้องนอนนะไม่ต้องนอ พักด้วยซ้ำไป ยาสลบมีความจำเป็นจริงๆเหรอ ไม่ใช่ได้หรือเปล่า ก่อนที่จะรู้ว่าจำเป็นหรือไม่ เรามารู้จักกันก่อนว่ามี วิธีไหนบ้างที่ช่วยให้ไม่เจ็บเวลาผ่าตัดดีกว่าครับ
การระงับปวดเวลาผ่าตัดทำได้หลักๆ 3 แบบ โดยสามารถใช้ร่วมกันได้เพื่อให้คนไข้รู้สึกสบายที่สุด
1)ยาชาเฉพาะที่ คือการฉีดยาชาเข้าไปในบริเวณที่จะผ่าตัดทำให้ คนไข้จะรู้ตัว บริเวณผ่าตัดรู้สึกว่ามีแรงกดแรงขยับ อาจจะรู้สึกเจ็บได้เล็กน้อย
2)ยาฉีดเข้าเส้นเลือดดำ เพื่อให้ไม่รู้สึกตัว คนไข้จะหลับไม่รู้สึกตัว แต่อาจจะมีอาการละเมอขยับตัวไปมาขณะผ่าตัดได้ ไม่มีการใช่ท่อช่วยหายใจ
3)ดมยาสลบ คนไข้จะไม่รู้สึกตัว ไม่มีการละเมอขยับตัวระหว่างหลับ ใส่ท่อช่วยหายใจและใช้เครื่องในการหายใจให้คนไข้
ถามว่าควรใช้วิธีไหนดี ต้องบอกว่าแล้วแต่ประมาณและบริเวณที่จะดูดไขมันครับ เพราะถ้าปริมาณไขมันไม่มากหรือบริเวณเล็กๆ อาจจะไม่จำเป็นต้องดมยาสลบก็ได้
เรามาเปรียบเทียบข้อดีข้อเสีย เป็นข้อๆนะครับ
ข้อดีของยาชาเฉพาะที่
คนไข้รู้สึกตัวตลอดเวลาที่ผ่าตัด ดังนั้นไม่ต้องกังวลเรื่องการหยุดหายใจ
กลับบ้านได้เลยเนื่องจากไม่มียาที่กดการหายใจตกค้างในร่างกาย
ข้อเสียของยาชาเฉพาะที่
จะรู้สึกตัว ทำให้ถ้าเป็นคนที่กังวลกับการผ่าตัดมากอาจจะกังวลหรือกลัว ระหว่างทำให้ อาจจะต้องเลิกกลางคันหรือต้องให้ยาทางเส้นเลือดดำเพิ่มเติมได้
เมื่อดูดใกล้ๆกับกล้ามเนื้อหรือไขมันเริ่มเหลือน้อย อาจจะมีอาการเจ็บได้ ทำให้ทำได้ไม่เต็มที่
ถ้าดูดบริเวณที่กว้างๆ หรือไขมันมากๆ จะต้องใช้ยาชาเฉพาะที่จนเกินขนาดได้ ทำให้เกิดอันตรายได้
บริเวณที่จะดูดไขมันบางที่ดูดยากทำให้ต้องอยู่ในท่าที่ไม่ค่อยสบายอาจจะมีอาการเมื่อยขณะผ่าตัดได้
ข้อดีของการฉีดยาเข้าเส้นให้หลับ
คนไข้ไม่รู้สึกตัวเลย ช่วยในกรณีที่มีความกังวลมาก
คนไข้ไม่รู้สึกตัวเหมือนดมยาสลบ แต่ไม่ต้องใช้เครื่องดมยาและใส่ท่อช่วยหายใจ ทำให้ต้นทุนถูกกว่าดมยาสลบ
ข้อเสียของการฉีดยาเข้าเส้นให้หลับ
ถึงแม้จะไม่รู้สึกตัวแต่อาจจะมีการละเมอขยับตัวตอบสนองของร่างกายทำให้ผ่าตัดลำบาก
ต้องสังเกตอาการอย่างใกล้ชิดขณะผ่าตัดและหลังผ่าตัดได้เพราะมีโอกาสหยุดหายใจจากยา ทำให้มีอันตรายถึงชีวิตได้
บุคคลากรที่ทำการฉีดยาควรจะต้องมีความรู้ในการดูแลผู้ป่วย เพราะผู้ป่วยแต่ละคนต้องใช้ยาในขนาดที่ไม่เท่ากันบางคนต้องใช้ยามากบางคนใช้ยาน้อย แนะนำให้เป็นแพทย์วิสัญญีจะดีที่สุด
บางสถานบริการไม่จ้างแพทย์วิสัญญีมาเป็นคนดูแล ผู้ป่วย แต่แพทย์ผู้ทำการผ่าตัด พยาบาลหรือเจ้าหน้าที่มาเป็นคน ให้ยาเพื่อลดต้นทุน
ต้องนอนสังเกตอาการหลังผ่าตัดว่ารู้ตัวดีแล้วค่อยกลับ
อาจจะมีการตื่นระหว่างผ่าตัดได้
ข้อดีของการดมยาสลบ
ผู้ป่วยไม่รู้สึกตัวและไม่มีการละเมอขยับแขนขาเวลาหลับ ทำให้ผ่าตัดได้ผลที่ดีกว่า
การดมยาสลบผู้ป่วยมีท่อและเครื่องช่วยหายใจดูแลการหายใจ โอกาสที่มีปัญหาหยุดหายใจระหว่างผ่าตัดแทบจะไม่มี
สามารถดูดไขมันปริมาณมากๆ และหลายๆจุดได้พร้อมๆกัน รวมถึงการตัดหนังหน้าท้อง เย็บกล้ามเนื้อหน้าท้อง ก็สามารถทำพร้อมกันไปได้เลย
ส่วนใหญ่การดมยาสลบต้องใช้หมอวิสัญญีมาดูแล โดยเฉพาะ
ข้อเสียของการดมยาผ่าตัด
ส่วนใหญ่ต้องนอน รพ.อย่างน้อย 1 คืนเพราะยาที่อยู่ในร่างกายอาจจะอยู่นาน ถึง 24 ชมได้
อาจจะมีอาการคลื่นไส้หลังผ่าตัด จากการดมยาได้
สรุปจากข้อดีข้อเสียข้างต้นแล้ว คำถามที่ว่าดูดไขมันจำเป็นต้องใช้ยาสลบหรือไม่ คงต้องตอบว่า
ถ้าเราไม่ได้ดูดปริมาณมาก หรือ หลายที่สามารถทำโดยฉีดยาชาเฉพาะที่ได้เพราะ รู้ตัว ราคาเหมาะสม รู้สึกถึงการดูดไขมันบ้างพอสมควร แล้วแต่คนว่าจะไหวหรือเปล่า คนเรากลัวหรือรับรู้ความเจ็บไม่เท่ากัน และอาจจะมีเมื่อยจากการนอนบางท่านานๆได้
แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ปริมาณไขมันมากและที่ๆต้องดูดมีหลายที่ ดมยาสลบน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าครับ เพราะหลับไปเลย ไม่มีละเมอขยับตัวทำให้แพทย์ลำบากในการทำ มีแพทย์วิสัญญีดูแลตอนหลับและตื่น
ไม่ค่อยแนะนำการฉีดยาเข้าเส้นเลือดดำในการผ่าตัดนะครับ เพราะอันตรายกว่า นอกจากจะแน่ใจว่ามีแพทย์วิสัญญีเป็นผู้ดูแลการผ่าตัด ซึ่งถ้าอยากแน่ใจควรสอบถามจากสถานพยาบาลนั้นๆ หรือขอเจอแพทย์วิสัญญีก่อนผ่าตัดได้นะครับ เพื่อให้เรามั่นใจมากขึ้นครับ
หวังว่าจะได้ข้อมูลเพื่อช่วยในการตัดสินใจนะครับ
โฆษณา