3 พ.ค. 2021 เวลา 16:05
รู้ไหมว่าการทำงานเป็นแอดมินมันดียังไง
พูดแล้วเหมือนเป็น concept นะ แต่จริงๆมันฝึกอะไรได้เยอะมากเลยเวลาที่คุณรับปัญหาของคนอื่นมาแล้วคุณแก้มันผ่านไปได้
และเป็นการฝึกให้รู้ว่ากฎเมอร์ฟี่ไม่มีจริง
งานแอดมินเพจ facebook ของเรา มีอยู่ 2 หน้าที่หลักๆ
หน้าที่แรก คือการให้ข้อมูลสินค้าอย่างเต็มที่ จนเขาสนใจซื้อสินค้าของเรา
หน้าที่ที่สอง คือการช่วยแก้ปัญหาหลังการขาย คำถามผลิตภัณฑ์ วิธีการใช้งานในวัตถุประสงค์ต่างๆ
ทั้งหมดนี้ทำสลับกัน ทั้งวันทั้งคืน เคยทำมากสุดคือ 3 เพจพร้อมกัน เชื่อไหมว่ามันสนุกมากเลย
ทำไมเราพูดถึงกฎเมอร์ฟี่ มีคนเคยพูดว่า ถ้าวันนั้นเราเจอเรื่องอะไรที่แย่ๆมาสักเรื่องหนึ่ง แล้วเราก็เจอเรื่องแย่ๆใหม่ๆอยู่เรื่อยๆทั้งวันนั้น เขาจะเรียกว่ากฎเมอร์ฟี่
ตัดภาพมาที่ admin คนนี้ คุณใหม่ๆที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ เขาก็มีคำถามของเขา หรือคนเก่าๆที่ซื้อสินค้าไปแล้ว เขาไม่เข้าใจ เขาก็มีคำถามที่อยากให้เราช่วยเหมือนกัน แล้วเมื่อคนสองกลุ่มนี้เกิดมีคำถามพร้อมๆกัน ใช่เลย กฏเมอร์ฟี่แน่ๆ แต่เดี๋ยวก่อน...
ถ้าเรามองแค่ว่า คำถามของใคร เราก็แค่ต้องยื่นคำตอบของคนนั้นไป ทุกกฎเมอร์ฟี่ทุกกฎประหลาดในโลกนี้มันจะไม่มีตัวตนเลยนะ
ทุกปัญหามันมีคำตอบ ถ้าเราไม่ไปนั่งยึดติดกับรสนิยมการรับรู้ถ้อยคำในแบบของเรา อันนี้เราหมายถึงว่า เวลาเรามีคำถามขึ้นมาว่า ทำไมคนนี้เขาไม่ใช้คำพูดแบบนี้ ทำไมคนนั้นเขาถามด้วยถ้อยคำแบบนั้น โอโห...โคตรเสียเวลา และบั่นทอนพลังงานในการดำเนินชีวิตมาก
ลองเปลี่ยนมุมมองดูนะ เวลาเราได้ยินคำถามนึง เอาง่ายๆ ตีมันว่าเป็นโจทย์ว่าเขาต้องการคำตอบอะไร ถามมาตอบไปธรรมดา และไม่ต้องยึดติดกับคำว่ากล้อมที่อยู่ข้างๆคำถามพวกนั้น เราจะช่วยเขาได้เร็ว แล้วเราเองก็จะไม่รองรับอารมณ์ของคนอื่นมาไว้ที่ตัว
มันอาจจะไม่ใช่คำถามที่สามารถยกตัวอย่างขึ้นมาให้เห็นง่ายๆ แต่ถ้าวันนึงคุณเจอลูกค้าถามคำถามนึงขึ้นมา แล้วคุณรู้สึกจุก รู้สึกโกรธ รู้สึกเสียหน้า ให้รู้ไว้เลยว่าคุณหลงไปกับคำว่าล้อมที่ลูกค้าคนนั้นพยายามจะดึงคุณเข้าไป
เราต้องหาให้เจอสิ ว่าจริงๆเขาต้องการอะไร ในคำเหล่านั้นมันมีคำถามที่เรามีคำตอบให้เขาอยู่ หรือถ้ามันหาไม่ได้จริงๆ ลองตั้งคำถามกลับไปดูว่าสิ่งที่เราคิดพอจะเป็นคำตอบให้เขาได้ไหม
รู้และมีตัวอย่างหนึ่ง ....
เช้ามาเปิดมือถือตามสไตล์ admin ข้อความแรกที่ขึ้นคือ เดี๋ยวจะแจ้งตำรวจมาจับ !!
คำถามแรกมีหัวที่อ่านคำนี้คือ เขาพิมพ์มาผิดคนไหมนะ เป็นการรีเช็คลูกค้า เลยถามกลับไปว่า ติดปัญหาตรงไหนไหมคะ
เขาตอบกลับมาว่า ไม่เห็นกลุ่ม facebook ที่ให้เข้าไปใช้งานเลย ไม่เห็นรับเข้ากลุ่มอะไรเลย
อ้อ.... คำพูดผ่านมาของเรา อ้าว...ยังไม่ได้เข้ากลุ่มหรอคะ ขอ admin เช็คให้สักครู่นะคะ แล้วเราก็ไปเช็คในกลุ่ม facebook อันนั้น โชคดีมากชื่อของเขาโผล่เป็นชื่อเล็กๆของกลุ่ม เราเลยแคปหน้าจอทำสัญลักษณ์ให้เขาเห็นว่าชื่อเขาอยู่ตรงนี้
กลับมาที่หน้าแชทลูกค้าคนเดิม เราส่งรูปนั้นให้ พร้อมรีบพิมพ์กลับไปว่า admin เช็คให้แล้วค่ะคุณพี่อยู่ในกลุ่มเรียบร้อยแล้วนะคะ ไม่เป็นไรค่ะถ้าหากลุ่มไม่เจอ admin ทิ้ง link สำหรับเข้ากลุ่มให้นะคะ ☺️
ส่งข้อความยังไม่ถึง 3 วิ มีข้อความลูกค้าตอบกลับมาว่า facebook มันไม่เตือน ขอโทษครับ
ด้วยวิญญาณของ admin จึงบริการหลังการขายอย่างดีเลิศไปว่า ไม่เป็นไรค่ะพี่ถ้าเขาหลังหาไม่เจอ admin ขออนุญาตส่งวิธีหากรุ๊ปใน facebook ให้นะคะ
จากนั้นก็แคปหน้าจอทุกขั้นตอนในการเข้า facebook เข้าหากลุ่มวิธีการเข้าฟังก์ชันต่างๆเรียบร้อยเสร็จสรรพเซฟเป็นรูป และพิมพ์ขั้นตอนต่างๆสลับกับรูปแต่ละขั้นตอน ส่งให้คุณพี่เขาเรียบร้อย
คำตอบที่ได้มาก็คือ ไว้มาดูทีหลังนะ พอดีต้องรีบไปทำงาน
แอดมินคนสวยเลยตอบไปว่า ได้เลยค่ะพี่ติดปัญหาตรงไหนอีกแจ้งได้ตลอดเลยนะคะ
รอดไปที จบเช้านี้สวยๆ แบบไม่ต้องเข้าคุกแล้ว ดีใจจัง 🤟😆
เชื่อว่าหลายคนเพราะอ่านสถานการณ์นี้ต้องรู้สึกโกรธ แล้วก็บอกว่าลูกค้าคนนี้ @#฿_&+sfjyg แน่ๆ 5555
แต่พอดีเราเป็นแอดมินที่โคตรเก่ง (หลงตัวเอง 1) แล้วไม่ติดกับอารมณ์โกรธเขาเลย ย้ำ! ไม่ติดกับ แถมยื่นคำตอบสวยๆให้เขาด้วย
เราไม่ได้บอกว่ามันง่ายนะ แต่สิ่งแรกที่ต้องคิดให้ได้คือ เราลองนึกสิ ถ้าเราพิมพ์ข้อความแบบนี้หาใครสักคน แสดงว่าตอนนั้นเราจะเป็นยังไง เราต้องผิดหวัง ก็คงจะกังวล แล้วเราคงจะโกรธที่ไว้ใจคนผิด แต่นั่นคือความเข้าใจผิด เราก็แค่ต้องเสิร์ฟข้อความในแบบที่ถูกเท่านั้นเอง.
ฝึกมาเยอะนะ สบถด่าลูกค้าลับหลังก็เยอะ 5555 จนตอนนี้แทบไม่ได้รู้สึกอะไรกับข้อความบางข้อความที่ถ้าหลายคนอาจจะรู้สึกว่าคนมีการศึกษาเขาไม่น่าพิมพ์มาทำกันแบบนี้
ไม่รู้ทำให้งงไหม แต่อยากให้ทุกคนลองดูนะ สู้ๆ
โฆษณา