4 พ.ค. 2021 เวลา 01:00 • กีฬา
ทำไมแฟนแมนยูถึงเกลียดตระกูลเกลเซอร์? - Love United Hate Glazer
เนื่องจากว่าในรอบสุดสัปดาห์นี้ ประเด็นที่ร้อนที่สุดคงหนีไม่พ้นการประท้วงครั้งใหญ่ของแฟนบอลแมนยูไนเต็ดในศึกแดงเดือดที่กำลังจะเจอกับลิเวอร์พูล ซึ่งผลการประท้วงในครั้งนั้นทำให้เกมดังกล่าวถูกเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด ซึ่งสาเหตุการประท้วงก็มาจากที่แฟนบอลนั้นเหลืออดกับตระกูลเกลเซอร์แล้ว และต้องการจะขับไล่ตระกูลเกลเซอร์ออกจากสโมสรที่พวกเขารัก เพราะเหตุใดแฟนบอลจึงเกลียดเกลเซอร์ วันนี้ผมจะมาอธิบายแบบเข้าใจง่ายๆกันครับ
2
ตระกูลเกลเซอร์คือใคร?
เกลเซอร์คือตระกูลชาวอเมริกันที่เป็นเจ้าของทีมแทมป้าเบย์ บัคคาเนียร์ ทีมอเมริกันฟุตบอลของลีค NFL โดยตระกูลนี้นำโดยมัลคอล์ม เกลเซอร์ ผู้เป็นพ่อของตระกูลนี้และบรรดาลูกๆเช่น โจเอลและอัฟราม เกลเซอร์ ซึ่งผลงานของการบริหารทีมแทมบ้าเบย์ บัคคาเนียร์นับว่ายอดเยี่ยม โดยหลังจากที่เทคโอเวอร์ทีมนี้มาไม่นาน เขาสามารถพาทีมคว้าแชมป์ซุปเปอร์โบลว์ได้ในปี 2003 และล่าสุดก็สามารถคว้าแชมป์ซุปเปอร์โบลว์ปีล่าสุดได้สำเร็จ จากการนำทีมของควอเตอร์แบ็คจอมเก๋าอย่าง ทอม เบรดี้ นี่จึงเป็นเครื่องพิสูจน์อย่างนึงว่าตระกูลเกลเซอร์นั้นบริหารทีมกีฬาได้เก่งมากในระดับนึง
Malcolm Glazer
Joel and Avram Glazer
การเทคโอเวอร์แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
แรกเริ่มเดิมทีของสโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดก่อนที่ตระกูลเกลเซอร์จะเข้ามาเป็นเจ้าของในปี 2005 นี่คือทีมที่ประสบความสำเร็จที่สุดในเกาะอังกฤษ โดยนับตั้งแต่เปลี่ยนชื่อมาเป็นพรีเมียร์ลีคในปี 1992 แมนยูสามารถคว้าแชมป์ลีคได้ถึง 8 สมัย โดยเสียแชมป์ให้กับแบล็กเบิร์น โรเวอร์สในฤดูกาล 1994/1995 และอาร์เซนอลอีก 3 ครั้งในฤดูกาล 1997/1998 , 2001/2002 , และ 2003/2004 ซึ่งในตอนนั้นแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเป็นทีมที่ประสบความสำเร็จทั้งถ้วยแชมป์และรายได้จนทีมสามารถเข้าสู่ตลาดหุ้นได้สำเร็จ
ในขณะที่แมนยูไนเต็ดกำลังเดินหน้าไล่ล่าความสำเร็จ ตระกูลเกลเซอร์ก็ได้มีการทยอยซื้อหุ้นของแมนยูไนเต็ดไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเมื่อปี 2005 มัลคอล์ม เกลเซอร์ตัดสินใจกู้เงินธนาคารจำนวน 520 ล้านปอนด์เพื่อมาซื้อหุ้นทั้งหมดของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดและเมื่อรวมกับเงินตัวเองอีก 270 ล้านปอนด์ ทำให้ตระกูลเกลเซอร์เป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมดของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดและกลายเป็นเจ้าของทีมในที่สุด
มาถึงตรงนี้เราจะเห็นว่าการเทคโอเวอร์ของตระกูลเกลเซอร์ เงินส่วนใหญ่มาจากการกู้ธนาคาร ทำให้ตระกูลเกลเซอร์เป็นหนี้ธนาคารและส่งผลให้แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเป็นหนี้ธนาคารกว่า 500 ล้านปอนด์โดยปริยาย ซึ่่งแฟนแมนยูในขณะนั้นรับไม่ได้กับการกระทำแบบนี้เพราะเดิมทีทีมของพวกเขาเป็นทีมที่ร่ำรวยไม่มีหนี้ แต่อยู่ดีๆก็มีตระกูลเกลเซอร์มาทำให้แมนยูไนเต็ดเป็นหนี้ธนาคาร ซึ่งตระกูลเกลเซอร์นั้นรู้ดีว่าทีมนี้มีผลประกอบการที่ดี ทำให้ไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะเอากำไรจากทีมนี้มาใช้หนี้ให้ตัวเอง
ถ้าเราคิดง่ายๆ ถ้าอยากใช้หนี้ธนาคารให้ไวขึ้น ก็ต้องนำกำไรที่ได้จากผลประกอบการมาใช้หนี้ให้เร็วที่สุด เป็นผลให้แทนที่จะนำกำไรที่ได้มาต่อยอดด้วยการปรับปรุงสนามซ้อม ซื้อตัวผู้เล่นดีๆ กลับต้องนำเงินบางส่วนทยอยใช้หนี้ให้เจ้าของทีม
1
เรื่องนำเงินสโมสรไปใช้หนี้ให้เจ้าของทีม ทำให้แฟนบอลบางส่วนรับไม่ได้กับการกระทำของเจ้าของทีมที่ทำตัวเหมือนปลิงมากอบโกยผลประโยชน์เข้ากระเป๋าตัวเอง จึงได้ไปก่อตั้งทีมยูไนเต็ดออฟแมนเชสเตอร์ ซึ่งปัจจุบันเป็นทีมนอกลีคของอังกฤษ และแฟนบอลส่วนใหญ่ที่ยังรักทีมนี้ก็ได้ก่อตั้งแคมเปญ Love United Hate Glazer เพื่อส่งสัญญาณว่าพวกเราไม่เอาตระกูลเกลเซอร์
1
Love United Hate Glazer
ยูไนเต็ดหลังเกลเซอร์เป็นเจ้าของทีม
แม้จะมีกระแสต่อต้านเจ้าของทีมเป็นระยะๆ แต่ยุคนั้นต้องยอมรับว่าแมนยูภายใต้การคุมทัพของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน แมนยูนไเต็ดยังคงเป็นทีมระดับลุ้นแชมป์ พวกเขาสามารถคว้าลีคได้ 3 ปีตั้งแต่ปี 2007 ถึง 2009 โดยขุนพลหลักคือคริสเตียโน โรนัลโด้และเวย์น รูนีย์ ไม่เพียงเท่านั้นในปี 2008 พวกเขาสามารถคว้าแชมป์ยุโรปได้สำเร็จจากการชนะจุดโทษเชลซี
แชมป์ยุโรปปี 2008
จุดเปลี่ยนของทีมมาอยู่ในช่วงต้นฤดูกาล 2009/2010 แมนยูไนเต็ดได้ขายคริสเตียโน โรนัลโด้ให้เรอัลมาดริดด้วยค่าตัวสถิติโลกถึง 80 ล้านปอนด์ ซึ่งแทนที่จะนำเงินก้อนนั้นมาซื้อผู้เล่นระดับซุปเปอร์สตาร์เข้ามาทดแทนการจากไปของโรนัลโด้ แต่กลับซื้อได้เพียงปีกขวาจากวีแกนอย่างอันโตนีโอ วาเลนเซีย ทำให้ฤดูกาลนั้นแมนยูเสียแชมป์ลีคให้กับเชลซีในที่สุด
โรนัลโด้ย้ายไปเรอัลมาดริด
แม้ว่าหลังจากนั้นแมนยูไนเต็ดจะสามารถกลับมาคว้าแชมป์ได้อีก 2 ครั้งในฤดูกาล 2010/2011 และ 2012/2013 ซึ่งนั่นคือฤดูกาลสุดท้ายของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันก่อนจะวางมือจากการคุมทีมปีศาจแดง ต้องพูดกันตามตรงว่านอกจากโรบิน ฟาน เพอร์ซีย์ที่คว้าตัวมาจากอาร์เซนอล แมนยูไนเต็ดแทบไม่มีการซื้อผู้เล่นดาวดังเข้ามาสู่ทีมอีกเลย
แชมป์พรีเมียร์ลีคครั้งสุดท้ายของปีศาจแดง
ในฤดูกาล 2009/2010 แฟนบอลมีการแสดงออกด้วยการใช้สีเขียว-ทอง ซึ่งคือสีของนิวตันฮีธ ทีมเดิมก่อนที่จะเปลี่ยนชื่อเป็นแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในภายหลัง เป็นการสื่อว่าพวกเขาอยากแมนยูไนเต็ดทีมเดิมกลับมา ไม่ใช่แมนยูที่เจ้าของเป็นต่างชาติที่เข้ามาหวังกอบโกยผลประโยชน์ และในศึกยูฟ่าแชมป์เปี้ยนส์ลีค เกมที่แมนยูเปิดบ้านพบเอซีมิลาน เดวิด เบ็คแฮมที่ขณะนั้นเป็นนักเตะของมิลานได้ก้มลงหยิบพ้าพันคอสีเขียวทองขึ้นมาคล้องคอ เพื่อเป็นการแสดงออกว่า เขาไม่เอาตระกูลเกลเซอร์เหมือนกัน
เดวิด เบ็คแฮมกับการแสดงเชิงสัญลักษณ์
ยุคตกต่ำของแมนยูไนเต็ด
หลังจากที่เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันวางมือไป พวกเขาได้แต่งตั้งเอ็ด วู้ดเวิร์ด อดีตนายธนาคารขึ้นมาเป็นซีอีโอคนใหม่ เรื่องนึงที่ยอมรับอย่างนึงนั่นคือเอ็ด วู้ดเวิร์ดเป็นคนที่หาเงินเข้าสโมสรเก่งมาก แต่ในเรื่องของฟุตบอล เขากลับไม่มีความรู้ด้านนี้เลย ทำให้ผู้จัดการทีมที่เดินเข้ามาคุมทีมต่อจากท่านเซอร์ ไล่ตั้งแต่เดวิด มอยส์ หลุยส์ ฟานกัล หรือแม้แต่โชเฆ่ มูริญโญ่ ไม่มีใครที่พูดได้เต็มปากพาทีมประสบความสำเร็จเลย แมนยูไนเต็ดหลังยุคเซอร์สามารถคว้าได้เพียงแชมป์ลีคคัพ, เอฟเอคัพ, และยูโรปาลีคได้อย่างละสมัย ซึ่งมันน้อยมากเมื่อเทียบความสำเร็จในอดีต
แชมป์ยูโรปา ลีค ปี 2017
การซื้อผู้เล่นที่ทั้งแพงและไม่เข้าระบบทีมมากมายทั้ง อเล็กซิส ซานเชส , อังเคล ดิ มาเรีย , เมมฟิส เดปาย , โรเมลู ลูกากู ต่างเป็นการซื้อตัวที่ผิดพลาด และทั้งหมดนี้ถูกขายออกแบบขาดทุนทุกคน เป็นการบ่งบอกชัดเจนว่าทีมซื้อขายของแมนยูไนเต็ดที่นำโดยเอ็ด วู้ดเวิร์ดกับแมทช์ จั๊ดส์ ไม่มีความรู้เรื่องฟุตบอลเลยที่จะสามารถคัดเลือกนักเตะที่เหมาะสมและเข้ากับระบบทีมมาสู่สโมสรแห่งนี้
การจัดตั้งซุปเปอร์ลีค
หลังจากที่แฟนบอลเหลืออดกับเจ้าของที่วันๆเอาแต่กอบโกยผลประโยชน์เข้าตนเองและไม่มีความรักต่อทีมเฉกเช่นเจ้าของทีมอื่นๆเช่น โรมัน อับราโมวิชของเชลซี จนกระทั่งฟางสุดท้ายสุดท้ายได้บังเกิดขึ้น เมื่อโจเอล เกลเซอร์ประกาศนำทีมเข้าร่วมซุปเปอร์ลีค ซึ่งตรงนี้ทำให้แฟนบอลหลายๆทีมรับไม่ได้ เพราะเป็นการเห็นแก่เงินจำนวนมากและเป็นการทำลายประวัติศาสตร์ฟุตบอลที่มีมาอย่างยาวนาน
ตรงนี้ขอข้ามไปพูดถึงประธานซุปเปอร์ลีคอย่างฟลอเรนติโน เปเรซ ที่บอกว่าฤดูกาลที่ผ่านมาหลายๆทีมในยุโรปขาดทุนอย่างมหาศาลจากพิษโควิท-19 และซุเปอร์ลีคคือทางออกที่จะช่วยสโมสรเพราะเม็ดเงินที่ได้การแข่งขันมีมูลค่ากว่า 3000 ล้านยูโร
ซึ่งแฟนบอลปีศาจแดงนั้นรู้ดีว่าเงินดังกล่าวไม่ได้จะนำมาจุนเจือสโมสรหรอก แต่เป็นการฉวยโอกาสกอบโกยรายได้มหาศาลเข้าตนเองเหมือนเดิม และปล่อยให้สโมสรขาดทุนเช่นเดิม
แม้ภายหลังจะออกมาขอโทษแฟนบอลแล้ว แต่ตอนนี้แฟนบอลก็หมดความอดทนกับตระกูลเกลเซอร์แล้วเช่นกัน จึงได้ก่อการประท้วงครั้งใหญ่ในเกมแดงเดือดเพื่อประกาศกร้าวว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเป็นของคนแมนเชสเตอร์ตามข่าวที่ทุกคนได้เห็นกันนั่นเอง
1
แม้การแข่งขันดังกล่าวจะถูกเลื่อนออกไปแล้ว แต่ความโกรธแค้นของแฟนบอลยังคงอยู่ พวกเขาต้องการให้เกลเซอร์ขายทีมทิ้งซะ เพื่อตัดปัญหาที่คาราคาซังมาอย่างยาวนาน และคุณคิดว่าเรื่องนี้จะจบอย่างไร โปรดติดตามตอนต่อไป ขอบคุณครับ
#Glazerout #manunited #superleague
1
โฆษณา